บุรีรัมย์ – ทหารเรือกลับมาบวชที่บ้านเกิดบุรีรัมย์ เพื่อนทหาร–ตร.ร่วมเพียบ ขณะแห่นาคเกิดเขม่นวัยรุ่นเจ้าถิ่นยกพวกตะลุมบอน ยายญาตินาคโร่เข้าห้ามถูกยิงดับ ส่วนวัยรุ่นถูกยิงสาหัส 2 คนก่อเหตุเผ่นหาย ส่วนน้องสาวป่วยมะเร็งรู้ข่าวพี่สาวตายเกิดช็อกตายตามอีก 1 ราย
วานนี้ (28 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.ท.จิตรกร ประสงค์สุข สารวัตรเวร สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บหลายราย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ไพรัช สุขสงญาติ ผกก. พ.ต.ต.วิชัย ฉายไธสง สวป. และกำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง
ที่เกิดเหตุเป็นถนนภายในหมู่บ้านโคกจิก ม.1 ต.หนองเยือง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ พบกองเลือดกลางถนน ผู้เสียชีวิตทราบชื่อ นางเลียบ ทำไธสง อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 ม.2 ต.หนองเยือง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ถูกยิง ด้วยอาวุธปืน ขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณหน้าอก จำนวน 1 นัด แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย คือ นายโอภาส ลาดนอก อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 ม.1 ต.หนองเยือง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ถูกยิงเข้าที่หน้าท้อง จำนวน 1 นัด อาการสาหัส และนายพัชระพงศ์ ศรียางนอก อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.1 ต.หนองเยือง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ถูกยิงเข้าที่ขาขวาทะลุ จำนวน 1 นัด อาการสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาลบ้านใหม่ไชยพจน์
จากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีการจัดงานบวชของ พ.จ.อ.อาทิตย์ วิถี อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 ม.2 ต.หนองเยือง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นทหารเรืออยู่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้กลับบ้านมาบวชเพื่อทดแทนคุณบิดามารดา โดยมีเพื่อนนาคซึ่งเป็นทั้ง ทหาร ตำรวจ และเพื่อนในหมู่บ้านมาร่วมงานจำนวนมาก
ขณะกำลังแห่ขบวนนาคไปตามถนนรอบหมู่บ้าน ก่อนจะเข้าไปที่วัดโคกจิก เพื่ออุปสมบท ได้มีกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน ได้เข้ามาก่อกวนกลุ่มทหาร ตำรวจ ที่เป็นเพื่อนนาค จนเกิดการชกต่อย และมีทหารได้รับบาดเจ็บ ซึ่งฝ่ายทหาร ได้พยายามร้องขอให้เลิกชกต่อยกันก่อน และช่วยกันนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล แต่ทางกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวกับรุมเข้ามาทำร้ายอีก ขณะนั้น นางเลียบ ทำไธสง อายุ 67 ปี ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นญาติของนาค ได้เข้ามาห้ามพร้อมกับดึง 2 วัยรุ่นออกมา ทันใดนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวนหลายนัด ซึ่งกระสุนปืนได้ถูกนางเลียบ และ 2 วัยรุ่น จนล้มฟุบ ก่อนกลุ่มเพื่อนนาคจะพากันหลบหนีไป
ต่อมาเวลาไล่เลี่ยกัน ทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งว่าที่บ้านของนางเลียบ ทำไธสง น้องสาวคนตาย ชื่อ นางปิ้ง ทำไธสง อายุ 60 ปี ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งเต้านม ตกใจหลังทราบข่าวว่าพี่สาวถูกยิงตาย ทำให้เกิดช็อกเสียชีวิตอีก 1 ราย
ด้าน พ.ต.อ.ไพรัช สุขสงญาติ ผกก.สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน กระจายกำลังติดตามไล่ล่ากลุ่มมือปืนที่ก่อเหตุแล้ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา “ฆ่าคนตายโดยเจตนา” ได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งขณะนี้ทราบเบาะแสของมือปืนโหดดังกล่าวแล้ว
ล่าสุด ส.ต.ท.สมเกียรติ บรรดาศักดิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด สภ.สุไงปาดี จ.นคราธิวาส บ้านเกิดอยู่ อ.ปะทาย จ.นครราชสีมา เพื่อนนาค ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงในงานบวช จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์แล้ว ซึ่งเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น”
ส่วน จ.อ.สุทัศน์ ตอบไธสง สังกัดเหล่าพลาธิการทหารเรือ กรุงเทพมหานคร เพื่อนของนาค ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ได้รวบรวมข้อมูลหลักฐาน พร้อมทั้งได้แจ้งไปยังต้นสังกัดและติดต่อให้ญาติทราบแล้ว เพื่อนำตัว จ.อ.สุทัศน์ เข้ามามอบตัว และให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำ ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
วานนี้ (28 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.ท.จิตรกร ประสงค์สุข สารวัตรเวร สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บหลายราย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ไพรัช สุขสงญาติ ผกก. พ.ต.ต.วิชัย ฉายไธสง สวป. และกำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง
ที่เกิดเหตุเป็นถนนภายในหมู่บ้านโคกจิก ม.1 ต.หนองเยือง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ พบกองเลือดกลางถนน ผู้เสียชีวิตทราบชื่อ นางเลียบ ทำไธสง อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27 ม.2 ต.หนองเยือง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ถูกยิง ด้วยอาวุธปืน ขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณหน้าอก จำนวน 1 นัด แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย คือ นายโอภาส ลาดนอก อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 ม.1 ต.หนองเยือง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ถูกยิงเข้าที่หน้าท้อง จำนวน 1 นัด อาการสาหัส และนายพัชระพงศ์ ศรียางนอก อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.1 ต.หนองเยือง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ถูกยิงเข้าที่ขาขวาทะลุ จำนวน 1 นัด อาการสาหัส ถูกนำส่งโรงพยาบาลบ้านใหม่ไชยพจน์
จากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีการจัดงานบวชของ พ.จ.อ.อาทิตย์ วิถี อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 ม.2 ต.หนองเยือง อ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นทหารเรืออยู่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้กลับบ้านมาบวชเพื่อทดแทนคุณบิดามารดา โดยมีเพื่อนนาคซึ่งเป็นทั้ง ทหาร ตำรวจ และเพื่อนในหมู่บ้านมาร่วมงานจำนวนมาก
ขณะกำลังแห่ขบวนนาคไปตามถนนรอบหมู่บ้าน ก่อนจะเข้าไปที่วัดโคกจิก เพื่ออุปสมบท ได้มีกลุ่มวัยรุ่นเจ้าถิ่นในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน ได้เข้ามาก่อกวนกลุ่มทหาร ตำรวจ ที่เป็นเพื่อนนาค จนเกิดการชกต่อย และมีทหารได้รับบาดเจ็บ ซึ่งฝ่ายทหาร ได้พยายามร้องขอให้เลิกชกต่อยกันก่อน และช่วยกันนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล แต่ทางกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวกับรุมเข้ามาทำร้ายอีก ขณะนั้น นางเลียบ ทำไธสง อายุ 67 ปี ผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นญาติของนาค ได้เข้ามาห้ามพร้อมกับดึง 2 วัยรุ่นออกมา ทันใดนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจำนวนหลายนัด ซึ่งกระสุนปืนได้ถูกนางเลียบ และ 2 วัยรุ่น จนล้มฟุบ ก่อนกลุ่มเพื่อนนาคจะพากันหลบหนีไป
ต่อมาเวลาไล่เลี่ยกัน ทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งว่าที่บ้านของนางเลียบ ทำไธสง น้องสาวคนตาย ชื่อ นางปิ้ง ทำไธสง อายุ 60 ปี ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งเต้านม ตกใจหลังทราบข่าวว่าพี่สาวถูกยิงตาย ทำให้เกิดช็อกเสียชีวิตอีก 1 ราย
ด้าน พ.ต.อ.ไพรัช สุขสงญาติ ผกก.สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน กระจายกำลังติดตามไล่ล่ากลุ่มมือปืนที่ก่อเหตุแล้ว ซึ่งคาดว่าจะสามารถติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา “ฆ่าคนตายโดยเจตนา” ได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งขณะนี้ทราบเบาะแสของมือปืนโหดดังกล่าวแล้ว
ล่าสุด ส.ต.ท.สมเกียรติ บรรดาศักดิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด สภ.สุไงปาดี จ.นคราธิวาส บ้านเกิดอยู่ อ.ปะทาย จ.นครราชสีมา เพื่อนนาค ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงในงานบวช จนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์แล้ว ซึ่งเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่น”
ส่วน จ.อ.สุทัศน์ ตอบไธสง สังกัดเหล่าพลาธิการทหารเรือ กรุงเทพมหานคร เพื่อนของนาค ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ได้รวบรวมข้อมูลหลักฐาน พร้อมทั้งได้แจ้งไปยังต้นสังกัดและติดต่อให้ญาติทราบแล้ว เพื่อนำตัว จ.อ.สุทัศน์ เข้ามามอบตัว และให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำ ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป