พิษณุโลก - ชาวบ้านขุดพบโครงกระดูกมนุษย์โบราณถูกฝังพร้อมภาชนะดินเผาที่ อ.บางระกำ คาดอายุ 2,000 ปี เหตุก่อนหน้านี้กรมศิลป์เคยพบขวานหินอายุเท่าๆ กัน ผอ.สำนักโบราณคดีฯ 6 หวั่นชาวบ้านขุดเองจะทำลายโบราณวัตถุ สั่งนักโบราณคดีเข้าตรวจสอบวันนี้ (29 มิ.ย.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) ชาวบ้านหนองตะเคียนได้ขุดพบโครงกระดูกสมัยโบราณ สภาพนอนหงาย บริเวณหน้าศาลาวัดหนองตะเคียน หมู่ที่ 9 ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก สภาพโครงร่างเห็นเพียงขา สะโพก ซี่โครง แขน และกะโหลก กระดูกแตกกระจัดกระจาย นอกจากนี้ยังพบเศษภาชนะดินเผาอีก 3 ใบ
ด้าน พระรุ่งโรจน์ วิโรจณี พระลูกหวัดหนองตะเคียน กล่าวว่า ชาวบ้านหนองตะเคียนสงสัยและต้องการพิสูจน์ว่า บริเวณที่พบโครงกระดูกเป็นชุมชนในอดีตจริงหรือไม่ เพราะไม่กี่วันที่ผ่านมา กรมศิลปากรได้ขุดพบขวานหินขัดโบราณอายุ 2,000 ปี พร้อมเศษภาชนะดินอยู่ใกล้สระน้ำ ทำให้มีการขุดค้นโครงกระดูกต่อโดยใช้จอบและเสียม และใช้แปรงขัดเศษดินออก จนเห็นเป็นรูปเป็นร่างของโครงกระดูกที่นอนหงายและมีภาชนะดินเผา
จากคำบอกเล่าคนรุ่นเก่าเคยบอกว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้านเคยพบโครงกระดูกแล้วได้ช่วยกันเผาและทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปแล้วเพราะคนตายมักฝังศพพร้อมกับภาชนะดินเผา
นายร่ำ ศรีบัว อายุ 49 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 ต.หนองกุลา อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก กล่าวว่า บริเวณวัดหนองตะเคียนเดิมเป็นป่ารก เริ่มมีการสร้างวัดในปี 2530 ช่วงสร้างวัดเคยพบโครงกระดูกมนุษย์ ส่วนเศษภาชนะดินเผาต่างๆ พบเห็นอยู่ทั่วบริเวณรอบวัด และสระน้ำในวัด
นายอนันต์ ชูโชติ ผู้อำนวยการสำนักโบราณคดีและศิลปากรที่ 6 สุโขทัย บอกกับผู้สื่อข่าวว่า น่าเสียดายที่ชาวบ้านลงมือขุดกันเอง อาจไปทำลายแหล่งโบราณคดี เพราะขุดมาแล้ว โครงกระดูกจะเปื่อยสลายในเวลาต่อมาไม่เกิน 2 เดือน เพราะความชื้นของอากาศ แต่มั่นใจว่าวัดหนองตะเคียนแห่งนี้มีการค้นพบขวานหินขัดอายุ 2,000 ปีจริง ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีสมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์ และในวันนี้ (29 มิ.ย.) ตนจะสั่งการให้นักโบราณคดีเข้าไปสำรวจอีกครั้ง