ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ว่าฯชลบุรี เรียกประชุมสถานประกอบการในพื้นที่เมืองพัทยากว่า 1,000 แห่ง แจงปัญหาการแพร่ระบาดไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ยืนยันไม่พบผู้ป่วยเพิ่มสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พร้อมขอความร่วมมือภาคเอกชนร่วมทำความสะอาดตามนโยบาย Big Cleaning Day
วันนี้ (12 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมโรงแรมพัทยาพาร์ค จ.ชลบุรี นายเสนีย์ จิตตเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานการประชุมร่วมกับตัวแทนจากสถานประกอบการ ในพื้นที่เมืองพัทยา อ.บางละมุง รวมจำนวนกว่า 1,000 ราย เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไข้ หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งล่าสุดมีรายงานผู้ติดเชื้อในพื้นที่เมืองพัทยาจำนวนหลายราย
นายเสนีย์ กล่าวว่า หลังได้รับการประสานงานจากกระทรวงสาธารณสุขไต้หวัน ว่า มีนักท่องเที่ยวจำนวน 2 ราย ติดเชื้อไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ หลังจากเดินทางมาท่องเที่ยวที่เมืองพัทยา จึงได้ประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
พร้อมกำหนดพื้นที่เป้าหมายในการเข้าตรวจสอบ 2 จุด คือ โรงแรมที่พัก และสถานบันเทิงที่นักท่องเที่ยวชาวไต้หวันเข้าไปใช้บริการ ก่อนนำพนักงานรวมกว่า 141 คนไปทำการตรวจ หาเชื้อ ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีผู้ติดเชื้อจำนวน 17 ราย และผู้ป่วยที่ตรวจพบจากสถานพยาบาลอื่นอีก 4 รายรวม 21 ราย จากนั้นจึงทำการมอบหมายให้ชุดเฉพาะกิจเฝ้าดูแลอาการและรักษาพยายามอย่างใกล้ชิด โดยให้ยาทามิฟลูพร้อมทั้งเฝ้าระวังดูอาการของผู้ใกล้ชิดและสัมผัสผู้ติดเชื้อ
ซึ่งจนถึงปัจจุบันยืนยันได้ว่ายังไม่มีผู้ป่วยเพิ่มเติมมากกว่าเดิมแต่อย่างใด จึงถือว่าการทำงานของชุดปฏิบัติการสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ในวงจำกัด
นายเสนีย์ กล่าวต่อไปว่าสำหรับมาตรการการป้องกันอื่นๆนั้น ขณะนี้ได้สั่งการให้เมืองพัทยา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ 3 จังหวัดชลบุรี ลงพื้นที่ไปยังสถานศึกษาทั้ง 32 แห่งในเขตเพื่อตรวจสอบและประชาสัมพันธ์ให้ครู นักเรียน ได้รับทราบถึงแนวทางป้องกัน รวมทั้งเฝ้าระวังผู้ติดเชื้อ ซึ่งได้มอบหมายให้มีการตรวจสอบกลุ่มเด็กนักเรียน ที่มีอาการป่วย 3 คนขึ้นไปต่อห้อง ทั้งนี้ได้รับรายงานว่ามีเด็กที่มีอาการจำนวน 13 คน ในชั้นอนุบาลศึกษาของโรงเรียนแห่งหนึ่ง จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ แต่ก็พบว่าเด็กทั้งหมดป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม สำหรับเมืองพัทยาถือว่าเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่มีประชาชนและนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก มีสภาพความเป็นอยู่ที่แออัดจึงถือว่าเสียงต่อการแพร่เชื้อ จึงได้ขอความร่วมมือไปยังสถานประกอบการทั้งหลาย ในการร่วมสำรวจอาการของพนักงาน ซึ่งหากพบก็ให้ประสานงานมายังชุดปฏิบัติการเร่งด่วน รวมทั้งให้ความร่วมมือในการทำความสะอาดสถานที่ตามนโยบาย Big Cleaning Day เพื่อให้เกิดความมั่นใจแก่ผู้ใช้บริการด้วย
ในส่วนของสถานการณ์ทางการท่องเที่ยว ยืนยันว่ามีผลกระทบบ้างพอสมควร แต่ก็ถือว่าไม่รุนแรงมากนัก เพราะจากการรับรายงานเบื้องต้นจากโรงแรมต่างๆ พบว่า มียอดนักท่องเที่ยวประมาณ 20-30% เพราะถือว่าเป็นช่วง Low Season แต่ก็คาดว่าในเวลาไม่นานนี้สถานการณ์ทุกอย่างคงกลับสู่ภาวะปกติ
ขณะที่ นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นปัจจุบันคาดว่าคงจะไม่รุนแรง เนื่องจากไม่มีผู้ป่วยเพิ่มและสามารถควบคุมได้ในวงจำกัด จึงได้เร่งทำหนังสือชี้แจงไปยังกระทรวงต่างประเทศ และบริษัทนำเที่ยวในประเทศต่างๆ อีกเป็นครั้งที่ 2 เพื่อชี้แจงถึงมาตรการและแนวทางการป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพ
ที่สำคัญ ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ เมืองพัทยาจะมีกลุ่มสัมมนาจากประเทศไต้หวันจำนวนนับพันคนเดินทางเข้ามาทำกิจกรรม จึงจำเป็นต้องเสริมสร้างความมั่นใจในระดับนานาชาติ อย่างไรก็ตามต้องขอความร่วมมือจากสถานประกอบการต่างๆ ในการร่วมรณรงค์ในการป้องกันและรักษาความสะอาดสถานที่ด้วย โดยหากพบว่ามีภาวะของผู้เสี่ยงติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยงก็สามารถประสานงานมาได้ที่โทรศัพท์สายด่วนสาธารณสุข 1669 หรือ Pattaya Callcenter ที่ 1337 ได้ตลอด 24 ชม.