ตราด - แรงงานของบริษัท A & P ORCHARD เข้าร้องเรียนผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากบริษัทหยุดกิจการเพราะ ออร์เดอร์ที่รับซื้อเต็ม ส่งผลให้แรงงานตกงาน
วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมธารมะยม ศาลากลางจังหวัดตราด นายโกมล เชยสมบัติ ผู้แทนกลุ่มผู้รับจ้าง โรงงาน A & P เข้าพบนายนพดล ศรีสุข ปลัดจังหวัดตราด พร้อมด้วยนายสมหมาย เมฆกล่อม นายอำเภอเขาสมิง และน.ส.วิภา ยุชัย จัดหางานจังหวัดตราด เพื่อเรียกร้องให้ช่วยเจรจากับบริษัท A & P ORCHARD ที่มีการเลิกจ้างแรงงานแกะมังคุดให้มีการดำเนินการต่อไป
ปลัดจังหวัดตราดกล่าวว่า จากการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดตราดได้จัดให้มีโครงการราคาผลผลิตตกต่ำ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ และในขณะนี้บริษัท A & P ORCHARDได้มีปัญหาเกี่ยวกับออร์เดอร์ที่รับซื้อมังคุดเต็มอัตรา จึงต้องมีการหยุดกิจการประกอบกับประสบปัญหาการขัดแย้งภายใน ส่งผลให้จำนวนแรงงานไทยที่ทำงานอยู่นั้นตกงาน ซึ่งทางจังหวัดได้มีการช่วยโดยได้ประสานงานกับบริษัท และตัวแทนชาวสวนผลไม้ และมีข้อสรุปคือ เจ้าของบริษัทประสานงานรับออร์เดอร์มังคุดเพิ่มจากเดิม
โดยนำเงินหมุนเวียนที่ทางจังหวัดมีงบประมาณมาช่วยชาวเกษตรกรนำไปซื้อมังคุด ส่วนด้านปัญหาแรงงาน ทางจังหวัดจะเสนอเรื่องถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอนุมัติ ให้ อส.มาช่วยด้านแรงงาน และจะนำมังคุดที่เก็บไว้ในห้องเย็นจาก จ.จันทบุรี มาทำที่ จ.ตราด แล้วจะมีการดำเนินงานให้ครบตามโควต้าที่ได้รับมา
ด้านนายโกมล ตัวแทนกลุ่มแรงงานรับจ้างกล่าวว่า วันนี้ได้เป็นตัวแทนของกลุ่มแรงงานมาร้องเรียนกับทางจังหวัดให้ช่วยเจรจากับทางบริษัท A & P ORCHARD ที่มี่มีการเลิกจ้างแรงงาน ประมาณ 1,000 คน เนื่องจากบริษัทปิด แรงงานก็ได้รับความเดือดร้อน เพราะไม่มีงานทำ ขาดรายได้ไปเลี้ยงครอบครัว และจากการเข้าเจรจากับตัวแทนบริษัท A & P ก็ได้ข้อสรุปว่า ทางบริษัทจะทำการรับออร์เดอร์มาเพิ่มให้ทางแรงงานไทยได้มีงานทำต่อ
น.ส.เกสร กีรติการุณ เลขานุการ ผู้จัดการบริษัท A & P ORCHARD กล่าวว่า เนื่องจาก คนงานในบริษัท มีความขัดแย้งกันในเรื่องแรงงานที่เข้ามารับจ้างทำงาน ทำให้ทางบริษัทมีความวิตกกังวลในเรื่องของการผลิตสินค้า เนื่องจากสินค้าที่ผลิตเป็นสินค้าสำหรับการบริโภคเพื่อสุขภาพ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น จึงไม่มั่นใจว่าสินค้าจะปลอดภัยหรือไม่ กลัวว่าจะมีผลกระทบกับทางจังหวัด และประเทศไทยเพราะสินค้าของเราส่งออกไปขายยังตลาดต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ จึงต้องยุติโครงการไปก่อน ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการปรึกษาหารือกับหน่วยงานภาครัฐว่าควรจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งน่าจะแก้ปัญหาได้ในเร็วๆ นี้