ตาก – “มาลาเรีย-ไข้เลือดออก” ชายแดนไทย-พม่าด้านจังหวัดตากส่อรุนแรง “ซินเทียหม่อง” หมอไร้พรมแดนรับ มีผู้ป่วยชาวพม่าเข้ารักษาที่คลินิกแม่ตาว วันละ 200-300 คน ต้องระดมยาเวชภัณฑ์ ช่วยเต็มที่ ชี้ตอนนี้ยังพอรับได้ แต่หากมากกว่านี้ ต้องขอความช่วยเหลือ
แพทย์หญิงซินเทีย หม่อง เจ้าของรางวัลแม็กไซไซ ผู้ดูแลคลินิกแม่ตาว คลินิกไร้พรมแดน ที่ดูแลตรวจรักษาชาวกะเหรี่ยงสัญชาติพม่า ที่บ้านแม่ตาว ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก กล่าวว่า สถานการณ์โรคติดต่อที่ยุงเป็นพาหนะแพร่เชื้อเช่นไข้มาลาเรีย-ไข้เลือดออกและอื่นๆ ในช่วงเข้าฤดูฝน ที่ชาวกะเหรี่ยงสัญชาติพม่าติดเชื้อและเข้ามาขอรับการรักษามีสถิติเพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยมีผู้เข้ามาเป็นผู้ป่วยวันละ 200-300 คน ซึ่งคลินิกได้จัดเตรียมยา-เวชภัณฑ์ ในการตรวจรักษาและให้การดูแลอย่างเต็มที่
ณ ปัจจุบันยังสามารถรับผู้ป่วยได้อยู่ แต่หากมากไปกว่านี้ก็อยากจะขอความร่วมมือ ความช่วยเหลือไปยังองค์กรที่เกี่ยวข้อง โดยการสำรองยาและเวชภัณฑ์ ในการรองรับผู้ป่วยที่อาจจะเพิ่มขึ้นไปกว่านี้
“ทุกวันนี้คลินิกต้องใช้งบประมาณปีละกว่า 75 ล้านบาท ในการตรวจรักษาผู้ป่วยชาวกะเหรี่ยง โดยแบ่งค่าใช้จ่ายตามงบประมาณที่ได้รับการช่วยเหลือ เป็นยา เวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ ค่าน้ำ ค่าไฟ อาหาร และอื่นๆ รวมกันประมาณ 60% และเป็นค่าใช้จ่ายของเจ้าหน้าที่ในคลินิก 40% โดยรับการตรวจรักษาทุกโรค และส่วนหนึ่งของผู้ป่วยหากพบว่ารุนแรงมากก็จะส่งให้ทางโรงพยาบาลอำเภอแม่สอด เพราะมีอุปกรณ์ที่ทันสมัย”
พญ.ซินเทีย หม่อง กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการแพร่ระบาดของโรคมาลาเรีย-ไข้เลือดออก-ที่มีแนวโน้มพบผู้ป่วยชาวกะเหรี่ยงติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นนั้น ทางคลินิกได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังโดยการจัดทำเอกสารประชาสัมพันธ์-แนะนำให้ชาวกะเหรี่ยงได้รู้จักวิธีการดูแลตัวเองและการกำจัดยุงที่เป็นต้นเหตุของการแพร่เชื้อ