สระแก้ว - ชาวกัมพูชาทะลักเข้าชายแดนไทย เพื่อทำการค้าและเข้ามาขายแรงงาน พร้อมเผยไม่อยากให้ 2 ประเทศสู้รบกัน
วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่บริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ช่องทางผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว มีประชาชนชาวกัมพูชาในกลุ่มพ่อค้าแม่ขายในตลาดการค้าโรงเกลือ ริมชายแดนฝั่งไทย พร้อมกลุ่มแรงงานกรรมกรรับจ้างขายแรงงานทั่วไปใน 9 ตลาด มายื่นรอแน่นถนัดเต็มหน้าประตูด่าน เพื่อรอเข้าชายแดนไทย เนื่องจากเป็นช่องทางผ่านแดนถาวรสากลระดับประเทศ เพื่อให้ประชาชนชาวไทย-กัมพูชา ตลอดจนชาวต่างชาติทั่วโลกได้เดินทางเข้าออกเพื่อการท่องเที่ยวภายในของแต่ละประเทศ ทั้งยังเป็นเส้นทางนำสินค้าส่งออกขายเข้าภายในประเทศกัมพูชา ออกไปยังประเทศที่ 3
หลังเจ้าหน้าที่ร่วมเปิดประตูหน้าด่าน ชาวกัมพูชาหญิงชายนับหมื่นที่ยื่นรอเพื่อเดินทางเข้ามาค้าขายในตลาดการค้าโรงเกลือริมชายแดนของฝั่งไทย ถึง 9 ตลาดใหญ่ชายแดน ประกอบด้วย ตลาดการค้าโรงเกลือเก่า ตลาดสตองปลา ตลาดมิตรภาพไทย-กัมพูชา (เทศบาล 3) ตลาดเทศบาล 2 ตลาดเดชไทย ตลาดใหม่เบญจวรรณ์ ตลาดใหม่ซับสมบูรณ์ ตลาดใหม่ขายผลไม้ และตลาดเช้าหมูเนื้อและปลาที่ชาวกัมพูชาต่างพากันดีใจ จึงพากันแห่ทะลักแย่งวิ่งเข้าเขตไทย เพื่อรีบเปิดร้านค้าขาย
หลังจากชาวกัมพูชาโดยเฉพาะกลุ่มแม่ค้าและกลุ่มแรงงานกรรมกรรับจ้างขายแรงงานหวั่นวิตกต่อสถานการณ์ทางด้านเขาปราสาทพระวิหาร ชายแดนด้านอำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่อาจมีการสู้รบทางทหารระหว่างของไทยกับฝ่ายกัมพูชา ที่ 2 ฝ่ายต่างลำเลี่ยงกำลังพลทางทหาร เพื่อเตรียมความพร้อมอาจเกิดการสู้รบนองเลือดกันขึ้นมาอีกครั้ง จากความไม่เข้าใจกันในเรื่องของสิทธิปราสาทเขาพระวิหาร 3-4 วันผ่านมา
จนกระทั่งมีผลทางด้านการเจรจากันระหว่างของไทยกับฝ่ายกัมพูชา ที่ร่วมกันด้วยดีจนเกิดภาพที่ดีเกิดขึ้น พร้อมการยืนยันทั้ง 2 ฝ่ายว่าจะไม่มีการสู้รบกันเกิดขึ้น จึงทำให้ชาวกัมพูชากลุ่มแม่ค้าและกลุ่มกรรมกรแรงงานรับจ้างขายแรงงานภายในตลาดการค้าโรงเกลือริมชายแดนฝั่งไทยด้านจังหวัดสระแก้วเริ่มมีความคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง
ทั้งนี้ ชาวกัมพูชาทุกคนต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่อยากให้มีการสู้รับกันเกิดขึ้น ซึ่งไม่เกิดประโยชน์อะไร จะมีแต่ความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมยันว่าจากสถานการณ์การสู้รบภายในประเทศกัมพูชาที่ผ่านมายังอยู่ในความทรงจำของชาวกัมพูชาทุกคนตลอดเวลา
วันนี้ (29 มิ.ย.) ที่บริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ช่องทางผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว มีประชาชนชาวกัมพูชาในกลุ่มพ่อค้าแม่ขายในตลาดการค้าโรงเกลือ ริมชายแดนฝั่งไทย พร้อมกลุ่มแรงงานกรรมกรรับจ้างขายแรงงานทั่วไปใน 9 ตลาด มายื่นรอแน่นถนัดเต็มหน้าประตูด่าน เพื่อรอเข้าชายแดนไทย เนื่องจากเป็นช่องทางผ่านแดนถาวรสากลระดับประเทศ เพื่อให้ประชาชนชาวไทย-กัมพูชา ตลอดจนชาวต่างชาติทั่วโลกได้เดินทางเข้าออกเพื่อการท่องเที่ยวภายในของแต่ละประเทศ ทั้งยังเป็นเส้นทางนำสินค้าส่งออกขายเข้าภายในประเทศกัมพูชา ออกไปยังประเทศที่ 3
หลังเจ้าหน้าที่ร่วมเปิดประตูหน้าด่าน ชาวกัมพูชาหญิงชายนับหมื่นที่ยื่นรอเพื่อเดินทางเข้ามาค้าขายในตลาดการค้าโรงเกลือริมชายแดนของฝั่งไทย ถึง 9 ตลาดใหญ่ชายแดน ประกอบด้วย ตลาดการค้าโรงเกลือเก่า ตลาดสตองปลา ตลาดมิตรภาพไทย-กัมพูชา (เทศบาล 3) ตลาดเทศบาล 2 ตลาดเดชไทย ตลาดใหม่เบญจวรรณ์ ตลาดใหม่ซับสมบูรณ์ ตลาดใหม่ขายผลไม้ และตลาดเช้าหมูเนื้อและปลาที่ชาวกัมพูชาต่างพากันดีใจ จึงพากันแห่ทะลักแย่งวิ่งเข้าเขตไทย เพื่อรีบเปิดร้านค้าขาย
หลังจากชาวกัมพูชาโดยเฉพาะกลุ่มแม่ค้าและกลุ่มแรงงานกรรมกรรับจ้างขายแรงงานหวั่นวิตกต่อสถานการณ์ทางด้านเขาปราสาทพระวิหาร ชายแดนด้านอำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่อาจมีการสู้รบทางทหารระหว่างของไทยกับฝ่ายกัมพูชา ที่ 2 ฝ่ายต่างลำเลี่ยงกำลังพลทางทหาร เพื่อเตรียมความพร้อมอาจเกิดการสู้รบนองเลือดกันขึ้นมาอีกครั้ง จากความไม่เข้าใจกันในเรื่องของสิทธิปราสาทเขาพระวิหาร 3-4 วันผ่านมา
จนกระทั่งมีผลทางด้านการเจรจากันระหว่างของไทยกับฝ่ายกัมพูชา ที่ร่วมกันด้วยดีจนเกิดภาพที่ดีเกิดขึ้น พร้อมการยืนยันทั้ง 2 ฝ่ายว่าจะไม่มีการสู้รบกันเกิดขึ้น จึงทำให้ชาวกัมพูชากลุ่มแม่ค้าและกลุ่มกรรมกรแรงงานรับจ้างขายแรงงานภายในตลาดการค้าโรงเกลือริมชายแดนฝั่งไทยด้านจังหวัดสระแก้วเริ่มมีความคึกคักขึ้นมาอีกครั้ง
ทั้งนี้ ชาวกัมพูชาทุกคนต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่อยากให้มีการสู้รับกันเกิดขึ้น ซึ่งไม่เกิดประโยชน์อะไร จะมีแต่ความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน พร้อมยันว่าจากสถานการณ์การสู้รบภายในประเทศกัมพูชาที่ผ่านมายังอยู่ในความทรงจำของชาวกัมพูชาทุกคนตลอดเวลา