กลุ่มต้านโรงไฟฟ้ายึดวันสิ่งแวดล้อมโลกชุมนุมใหญ่หน้าศาลากลางแปดริ้ว

ฉะเชิงเทรา - กลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าหลายพื้นที่ในเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา ยึดวันสิ่งแวดล้อมโลก ผนึกกำลัง องค์กรเอกชน (NGO) เปิดศึกเดินขบวน จัดนิทัศน์การชุมนุมใหญ่หน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา หลังมีโครงการก่อตั้งโรงไฟฟ้าเตรียมโผล่ขึ้นระยิบเต็มพื้นที่ พร้อมรอยื่นหนังสือเรียกร้องพ่อเมืองคนใหม่ เข้าดูแลพื้นที่ได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และความเป็นอยู่ประชาชน

วันนี้ (5 มิ.ย.) เวลา 11.00 น.ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้มีกลุ่มองค์กรเอกชน (NGO) พร้อมด้วยกลุ่มต่อต้านโรงไฟฟ้าจากหลายพื้นที่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ทั้งโรงไฟฟ้าบางปะกง บางคล้า พนมสารคาม เขาหินซ้อน สนามชัยเขต และบางน้ำเปรี้ยว จำนวนกว่า 2 พันคน เดินทางมาปักหลักกลางเต็นท์ พร้อมเปิดเวทีปราศรัย รณรงค์ ลดโลกร้อน และต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม ที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้แก่พื้นที่

โดย นายเสริมศักดิ์ คุณธรรมอนันต์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.1 ต.หนองยาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา หนึ่งในแกนนำองค์กรภาคประชาชน (NGO) พนมสารคาม กล่าวว่า การออกมาชุมนุมเคลื่อนไหวในวันนี้ เพื่อเป็นการรวมตัวกันรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม หลังจากในพื้นที่ อ.พนมสารคาม มีประชาชนได้รับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากมลพิษโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีตั้งอยู่จำนวนมากในพื้นที่หลายแห่ง ที่ส่วนใหญ่มีการบำบัดนำเสียที่ไม่ถูกต้องตามที่ได้ขออนุญาตไว้ต่อทางราชการ และแอบปล่อยน้ำเสียทิ้งลงในคู-คลอง สาธารณะในปริมาณสูงมาก

ในวันนี้จึงได้ออกมาขอใช้สิทธิ์ของประชาชน ในการออกมาปกป้องสิทธิ์ด้านสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อยู่อาศัยของตนเอง โดยที่จะไม่มีการชุมนุมปิดถนนหรือสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น โดยจะมาขอพบกับ นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา คนใหม่ เพื่อที่จะยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าฯ ให้หน่วยงานราชการที่รับผิดชอบเข้าไปดูแลปัญหา ด้านสภาพสิ่งแวดล้อมในแต่ละพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวในพื้นที่ด้วย

นอกจากนี้ การออกมาเคลื่อนไหวของชาว อ.พนมสารคาม ในครั้งนี้ ยังต้องการที่จะเคลื่อนไหวต่อต้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินพนมสารคาม ให้ประชาชนในตัวเมืองทั้งจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้รับรู้ รับทราบอีกด้วยว่า จะมีโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีกำลังการผลิตสูงมากถึงกว่า 600 เมกาวัตต์ เกิดขึ้นอีกในพื้นที่ และต้องแย่งการใช้ทรัพยากรน้ำจากประชาชนในภาคเกษตรกรรมถึงวันละ 3.8 หมื่นลูกบาศก์เมตรต่อวัน

รวมทั้งยังจะสร้างมลพิษด้านสิ่งแวดล้อมจากถ่านหินที่นำมาใช้ถึงวันละ 5 ล้านกิโลกรัม และอาจจะส่งผลด้านมลพิษมายังในเขตตัวเมืองฉะเชิงเทราอีกด้วย เพราะโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะถูกสร้างขึ้นยังบริเวณแหล่งต้นน้ำของบางปะกง