ลำปาง - ชี้มืออุ้ม บก.ข่าวภูมิภาคนิตยสาร “ตำรวจของประชาชน” มีตัวตนจริง เป็นทหารถูกขอมาช่วยราชการดีเอสไอ ตำรวจขอเวลา 10 วันเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน
จากกรณีที่ นายคมกริช ติยะบุตร อายุ 24ปี บ้านเลขที่ 63 ม.14 ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม ปัจจุบันซื้อบ้านอยู่ที่ เลขที่ 57 ม.11 บ้านห้วยเตาปูน ต.เวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง บรรณาธิการข่าวภูมิภาคนิตยสารตำรวจของปวงชน และนักเขียน นสพ.เบาะแส และ นสพ.พิมพ์ไทยรายวัน ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สมนึก เปี้ยสาย พนักงานสืบสวนสอบสวน สภ.เวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง เพื่อดำเนินคดีต่อกลุ่มบุคคล ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นตำรวจดีเอสไอ บุกจับกุมตัว และเข้ารื้อค้นภายในบ้าน
ล่าสุด พ.ต.ท.วิรัช เตชะแก้ว หัวหน้าสถานีตำรวจเวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งความแล้วก็ได้นำตัว นายคมกริช เข้าตรวจสอบและชี้จุดเกิดเหตุต่างๆ เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และได้ประสานงานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ทางวาจาเพื่อตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่นายคมกริช อ้างถึงแล้ว ปรากฏว่า บุคคลดังกล่าว คือ พันโทภาคย์ สิรินันท์ มีตัวตนจริง และขณะนี้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ใน ดีเอสไอ จริง แต่เป็นทหารที่ทางหน่วยงานขอตัวมาช่วยราชการ ซึ่งจะได้ทำหนังสือให้ไปยัง ดีเอสไอ เพื่อขอให้รายงานข้อเท็จจริงกลับมาอีกครั้งว่า วันที่เกิดเหตุ
การที่บุคคลดังกล่าวได้เข้าจับกุมตัว นายคมกริช และเข้าค้นในบ้านนั้น เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน หรือเป็นการทำเองโดยส่วนตัว และนอกจากนั้น ต้องเร่งสืบพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุด้วย เนื่องจากผู้เสียหายไม่มีพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์เลยแม้แต่คนเดียว จึงจำเป็นต้องสืบจากบุคคลอื่นที่ผู้เสียหายอ้างถึง ซึ่งรวมไปถึง นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ที่ผู้เสียหายอ้างว่าในวันเกิดเหตุตนได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อขอความช่วยเหลือด้วย
พ.ต.ท.วิรัช กล่าวว่า ตามการบอกเล่าของผู้เสียหายยังสรุปสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ว่าเหตุที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องโยงใยเกี่ยวกับการนำเสนอข่าวเจาะการบุกรุกเขตอุทยานแห่งชาติ ตามที่ผู้เสียหายสันนิษฐาน หรือเป็นเรื่องส่วนตัว ทั้งนี้จะรีบสืบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมและรับรองว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดยจะเร่งสอบพยานหลักฐานให้เร็วที่สุด คาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 10 วัน ส่วนหลังจากนั้น หากสรุปได้ว่าผู้ที่ก่อเหตุทำในหน้าที่ก็จะต้องมีการส่งสำนวนให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวอื่นๆ
จากกรณีที่ นายคมกริช ติยะบุตร อายุ 24ปี บ้านเลขที่ 63 ม.14 ต.ท่าค้อ อ.เมือง จ.นครพนม ปัจจุบันซื้อบ้านอยู่ที่ เลขที่ 57 ม.11 บ้านห้วยเตาปูน ต.เวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง บรรณาธิการข่าวภูมิภาคนิตยสารตำรวจของปวงชน และนักเขียน นสพ.เบาะแส และ นสพ.พิมพ์ไทยรายวัน ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.สมนึก เปี้ยสาย พนักงานสืบสวนสอบสวน สภ.เวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง เพื่อดำเนินคดีต่อกลุ่มบุคคล ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นตำรวจดีเอสไอ บุกจับกุมตัว และเข้ารื้อค้นภายในบ้าน
ล่าสุด พ.ต.ท.วิรัช เตชะแก้ว หัวหน้าสถานีตำรวจเวียงมอก อ.เถิน จ.ลำปาง กล่าวว่า หลังจากได้รับแจ้งความแล้วก็ได้นำตัว นายคมกริช เข้าตรวจสอบและชี้จุดเกิดเหตุต่างๆ เพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน และได้ประสานงานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ทางวาจาเพื่อตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่นายคมกริช อ้างถึงแล้ว ปรากฏว่า บุคคลดังกล่าว คือ พันโทภาคย์ สิรินันท์ มีตัวตนจริง และขณะนี้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ใน ดีเอสไอ จริง แต่เป็นทหารที่ทางหน่วยงานขอตัวมาช่วยราชการ ซึ่งจะได้ทำหนังสือให้ไปยัง ดีเอสไอ เพื่อขอให้รายงานข้อเท็จจริงกลับมาอีกครั้งว่า วันที่เกิดเหตุ
การที่บุคคลดังกล่าวได้เข้าจับกุมตัว นายคมกริช และเข้าค้นในบ้านนั้น เป็นการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน หรือเป็นการทำเองโดยส่วนตัว และนอกจากนั้น ต้องเร่งสืบพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุด้วย เนื่องจากผู้เสียหายไม่มีพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์เลยแม้แต่คนเดียว จึงจำเป็นต้องสืบจากบุคคลอื่นที่ผู้เสียหายอ้างถึง ซึ่งรวมไปถึง นายไพโรจน์ เทศนิยม นายกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย ที่ผู้เสียหายอ้างว่าในวันเกิดเหตุตนได้โทรศัพท์ไปหาเพื่อขอความช่วยเหลือด้วย
พ.ต.ท.วิรัช กล่าวว่า ตามการบอกเล่าของผู้เสียหายยังสรุปสาเหตุที่แน่ชัดไม่ได้ว่าเหตุที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องโยงใยเกี่ยวกับการนำเสนอข่าวเจาะการบุกรุกเขตอุทยานแห่งชาติ ตามที่ผู้เสียหายสันนิษฐาน หรือเป็นเรื่องส่วนตัว ทั้งนี้จะรีบสืบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมและรับรองว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย โดยจะเร่งสอบพยานหลักฐานให้เร็วที่สุด คาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 10 วัน ส่วนหลังจากนั้น หากสรุปได้ว่าผู้ที่ก่อเหตุทำในหน้าที่ก็จะต้องมีการส่งสำนวนให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวอื่นๆ