อดีต ปชส.อุบลฯดับเครื่องชนแจ้งจับผู้ว่าฯ

อุบลราชธานี - อดีตประชาสัมพันธ์จังหวัดอุบลราชธานี ผลงานดีเด่น แต่ถูกเด้งนอกฤดูกาล จึงรวบรวมหลักฐานแจ้งความดำเนินคดี ผวจ.ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพราะเชื่อคำร้องเรียนของสื่อมวลชนบางคนในจังหวัด ซึ่งมีแผนลึกหวังดึงคนของตนเข้ามาเสียบแทน

เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้( 21 มิ.ย.) พ.ต.ท.วิชชาธร วรรณทวี สารวัตรเวร สภ.เมือง จ.อุบลราชธานี ได้รับแจ้งจากนางปรมาภรณ์ ศรีสินธารากูล ประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 ถ.พิชิตรังสรรค์ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี ต้องการร้องทุกข์กล่าวโทษนายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ฐานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

โดยนางปรมาภรณ์ ให้การว่าเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.2551 กรมประชาสัมพันธ์มีคำสั่งที่ 1064/2551 ให้ข้าราชการจำนวน 3 รายพ้นจากหน้าที่ในตำแหน่งเดิม และย้ายสลับสับเปลี่ยนประกอบด้วยนางปรมาภรณ์ ศรีสินธารากูล จาก จ.อุบลราชธานี ไป จ.ยโสธร นายเฉลิมชัย จันทรเสนา จาก จ.บุรีรัมย์ มา จ.อุบลราชธานี และนายพงษ์ศักดิ์ อินทรทัต จาก จ.ยโสธร ไป จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นการโยกย้ายนอกฤดูกาล

นางปรมาภรณ์ ให้การต่อว่า คำสั่งดังกล่าว ทำให้นางปรมาภรณ์ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกรณีถูกสั่งโยกย้ายนอกฤดูไปยังหน่วยงานต้นสังกัด เพื่อขอทราบเหตุผลถึงการโยกย้ายดังกล่าว แต่ไม่ได้รับคำตอบ จึงได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ

ต่อมาเมื่อวันที่ 1 เม.ย.2552 คณะกรรมการ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารได้มีคำวินิจฉัยให้เปิดเผยหนังสือของผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ที่ อบ 0016.3/20522 ลงวันที่ 3 พ.ย.2551 ซึ่งมีถึงอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เสนอให้ย้ายนางปรมาภรณ์

โดยแนบหนังสือของสมาคมสื่อมวลชนส่วนกลางจังหวัดอุบลราชธานี ลงวันที่ 31 ต.ค.2551 ซึ่งทำเรื่องเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ย้ายนางปรมาภรณ์ออกจากพื้นที่ โดยมีผู้สื่อข่าวส่วนกลาง 4 คน ลงชื่อสนับสนุน จึงเป็นเหตุผลให้นายชวนผู้ว่าราชการจังหวัดใช้เป็นข้ออ้างเสนอย้ายนางปรมาภรณ์ดังกล่าว ทำให้ได้ความเสียหายและไม่ได้รับความเป็นธรรม

จึงได้รวบรวมเอกสารใช้เป็นหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษนายชวน ศิรินันท์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ฐานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบดังกล่าว

สำหรับนางปรมาภรณ์มีประวัติการทำงานดีเด่น ได้รับรางวัลผู้นำหน่วยงานราชการประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้า และลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของราชการจากกระทรวงพลังงานเมื่อปี 2551 รวมทั้งวันหยุดราชการก็ยังมานั่งทำงาน ทำให้ได้รับการปูมบำเหน็จจากต้นสังกัดให้ 2 ขั้น 3 ปีซ้อน แต่สาเหตุที่ถูกกลุ่มสื่อมวลชนบางคนรวมหัวร้องเรียน เพราะนางปรมาภรณ์ไม่ยอมก้มหัวให้

พร้อมมีแผนจะโยกย้ายประชาสัมพันธ์จังหวัดบางคนที่สนิทชิดเชื้อกับสื่อมวลชนกลุ่มนี้เข้ามาแทน แต่ทำได้เพียงย้ายนางปรมาภรณ์ออกไปนอกพื้นที่เท่านั้น และนางปรมาภรณ์ยังเป็นน้องสาวของนายนิธิศักดิ์ ราชพิตร อดีต ผวจ.อุบลราชธานีด้วย

ด้าน พ.ต.อ.นพพร จัยสิน ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี กล่าวว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบสวนคำให้การของนางปรมาภรณ์ และจะเรียกพยานที่เกี่ยวข้องมาให้ปากคำ เพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนในคดี พร้อมจะได้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.วินิจฉัยลงความเห็นภายในสามสิบวัน เมื่อได้คำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ก็จะได้ดำเนินการต่อไป