น่าน - พมจ.น่าน พร้อมด้วย เทศบาลเมืองน่าน คณะครู และชมรมผู้ปกครอง ร.ร.จุมปีวนิดาภรณ์ นำเงินมอบช่วยเหลือครอบครัวเด็กหญิงป่วยโรคร้ายขาบวม
จากกรณี เด็กหญิง สุจิตตรา รุ่งทอง อายุ 7 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 ซอย 1 ถนนผากอง ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน บุตรนายสมนึก และนางปราโลม รุ่งทอง ได้ป่วยมีอาการขาข้างซ้ายบวมโป่งพอง โรงพยาบาลจังหวัดเชียงใหม่วินิจฉัย ว่า เป็นมะเร็งกระดูกต้องตัดขา หลังจากบิดามารดาทราบไม่เต็มใจที่บุตรสาวต้องถูกตัดขา จึงได้นำบุตรสาวเดินทางไปพักอาศัยกับน้องสาวที่จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อหาทางเยียวยาอาศัยการรักษาทางไสยศาสตร์ แต่อาการไม่ดีขึ้น จนต้องนำส่งโรงพยาบาล
วันนี้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน พร้อมด้วยเทศบาลเมืองน่าน ออกเยี่ยมติดตามเพื่อช่วยเหลือ เด็กหญิงสุจิตรา รุ่งทอง หรือน้องนุ้ย ซึ่งได้ศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนจุมปีวนิดาภรณ์ (เทศบาลบ้านภูมินทร์) แต่ป่วยป่วยด้วยโรคมะเร็งกระดูกขา จึงต้องหยุดเรียนไป พร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือสงเคราะห์ครอบครัว ให้กับนายสมนึก รุ่งทอง บิดา จำนวนหนึ่ง พร้อมนี้มีคณะครูอาจารย์ ชมรมผู้ปกครองโรงเรียนของน้องนุ้ย ได้ร่วมมอบเงินจำนวนหนึ่ง ด้วย
ด้าน นายสุเมษ สายสูง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน ได้นำเงินอุดหนุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน จำนวน 2,000 บาท นอกจากนี้ ยังประสานไปยังศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 25 จังหวัดน่านเพื่อขอความช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยอีก 2,000 บาท รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ เช่น เทศบาลเมืองน่าน ในฐานะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดูแลชุมชน ขอความช่วยเหลือไปยังกาชาดจังหวัดน่าน ตลอดจนประสานกับบริษัทขนส่งจำกัด เพื่อรับนายสมนึก ผู้เป็นบิดากลับเข้าทำงานตามเดิมเพราะปัจจุบัน นายสมนึก มีสุขภาพที่แข็งแรงพร้อมที่จะทำงานแล้ว
นายสมนึก รุ่งท้อง บิดาของน้องนุ้ย กล่าวว่า รู้สึกดีใจและตื้นตันจนต้องร่ำไห้ที่ได้รับธารน้ำใจของหน่วยงานที่นำเงินไปมอบให้ พร้อมกับเปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่น้องนุ้ย ต้องประสบชะตากรรมว่า เมื่อประมาณต้นปีเดือน ม.ค.2552 น้องนุ้ย ได้วิ่งเล่นกับเพื่อนๆที่ลานบริเวณข่วงเมืองข้างโรงเรียน ได้หกล้มลงเพื่อนที่วิ่งตามมาก็ล้มทับขาของน้องนุ้ย น้องนุ้ยก็ไม่ได้บอกพ่อแม่และก็ไม่มีอาการ
จนกระทั่งเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา ก็เกิดอาการบวมปวดแสบปวดร้อนจึงได้พาไปหาหมอเมืองรักษาทางไสยศาสตร์ด้วยการเป่าตามความเชื่อ อาการก็ไม่ดีขึ้นจึงต้องพาเข้ารักษาที่โรงพยาบาลน่าน
หลังจากแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าเป็นมะเร็งกระดูกต้องตัดขา จึงทำเรื่องส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดเชียงใหม่ และแพทย์ทางได้วินิจฉัยการรักษาว่าต้องตัดขา แต่พ่อแม่ขอปรึกษาญาติก่อนได้จึงพาลูกออกจากโรงพยาบาล ทราบว่า ที่วัดบางพลีน้อยมีอาจารย์ดีรักษาทางไสยศาสตร์ ประกอบกับน้องสาวของแม่น้องนุ้ย ก็อยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ จึงพาลูกสาวไปรับการเป่าเสกทางเวทย์มนต์ อาการก็คงเหมือนเดิมขาเริ่มบวมมากขึ้น จนต้องร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนตามที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้
จากกรณี เด็กหญิง สุจิตตรา รุ่งทอง อายุ 7 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/1 ซอย 1 ถนนผากอง ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน บุตรนายสมนึก และนางปราโลม รุ่งทอง ได้ป่วยมีอาการขาข้างซ้ายบวมโป่งพอง โรงพยาบาลจังหวัดเชียงใหม่วินิจฉัย ว่า เป็นมะเร็งกระดูกต้องตัดขา หลังจากบิดามารดาทราบไม่เต็มใจที่บุตรสาวต้องถูกตัดขา จึงได้นำบุตรสาวเดินทางไปพักอาศัยกับน้องสาวที่จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อหาทางเยียวยาอาศัยการรักษาทางไสยศาสตร์ แต่อาการไม่ดีขึ้น จนต้องนำส่งโรงพยาบาล
วันนี้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน พร้อมด้วยเทศบาลเมืองน่าน ออกเยี่ยมติดตามเพื่อช่วยเหลือ เด็กหญิงสุจิตรา รุ่งทอง หรือน้องนุ้ย ซึ่งได้ศึกษาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนจุมปีวนิดาภรณ์ (เทศบาลบ้านภูมินทร์) แต่ป่วยป่วยด้วยโรคมะเร็งกระดูกขา จึงต้องหยุดเรียนไป พร้อมกับมอบเงินช่วยเหลือสงเคราะห์ครอบครัว ให้กับนายสมนึก รุ่งทอง บิดา จำนวนหนึ่ง พร้อมนี้มีคณะครูอาจารย์ ชมรมผู้ปกครองโรงเรียนของน้องนุ้ย ได้ร่วมมอบเงินจำนวนหนึ่ง ด้วย
ด้าน นายสุเมษ สายสูง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดน่าน ได้นำเงินอุดหนุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน จำนวน 2,000 บาท นอกจากนี้ ยังประสานไปยังศูนย์พัฒนาสังคมหน่วยที่ 25 จังหวัดน่านเพื่อขอความช่วยเหลือเป็นเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยอีก 2,000 บาท รวมทั้งหน่วยงานอื่นๆ เช่น เทศบาลเมืองน่าน ในฐานะเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดูแลชุมชน ขอความช่วยเหลือไปยังกาชาดจังหวัดน่าน ตลอดจนประสานกับบริษัทขนส่งจำกัด เพื่อรับนายสมนึก ผู้เป็นบิดากลับเข้าทำงานตามเดิมเพราะปัจจุบัน นายสมนึก มีสุขภาพที่แข็งแรงพร้อมที่จะทำงานแล้ว
นายสมนึก รุ่งท้อง บิดาของน้องนุ้ย กล่าวว่า รู้สึกดีใจและตื้นตันจนต้องร่ำไห้ที่ได้รับธารน้ำใจของหน่วยงานที่นำเงินไปมอบให้ พร้อมกับเปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่น้องนุ้ย ต้องประสบชะตากรรมว่า เมื่อประมาณต้นปีเดือน ม.ค.2552 น้องนุ้ย ได้วิ่งเล่นกับเพื่อนๆที่ลานบริเวณข่วงเมืองข้างโรงเรียน ได้หกล้มลงเพื่อนที่วิ่งตามมาก็ล้มทับขาของน้องนุ้ย น้องนุ้ยก็ไม่ได้บอกพ่อแม่และก็ไม่มีอาการ
จนกระทั่งเมื่อสงกรานต์ที่ผ่านมา ก็เกิดอาการบวมปวดแสบปวดร้อนจึงได้พาไปหาหมอเมืองรักษาทางไสยศาสตร์ด้วยการเป่าตามความเชื่อ อาการก็ไม่ดีขึ้นจึงต้องพาเข้ารักษาที่โรงพยาบาลน่าน
หลังจากแพทย์วินิจฉัยแล้วว่าเป็นมะเร็งกระดูกต้องตัดขา จึงทำเรื่องส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดเชียงใหม่ และแพทย์ทางได้วินิจฉัยการรักษาว่าต้องตัดขา แต่พ่อแม่ขอปรึกษาญาติก่อนได้จึงพาลูกออกจากโรงพยาบาล ทราบว่า ที่วัดบางพลีน้อยมีอาจารย์ดีรักษาทางไสยศาสตร์ ประกอบกับน้องสาวของแม่น้องนุ้ย ก็อยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ จึงพาลูกสาวไปรับการเป่าเสกทางเวทย์มนต์ อาการก็คงเหมือนเดิมขาเริ่มบวมมากขึ้น จนต้องร้องขอความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนตามที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้