xs
xsm
sm
md
lg

สิงห์รถบรรทุกสลายม็อบแล้ว หลังเด้งหัวหน้าด่านชั่งน้ำหนักแปดริ้ว-ตั้งกรรมการสอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา- ทางหลวงสั่งเด้งหัวหน้าด่านชั่งน้ำหนักแปดริ้วเข้ากรุแล้ว พร้อมเตรียมตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ตามที่สิงห์รถบรรทุกต้องการร้องขอ ก่อนยอมเปิดเส้นทางสัญจรสลายการชุมนุม บนถนน 304 สายเศรษฐกิจของภาคตะวันออกแล้ว

วันนี้ (1 ก.ค.) ที่หน้าสถานีตรวจสอบน้ำหนักบางไผ่ (สตน.บางไผ่) พื้นที่ ม.8 ต.บางไผ่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จุดที่มีผู้ประกอบการรถบรรทุกพ่วง นำรถบรรทุก 22 ล้อ จำนวนกว่า 10 คัน มาปิดถนนเรียกร้องขอให้ย้าย นายยงนริศ เลิศศิริจิตร อายุ 52 ปี ผู้จัดการหัวหน้าสถานีตรวจสอบน้ำหนักบางไผ่ พร้อมขอให้สอบสวนเอาผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง หลังจากอ้างว่าถูกบุคคลดังกล่าวใช้อำนาจหน้าที่กลั่นแกล้งรังแก ขณะนำรถเข้าชั่งน้ำหนัก

ล่าสุด ขณะนี้กลุ่มผู้ประกอบการได้ยอมสลายการชุมนุมแล้ว หลังจากแขวงการทางจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มีคำสั่งที่ สทล.12 ขท.ฉะเชิงเทรา/ค.2724 ลงวันที่ 30 มิ.ย.52 เรื่อง ขอส่งตัวเจ้าหน้าที่ กลับต้นสังกัด ตามบันทึกแนบท้ายนั้น ระบุว่า ได้ขอส่งตัว นายยงนริศ เลิศศิริจิตร ตำแหน่งนายช่างโยธา ข้าราชการพลเรือนระดับชำนาญการ ให้ออกเดินทางกลับตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.2552 เป็นต้นไป พร้อมหนังสือ รายงานตัวกลับจากการปฏิบัติราชการชั่วคราว เลขที่ สทล.12 ขท.ฉะเชิงเทรา .1/ค/2725 ลงวันที่ 30 มิ.ย.2552 ลงนามท้ายทั้งสองคำสั่งโดย นายสุนทร ประกายประเสริฐ ผู้อำนวยการแขวงการทางฉะเชิงเทรา

นอกจากนี้ ในหนังสือแนบท้าย ยังระบุอีกว่า ให้แขวงการทางฉะเชิงเทรา ประสานกับทางจังหวัด ให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงตามที่ผู้ประกอบการร้องเรียนมาด้วย
ขณะที่นายทรงไชย เธียรปรีชา อายุ 47 ปี เจ้าของบริษัท ทรงไชยรุ่งเรือง ขนส่ง จำกัด แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม กล่าวว่า ได้ทราบคำสั่งดังกล่าวแล้ว ตั้งแต่เวลา 21.00 น.วันที่ 30 มิ.ย.2552 แต่ไม่สะดวกที่จะขนย้ายรถบรรทุก ซึ่งเป็นขบวนยาวออกจากพื้นที่ไปในเวลากลางคืน เพราะหวั่นเกรงว่าจะถูกกลั่นแกล้งอีก จึงได้ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนำรถตำรวจ มานำขบวนออกจากพื้นที่ไปในเวลากลางวัน

ด้าน นายสุนทร ประกายประเสริฐ ผู้อำนวยการแขวงการทางฉะเชิงเทรา กล่าวว่า สาเหตุที่ต้องออกคำสั่ง ส่งตัว นายยงนริศ เลิศศิริจิตร กลับไปยังต้นสังกัดเดิม (สคน.) นั้น เนื่องจากได้รับการประสานงานมาจาก สำนักงานควบคุมน้ำหนัก ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง ขอให้ส่งตัวกลับไป เพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลง ส่วนการตั้งคณะกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงนั้น เป็นส่วนของทางจังหวัด ที่จะมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน ซึ่งในการสอบสวนก็จะต้องยึดหลักทางกฎหมายมาอ้างอิงเป็นหลัก

ในเรื่องนี้จะว่าใครผิด ก็คงไม่มีใครผิด อยู่ที่ดุลพินิจในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่แต่ละคน ว่า การเข้าชั่งน้ำหนักของรถพ่วงนั้น จะให้ถอดแยกระหว่างตัวลูก กับตัวแม่ หรือ จะให้เข้าชั่งน้ำหนักรวมกัน

รถของผู้ประกอบการที่ออกมาเรียก และปิดถนนนั้น มีน้ำหนักบรรทุกมาทั้งสองส่วนรวม 52 ตัน แต่กฎหมายได้กำหนดไว้ไม่เกิน 53 ตัน ถ้าเข้าชั่งรวมทั้งคันก็คงไม่ผิด แต่เมื่อจับแยกชั่งน้ำหนักแล้ว กลับพบว่าตัวแม่มีน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนด 1-2 ตัน การที่จะจับแยกชั่งหรือไม่แยกชั่งน้ำหนักนั้น ก็อยู่ที่ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ ซึ่งที่ผ่านมาด่านชั่งน้ำหนักแห่งนี้ก็ได้มีการจับแยกชั่งน้ำหนัก กับผู้ประกอบการหลายราย หากสงสัยว่าน้ำหนักที่บรรทุกมาเกิน ไม่ได้เลือกปฏิบัติ
กำลังโหลดความคิดเห็น