ตาก - ศูนย์ควบคุมโรคมาลาเรียแม่สอด ชี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่ง 40-50% จับตาทุกพื้นที่เฝ้าระวัง ย้ำต้องเร่งมาตรการควบคุมระหว่างประเทศ ขณะที่ยอดชาวพม่าเข้ารักษาตัวในคลีหนิกหมอไร้พรมแดน “ซินเทีย หม่อง” หนาตาต่อเนื่อง
นางจงกลณี เทียนส่ง พยาบาลวิชาชีพ 7 นักวิชาการด้านพยาบาลศูนย์ควบคุมโรคติดต่อนำโดยแมลงที่ 9.3 ตาก-แม่สอด กล่าวว่า ในช่วงเข้าสู่ฤดูฝนปีนี้ทางศูนย์ได้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไข้มาลาเรียที่มียุงก้นปล่องเป็นพาหนะ ซึ่งจากสถิติเมื่อปี 2551 ที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อมาขอตรวจรักษาประมาณ 5,600 ราย แต่ในปีนี้มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น 40-50%
ปัญหาที่พบส่วนใหญ่มาจากคนต่างด้าว ซึ่งไม่ค่อยรู้จักวิธีการป้องกัน ต่างกับคนไทยที่รู้จักการป้องกันตัวเองได้ดี แต่ด้วยในพื้นที่นั้นมีคนต่างด้าวเข้ามาอาศัยอยู่จำนวนมากและได้แพร่เชื้อในกลุ่มคนต่างด้าวด้วยกัน การเพิ่มจำนวนผู้ติดเชื้อจึงเป็นเรื่องที่ทางศูนย์ฯต้องมีมาตรการเข้มในการป้องกัน เช่น พ่นยา สารเคมี เพื่อกำจัดตัวแก่ของยุงก้นปล่องที่เป็นพาหนะ
“ความจริงแล้วโรคติดต่อที่นำโดยแมลง (ยุง) คนไทยสามารถดูแลและป้องกันตัวเองได้ดี แต่เมื่อมีคนจากประเทศเพื่อนบ้านยังติดเชื้อและมีการแพร่เชื้ออยู่ จึงควรที่จะให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้บูรณาการร่วมกันในการสร้างมาตรการควบคุมและป้องกันระหว่างประเทศให้ต่อเนื่องและมีระบบ ไม่เช่นนั้นโอกาสที่โรคนี้จะลดน้อยลงเป็นไปได้ยาก สำหรับที่ศูนย์ฯแม่สอดนั้น ได้เปิดให้บริหารตรวจรักษาทุกวันในเวลาราชการ โดยศูนย์ 9.3 นั้นมีเจ้าหน้าที่ 114 คน ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปทั่วทุกอำเภอ และยังมีหน่วยย่อยตามจุดต่างๆ 2-3 หน่วย เพื่อเฝ้าระวังการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่” นางจงกลณี กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ที่คลินิกแม่ตาว หรือคลินิกหมอซินเทีย ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งเป็นคลินิกของแพทย์หญิงซินเทีย หม่อง แพทย์ไร้พรมแดน ที่ได้รับรางวัลแม็กไซไซ ในการดูแลรักษาผู้ป่วยชาวกะเหรี่ยง-พม่า ในแต่ละวันจะมีผู้ป่วยเข้ามาตรวจรักษาเฉพาะโรคมาลาเรียและโรคติดต่ออื่นๆ เช่น ไข้เลือดออก ที่นำโดยยุงมากกว่าวันละ 100-200 ราย เป็นสถิติตัวเลขที่เพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
