หนองคาย - ศุลกากรหนองคาย รวบเด็กวิ่งยาคราวเดียว 2 รายซ้อน รายแรกแม่ลูกอ่อนวัย 21 ปี ยาบ้ายัดยกทรง 2 ข้าง อ้างเพื่อนชาวลาวยืมเงิน 40,000 บาท ตามไปทวง แต่เพื่อนให้ขนยาบ้ามาทิ้งไว้แล้วจะนำไปขายนำเงินมาคืน ส่วนอีกรายหนุ่มอุดร ซ่อนยาบ้าในถุงเท้า อยากไปจีบสาวลาวจึงรับอาสาขนยาบ้าให้
เมื่อเวลา 20.50 น.คืนที่ผ่านมา (8 มิ.ย.) ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เมืองหนองคาย ขณะที่นายเผดิมเดช มั่งคั่ง หัวหน้าฝ่ายควบคุมทางศุลกากร ด่านศุลกากรหนองคาย, ร.ต.อ.อดุลย์ ฉิมทับ หัวหน้าชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธรจังหวัดหนองคาย และชุดสนธิกำลังสกัดกั้นยาเสพติด จ.หนองคาย ร่วมกันตรวจสอบบุคคลที่เดินทางจากประเทศลาวเข้าประเทศ ก็พบหญิงสาวคนหนึ่งลงจากรถโดยสารประจำสะพานเข้าทำพิธีการผ่านแดน ท่าทางเหมือนคนเมายาบ้า
ทราบชื่อภายหลัง คือ น.ส.สุดาวรรณ จันดา อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 516/4 หมู่ 14 ซอยบ้านเก่าจาน ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงเรียกตรวจสอบ น.ส.สุดาวรรณ เห็นเจ้าหน้าที่จึงยอมล้วงเข้าไปในเสื้อยกทรงทั้งสองข้าง หยิบถุงพลาสติกที่บรรจุยาบ้า 2 ถุง ส่งให้กับเจ้าหน้าที่ ตรวจนับได้ 262 เม็ด
ขณะที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัว น.ส.สุดาวรรณ อยู่นั้น ได้มีนายสากล ว่องวิการ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/10 หมู่ 7 ซอยบ้านโนนยาง ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี เข้าทำพิธีการผ่านแดน พอเห็นเจ้าหน้าที่กลับแสดงท่าทางมีพิรุธจึงได้เรียกตรวจค้น และพบยาบ้าบรรจุในถุงพลาสติกซุกซ่อนไว้ในถุงเท้าด้านซ้ายที่นายสากลใส่อยู่จำนวน 38 เม็ด
จากการสอบสวน น.ส.สุดาวรรณ ให้การว่า ตนรู้จักกับเพื่อนผู้หญิงชาวลาวคนหนึ่ง ชื่อน้ำ เคยทำงานเสิร์ฟอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี เมื่อเร็วๆ นี้ โดยขอยืมเงินตนจำนวน 40,000 บาท เพื่อกลับเวียงจันทน์ไปคลอดลูก แต่ตนไม่มีเงินสดให้จึงเอาโฉนดที่นาของแม่ไปจำนอง นำเงินมาให้เพื่อน หลังจากได้เงินก็กลับประเทศลาว
จนกระทั่ง 1 เดือนผ่านไป ตนจึงตามไปพบที่เวียงจันทน์เพื่อจะตามทวงเงิน แต่น้ำบอกไม่มีเงินสดให้จึงให้ตนนำยาบ้าจำนวนดังกล่าวมาที่ฝั่งไทย แล้วให้ตนเปิดห้องพักในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในตัวเมืองหนองคาย จากนั้นจะมารับยาบ้าไปขายแล้วนำเงินมาคืนให้ทั้งหมด
ตนอยากได้เงินไปไถ่ถอนที่นาของแม่และนำเงินที่เหลือเก็บไว้เลี้ยงลูกที่อายุเพียง 1 ขวบ จึงตกลงทำแต่ก็มาถูกจับได้เสียก่อน
ด้านนายสากลให้การรับสารภาพว่า ต้องการไปเที่ยวและจีบสาวที่เวียงจันทน์ แต่ยังไม่มีโอกาส เป็นจังหวะเดียวกับที่นางอรไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง เอเยนต์ยาบ้าชาวอุดรธานี มาบอกตนว่าได้สั่งยาบ้าไว้ 38 เม็ด หากตนไปนำยาบ้ามาให้จะแบ่งยาบ้าให้ตน 10 เม็ด และให้เงินไปเที่ยวจีบสาวด้วย ตนจึงอาสาขนยาบ้าให้ โดยเดินทางไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ในช่วงเช้า
พอตอนค่ำก็เดินทางกลับ หวังจะนำยาบ้าไปส่งให้กับนางอรที่ จ.อุดรธานี แต่ก็ถูกจับได้ในที่สุด จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งสองคนพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
