ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจเร่งดำเนินคดี ขบวนการมอดไม้ลักลอบตัดไม้จากอุทยานตาพระยา เพื่อส่งออกขายต่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสระแก้ว จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตรวจยึดรถบรรทุก 10 ล้อและ 6 ล้อ ร่วม 4 คัน พบบรรทุกไม้ต้องห้ามร่วมทั้งหมด 119 ท่อน ไม้แปรรูปอีก 244 แผ่น พร้อมผู้ต้องหารับจ้างอีก 6 คน เมื่อเร็วๆนี้ หลังตรวจพบว่า มีการลักลอบส่งออกขายต่างชาติทางเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โดยมีขบวนการมอดไม้คนไทย รับออเดอร์จัดหาลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ที่น่าเป็นไปได้จากอุทยานแห่งชาติตาพระยา และเทือกเขาบรรทัด ติดพรหมแดนรอยต่อกับประเทศเพื่อน กัมพูชา เพื่อส่งออกขายมีราคาประเมินค่าไม่ได้แต่ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เป็นผลทำให้พื้นที่ อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ปัจจุบัน เป็นแหล่งลักลอบตัดไม้ทำลายป่า แต่อ้างว่า นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศกัมพูชา ที่แอบแฝงและ อ้างว่า นำเข้ามาเพื่อเป็นสิ่งประดิษฐ์หัตกรรมสินค้าโอท็อป
เพื่อเป็นรายได้ให้กับราษฎรตามแนวชายแดน และเป็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรตามแนวชายแดน แต่ตรงกันข้าม การนำไม้ต้องห้ามเข้ามาเป็นเพียงภาพลวงตา ของชาวบ้าน แต่นายทุนผู้ดำเนินการจัดส่งขายออกต่างประเทศมานับครั้งไม้ถ้วน ที่มีชาวบ้านแต่ละตำบล ที่ถูกแอบ อ้าง ร่วมกิจกรรมสิ่งประดิษฐ์สินค้าโอท็อป ด้วยการนำไม้ต้องห้ามเข้ามาตามแนวชายแดน อย่างเช่น ที่ ช่องทางบ้านทัพเสด็จ บ้านทัพไทย และท้ายหมู่บ้านคลองแผง ตำบลตาพระยา อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว
ล่าสุดวันนี้(8 มิ. ย.52 ) ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบ นาย บุญเชิด เจริญสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาพระยา และ นายวุฒิชัย เกตานนต์ ผู้ช่วยอุทยานแห่งชาติตาพระยา เพื่อตรวจสอบที่มาของไม้ต้องห้าม ที่มีการลักลอบเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่นำไปส่งขายนั้น
นายเชิด เจริญสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาพระยา กล่าวว่า จากการจับกุมการลักลอบขนไม้ต้องห้ามตามดังกล่าว ที่ผ่านมา ว่า สืบเนื่องมาจาก นาย สุปัญญ์ เทียนคำ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 สาขาจังหวัดปราจีนบุรี สืบทราบว่า มีขบวนการมอดไม้ลักลอบนำไม้ต้องห้าม นำไม้ออกนอกพื้นที่ พร้อมได้สั่งการให้ตนร่วมกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ พร้อมประสานสนธิกำลังไปยัง พ.ต.ท.ฐาปนนท์ หน่องพงษ์ ผบ.ร้อย ตชด. ที่ 124 ตาพระยา พร้อมรายงาน พ.ต.อ.ไพโรจน์ สุขี ผบ.หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 กองกำลังบูรพา เข้าวางกำลังสกัดตามเส้นทางที่คาดว่า รถขบวนการมอดไม้ใช้เป็นเส้นทางนำไม้ออกนอกพื้นที่ จนกระทั่งเข้าสกัดกั้นและจับกุมรถยนต์บรรทุกไม้ได้ทั้ง 10 ล้อและ 6 ล้อ ร่วม 4 คัน พร้อมผู้ต้องหาอีก 6 คน มาสอบสวนเบื้องต้น
ผู้ต้องหาอ้างว่า ได้รับค่าจ้างจากนายทุนคนละ 5 พันบาท พร้อมเติมน้ำมันให้ฟรีอีกเต็มถัง โดยมีผู้ถูก อ้างถึง 3 คน คือ นายแถว ไม่ทราบนามสกุล นางสาวมดแดง ไม่ทราบนามสกุล และ นางติ๋ม ไม่ทราบนามสกุล ทั้ง 3 คนไม่ทราบชื่อจริง แต่อยู่ในพื้นที่อำเภอตาพระยา และอำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว โดยมีข้อตกลง เพียงนำรถยนต์บรรทุกไม้ ต้องห้ามวิ่งออกนอกพื้นที่ ไปคอยอยู่ที่ตัวเมืองสระแก้ว จากนั้น จะมีคนของนายทุนใหญ่ มาคอยรับขับรถบรรทุกไม้ทั้ง 4 คัน ไปลงหลักกิโลเมตรที่ 79 อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสิมา ที่คาดว่า เป็นรีสอร์ทใหญ่ในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว
นายเชิด เจริญสุข กล่าวต่ออีกว่า ส่วนเรื่องไม้ต้องห้ามดังกล่าว ที่เป็นข่าว ว่า ต้องสงสัยเป็นไม้อุทยานแห่งชาติตาพระยานั้น ความเป็นจริง ได้ตรวจสอบแล้ว ว่า เป็นไม้ต้องห้าม ที่ลักลอบนำเข้ามาตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ในพื้นที่อำเภอตาพระยา โดยมีกลุ่มแรงงานรับจ้างขายแรงงานชาวกัมพูชา นำเข้ามา เพื่อ อ้างเป็นวิถีราษฎรคนไทยตามแนวชายแดน เป็นรายได้จากสิ่งประดิษฐ์หัตกรรมเป็นโต๊ะ เป็นชุดรับแขก ม้านั่ง ตลอดจนทำชุดต่างๆ ครัวเรือน ชพร้อม อ้างเป็นสินค้าโอท็อป ระดับอำเภอชายแดน พร้อมยืนยันว่า ไม้ต้องห้ามดังกล่าว ไม่ใช่ไม้ลักลอบตัดลงมาจากในอุทยานแห่งชาติตาพระยา และเทือกเขาบรรทัด
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาพระยา กล่าวอีกว่า จากผลเร่งปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายของอุทยานแห่งชาติตาพระยา นับแต่เดือนมกราคม – พ.ค. 52 มีการจับกุมผู้กระทำความผิด พรบ.ป่าไม้ ร่วม 5 คดี คือ คดีบุกรุกที่ดินป่าสงวน 1 ราย ล่าสตัว์ 1 ราย ผู้ตัดไม้มะค่าโมง 4 แผ่น 1 ราย และคดีไม้ตะเคียนทองและตะเคียนหิน 2 ราย ปริมาตร 0.23 ลูกบาศก์เมตร
ด้าน พ.ต.ท.สมเกียรติ ผันประเสริฐ พนักงานสอบสวนร้อยเวร ประจำ สภ.ตาพระยา จังหวัดสระแก้ว กล่าวถึงกรณีผลการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ว่า ขบวนการรับจ้าง อ้างลักลอบนำไม้ต้องห้าม ดังกล่าวเข้ามาจากฝั่งประเทศกัมพูชา ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะท้ายหมู่บ้านทัพเสด็จ ท้ายหมู่บ้านทัพไทย และท้ายหมู่บ้านคลองแผง โดยกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ยอมรับว่า ได้ค่าจ้างคนละ 5 พันบาท ส่วนรถยนต์บรรทุกไม้ นายทุนเติมน้ำมันให้ฟรีเต็มถัง ที่มีข้อตกลงกันว่า นำรถบรรทุกไม้ไปคอยอยู่ในตัวเมืองสระแก้ว แล้วจะมีคนของนายทุนใหญ่มาคอยรับขับรถไป แต่ไม่ทราบว่า จะไปลงที่หลักกิโลเมตรที่ 79 พื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสิมา หรือไปลงท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม
ส่วน พ.ต.อ.ไพโรจน์ สุขี ผบ.หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 กองกำลังบูรพา กล่าวเปิดเผยว่า ขณะนี้ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ฐาปนนท์ หน่องพงษ์ ผบ.ร้อย ตชด. 124 ให้เร่งสืบสวนขยายผลต่อเนื่องถึงขบวนการมอดไม้ตัดไม้ทำลายป่า ที่มีการลักลอบย้อนรอยนำเข้าไทยตามแนวชายแดน โดยเฉพาะช่องทางบ้านทัพเสด็จ ท้ายบ้านทัพไทย และท้ายหมู่บ้านคลองแผง ที่มีการแอบอ้างนำไม้เข้ามาจากประเทศกัมพูชา เพื่อให้เป็นรายได้วิถีชีวิตราษฎรคนไทยตามแนวชายแดน ได้ร่วมประดิษฐ์หัตกรรมประเภทไม้ต่างๆ และเป็นสินค้าโอท็อปประจำอำเภอตาพระยา
จากการสืบสวนทราบ ว่า ไม้ต้องห้ามดังกล่าว สายข่าวบางแหล่งบอกว่า เอาไปส่งที่หลักกิโลเมตรที่ 79 พื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสิมา แต่สายข่าว อ้างว่า ไปลงท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อลงเรือส่งขายต่างประเทศ ที่มีราคาสูงมากขณะนี้ ประเภทไม้เนื้อแข็งและต้องห้าม จึงได้ เร่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสืบจับตัวการมอดไม้มาดำเนินคดีให้ได้เร็วไว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสระแก้ว จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมตรวจยึดรถบรรทุก 10 ล้อและ 6 ล้อ ร่วม 4 คัน พบบรรทุกไม้ต้องห้ามร่วมทั้งหมด 119 ท่อน ไม้แปรรูปอีก 244 แผ่น พร้อมผู้ต้องหารับจ้างอีก 6 คน เมื่อเร็วๆนี้ หลังตรวจพบว่า มีการลักลอบส่งออกขายต่างชาติทางเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี โดยมีขบวนการมอดไม้คนไทย รับออเดอร์จัดหาลักลอบตัดไม้ทำลายป่า ที่น่าเป็นไปได้จากอุทยานแห่งชาติตาพระยา และเทือกเขาบรรทัด ติดพรหมแดนรอยต่อกับประเทศเพื่อน กัมพูชา เพื่อส่งออกขายมีราคาประเมินค่าไม่ได้แต่ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท เป็นผลทำให้พื้นที่ อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ปัจจุบัน เป็นแหล่งลักลอบตัดไม้ทำลายป่า แต่อ้างว่า นำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศกัมพูชา ที่แอบแฝงและ อ้างว่า นำเข้ามาเพื่อเป็นสิ่งประดิษฐ์หัตกรรมสินค้าโอท็อป
เพื่อเป็นรายได้ให้กับราษฎรตามแนวชายแดน และเป็นวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรตามแนวชายแดน แต่ตรงกันข้าม การนำไม้ต้องห้ามเข้ามาเป็นเพียงภาพลวงตา ของชาวบ้าน แต่นายทุนผู้ดำเนินการจัดส่งขายออกต่างประเทศมานับครั้งไม้ถ้วน ที่มีชาวบ้านแต่ละตำบล ที่ถูกแอบ อ้าง ร่วมกิจกรรมสิ่งประดิษฐ์สินค้าโอท็อป ด้วยการนำไม้ต้องห้ามเข้ามาตามแนวชายแดน อย่างเช่น ที่ ช่องทางบ้านทัพเสด็จ บ้านทัพไทย และท้ายหมู่บ้านคลองแผง ตำบลตาพระยา อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว
ล่าสุดวันนี้(8 มิ. ย.52 ) ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบ นาย บุญเชิด เจริญสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาพระยา และ นายวุฒิชัย เกตานนต์ ผู้ช่วยอุทยานแห่งชาติตาพระยา เพื่อตรวจสอบที่มาของไม้ต้องห้าม ที่มีการลักลอบเคลื่อนย้ายออกนอกพื้นที่นำไปส่งขายนั้น
นายเชิด เจริญสุข หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาพระยา กล่าวว่า จากการจับกุมการลักลอบขนไม้ต้องห้ามตามดังกล่าว ที่ผ่านมา ว่า สืบเนื่องมาจาก นาย สุปัญญ์ เทียนคำ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 สาขาจังหวัดปราจีนบุรี สืบทราบว่า มีขบวนการมอดไม้ลักลอบนำไม้ต้องห้าม นำไม้ออกนอกพื้นที่ พร้อมได้สั่งการให้ตนร่วมกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ พร้อมประสานสนธิกำลังไปยัง พ.ต.ท.ฐาปนนท์ หน่องพงษ์ ผบ.ร้อย ตชด. ที่ 124 ตาพระยา พร้อมรายงาน พ.ต.อ.ไพโรจน์ สุขี ผบ.หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 กองกำลังบูรพา เข้าวางกำลังสกัดตามเส้นทางที่คาดว่า รถขบวนการมอดไม้ใช้เป็นเส้นทางนำไม้ออกนอกพื้นที่ จนกระทั่งเข้าสกัดกั้นและจับกุมรถยนต์บรรทุกไม้ได้ทั้ง 10 ล้อและ 6 ล้อ ร่วม 4 คัน พร้อมผู้ต้องหาอีก 6 คน มาสอบสวนเบื้องต้น
ผู้ต้องหาอ้างว่า ได้รับค่าจ้างจากนายทุนคนละ 5 พันบาท พร้อมเติมน้ำมันให้ฟรีอีกเต็มถัง โดยมีผู้ถูก อ้างถึง 3 คน คือ นายแถว ไม่ทราบนามสกุล นางสาวมดแดง ไม่ทราบนามสกุล และ นางติ๋ม ไม่ทราบนามสกุล ทั้ง 3 คนไม่ทราบชื่อจริง แต่อยู่ในพื้นที่อำเภอตาพระยา และอำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว โดยมีข้อตกลง เพียงนำรถยนต์บรรทุกไม้ ต้องห้ามวิ่งออกนอกพื้นที่ ไปคอยอยู่ที่ตัวเมืองสระแก้ว จากนั้น จะมีคนของนายทุนใหญ่ มาคอยรับขับรถบรรทุกไม้ทั้ง 4 คัน ไปลงหลักกิโลเมตรที่ 79 อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสิมา ที่คาดว่า เป็นรีสอร์ทใหญ่ในพื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว
นายเชิด เจริญสุข กล่าวต่ออีกว่า ส่วนเรื่องไม้ต้องห้ามดังกล่าว ที่เป็นข่าว ว่า ต้องสงสัยเป็นไม้อุทยานแห่งชาติตาพระยานั้น ความเป็นจริง ได้ตรวจสอบแล้ว ว่า เป็นไม้ต้องห้าม ที่ลักลอบนำเข้ามาตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ในพื้นที่อำเภอตาพระยา โดยมีกลุ่มแรงงานรับจ้างขายแรงงานชาวกัมพูชา นำเข้ามา เพื่อ อ้างเป็นวิถีราษฎรคนไทยตามแนวชายแดน เป็นรายได้จากสิ่งประดิษฐ์หัตกรรมเป็นโต๊ะ เป็นชุดรับแขก ม้านั่ง ตลอดจนทำชุดต่างๆ ครัวเรือน ชพร้อม อ้างเป็นสินค้าโอท็อป ระดับอำเภอชายแดน พร้อมยืนยันว่า ไม้ต้องห้ามดังกล่าว ไม่ใช่ไม้ลักลอบตัดลงมาจากในอุทยานแห่งชาติตาพระยา และเทือกเขาบรรทัด
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตาพระยา กล่าวอีกว่า จากผลเร่งปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายของอุทยานแห่งชาติตาพระยา นับแต่เดือนมกราคม – พ.ค. 52 มีการจับกุมผู้กระทำความผิด พรบ.ป่าไม้ ร่วม 5 คดี คือ คดีบุกรุกที่ดินป่าสงวน 1 ราย ล่าสตัว์ 1 ราย ผู้ตัดไม้มะค่าโมง 4 แผ่น 1 ราย และคดีไม้ตะเคียนทองและตะเคียนหิน 2 ราย ปริมาตร 0.23 ลูกบาศก์เมตร
ด้าน พ.ต.ท.สมเกียรติ ผันประเสริฐ พนักงานสอบสวนร้อยเวร ประจำ สภ.ตาพระยา จังหวัดสระแก้ว กล่าวถึงกรณีผลการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ว่า ขบวนการรับจ้าง อ้างลักลอบนำไม้ต้องห้าม ดังกล่าวเข้ามาจากฝั่งประเทศกัมพูชา ตามแนวชายแดน โดยเฉพาะท้ายหมู่บ้านทัพเสด็จ ท้ายหมู่บ้านทัพไทย และท้ายหมู่บ้านคลองแผง โดยกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ยอมรับว่า ได้ค่าจ้างคนละ 5 พันบาท ส่วนรถยนต์บรรทุกไม้ นายทุนเติมน้ำมันให้ฟรีเต็มถัง ที่มีข้อตกลงกันว่า นำรถบรรทุกไม้ไปคอยอยู่ในตัวเมืองสระแก้ว แล้วจะมีคนของนายทุนใหญ่มาคอยรับขับรถไป แต่ไม่ทราบว่า จะไปลงที่หลักกิโลเมตรที่ 79 พื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสิมา หรือไปลงท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม
ส่วน พ.ต.อ.ไพโรจน์ สุขี ผบ.หน่วยเฉพาะกิจตำรวจตระเวนชายแดนที่ 12 กองกำลังบูรพา กล่าวเปิดเผยว่า ขณะนี้ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ฐาปนนท์ หน่องพงษ์ ผบ.ร้อย ตชด. 124 ให้เร่งสืบสวนขยายผลต่อเนื่องถึงขบวนการมอดไม้ตัดไม้ทำลายป่า ที่มีการลักลอบย้อนรอยนำเข้าไทยตามแนวชายแดน โดยเฉพาะช่องทางบ้านทัพเสด็จ ท้ายบ้านทัพไทย และท้ายหมู่บ้านคลองแผง ที่มีการแอบอ้างนำไม้เข้ามาจากประเทศกัมพูชา เพื่อให้เป็นรายได้วิถีชีวิตราษฎรคนไทยตามแนวชายแดน ได้ร่วมประดิษฐ์หัตกรรมประเภทไม้ต่างๆ และเป็นสินค้าโอท็อปประจำอำเภอตาพระยา
จากการสืบสวนทราบ ว่า ไม้ต้องห้ามดังกล่าว สายข่าวบางแหล่งบอกว่า เอาไปส่งที่หลักกิโลเมตรที่ 79 พื้นที่อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสิมา แต่สายข่าว อ้างว่า ไปลงท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อลงเรือส่งขายต่างประเทศ ที่มีราคาสูงมากขณะนี้ ประเภทไม้เนื้อแข็งและต้องห้าม จึงได้ เร่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสืบจับตัวการมอดไม้มาดำเนินคดีให้ได้เร็วไว
