ศูนย์ข่าวศรีราชา- สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ติวเข้ม ผอ.โรงเรียน ครูอนามัย เฝ้าระวังไข้หวัดใหญ่ 2009 ด้านสำนักเขตพื้นที่การศึกษา สั่งโรงเรียนสำรวจข้อมูลเขยฝรั่งเข้าออกประเทศหวั่นแพร่เชื้อ
วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว นายแพทย์พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการการควบคุมโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้กับผู้บริหารสถานศึกษา ครูอนามัยโรงเรียน หัวหน้าสถานีอนามัยในเขตอำเภอเมือง จำนวน 170 คน
สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ไกลตัว เนื่องจากเกิดการระบาดที่ประเทศเม็กซิโก แต่ขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสเอช1เอ็น1 แล้ว จำนวน 38 ราย (ข้อมูลวันที่ 11 มิ.ย.52)
ดังนั้น การควบคุมป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 จึงต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน โดยเฉพาะโรงเรียนซึ่งเป็นศูนย์รวมของนักเรียนและครูอาจารย์ หากเกิดมีการติดเชื้อขึ้นมาจะมีโอกาสแพร่เชื้อสูง จึงจำเป็นต้องให้ให้ผู้บริหารสถานศึกษา ครูอนามัย หัวหน้าสถานีอนามัยมีความรู้ความเข้าใจในการควบคุมป้องกันโรคที่ถูกต้อง มาตรการต่างๆ หากเกิดโรคดังกล่าวขึ้น แล้วยังช่วยประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับโรค การป้องกันตนเอง ไปยังนักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนอีกทางหนึ่ง
นายแพทย์พีระ กล่าวต่อไปว่า การเตรียมการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ของจังหวัดสระแก้ว น อกจากการซ้อมแผนรับมือการระบาดของโรคร่วมกันระหว่างจังหวัดสระแก้วและจังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชาแล้ว ที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ ได้คัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2552 โดยกล้องเทอร์โมสแกน จำนวน 571,706 คน มีผู้ที่เฝ้าระวัง จำนวน 458,269 คน เป็นผู้ที่เดินทางมาจากเขตติดโรคภายใน 7 วัน จำนวน 198 คน และได้ให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพแก่ชาวต่างชาติ และแจกบัตรเฝ้าระวังโรคแก่ผู้เดินทางเข้าประเทศทุกราย
ด้าน นายสุรพล น้อยแสง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสระแก้ว เขต 1 เปิดเผยว่า จากที่มีข่าวเด็กนักเรียนชั้น ป.6 ในกรุงเทพฯ ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 และเนื่องจากจังหวัดสระแก้ว มีชาวต่างชาติที่มีภรรยาเป็นคนไทยหรือเขยฝรั่งในพื้นที่อยู่จำนวนหนึ่ง มีบุตรกำลังเรียนในโรงเรียนต่างๆ
จึงได้สั่งการไปยังผู้บริหารสถานศึกษาในความรับผิดชอบทั้ง 161 แห่งใน 5 อำเภอ สำรวจข้อมูลนักเรียนกลุ่มดังกล่าวกลับมาภายในวันที่ 15 มิถุนายน 2552 เนื่องจากเกรงว่าชาวต่างชาติกลุ่มนี้มีการเดินทางเข้าออกประเทศบ่อยครั้ง อาจนำเชื้อเข้ามาแพร่สู่บุตรหลานและคนในครอบครัวได้ จึงจำเป็นต้องมีข้อมูลเฝ้าระวังไว้ก่อน
นอกจากนี้ มาตรการในการเฝ้าระวังได้ให้ผู้บริหารโรงเรียน และครูอนามัยติดตามข่าวสารการเกิดโรคจากสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด หากพบรายงานผู้ป่วยในพื้นที่จะได้ร่วมมือกันป้องกันควบคุมโรคได้ทันเหตุการณ์
