ฉะเชิงเทรา-ประชาชนนับหมื่นแห่เวียนเทียนรอบพระอุโบสถวัดโสธร ท่ามกลางบรรยากาศท้องฟ้าสีคราม ที่เปล่งรัศมีกระทบเหนือยอดพระอุโบสถ ได้อย่างสวยสดงดงามสะดุดตา สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่ผู้พบเห็น ขณะนักการเมือง คนชั้นบริหารในจังหวัด ทำคนไทยผิดหวัง หลังเมินเข้าวัด
ค่ำวานนี้ ( 8 พ.ค.52) เวลา 19.00 น. บรรยากาศพิธีเวียนเทียนเนื่องในวันวิสาขบูชา ที่ วัดโสธรวราราม วรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เนืองแน่นไปด้วยพุทธศาสนิกชนนับหมื่นคน ที่ต่างทยอยเดินทางมาร่วมกันเวียนเทียนโดยรอบพระอุโบสถหลังใหม่ ซึ่งในปีนี้บรรยากาศพิธีกรรมของภาคส่วนราชการเป็นไปอย่างเงียบเหงา ไร้เงาของผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ทั้งคนเก่า คือ นายวีรวิทย์ วิวัฒนวานิช ที่เพิ่งถูกคำสั่งย้ายด่วนนอกฤดูกาล ให้ไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน
ส่วนว่าที่ผู้ว่าฯ คนใหม่ คือ นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ซึ่งถูกคำสั่งย้ายด่วนนอกฤดูกาลเช่นเดียวกันให้มาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราก็ไม่มาร่วงมงานเช่นกัน โดยมีเพียงนายสุขสันต์ วนะภูติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา มาเป็นประธาน และมี พล.ต.สุวินัย นิภาวรรณ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า อ.เมืองฉะเชิงเทรา นำกำลังพลมาร่วมเป็นแม่งานในการจัดพิธี
นอกจากนี้บรรยากาศโดยทั่วไปยังไร้เงาของนักการเมือง ทั้ง ส.ส.และ ส.ว.รวมทั้งผู้มีชื่อเสียง และมีส่วนร่วมต่อความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสังคม เดินทางเข้ามาร่วมในพิธีทำบุญเวียนเทียนในวันพระใหญ่ครั้งนี้ด้วย
ขณะบรรยากาศของประชาชนโดยทั่วไปกลับตรงกันข้าม ตลอดตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นใกล้พลบค่ำที่ผ่านมา เวลา 17.00-20.30 น. ได้มีประชาชนจำนวนมาก ต่างทยอยเดินทางมาร่วมกันทำบุญเวียนเทียนกันอย่างเนืองแน่น จนทำให้การจราจรบนถนนเทพคุณากร เส้นทางหน้าวัดติดขัด แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ทางวัดได้เร่งปิดประตูพระอุโบสถหลังใหม่ทันทีหลังจาก เสร็จสิ้นพิธีอย่างเป็นทางการของภาคส่วนราชการ ประชาชนที่เดินทางมาร่วมกันเวียนเทียนในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ตามความศรัทธาจำนวนมาก จึงทำได้เพียงเดินเวียนเทียนอยู่โดยรอบนอก รั้วกำแพงแก้วของพระอุโบสถหลังใหญ่เท่านั้น
ขณะที่บรรยากาศบนท้องฟ้าเหนือพระอุโบสถ เมื่อช่วงพลบค่ำ ระหว่างการร่วมกันเวียนเทียนของประชาชนนั้น ดูสดใส และสวยสดงดงาม ทาบกับแสงจันทร์ในคืนเพ็ญ 15 ค่ำของวันพระใหญ่ สะท้อนตัดกับตัวของพระอุโบสถเป็นฉากหลัง ได้ปรากฏขึ้นอย่างสวยงามดูสะดุดตาต่อผู้ที่ได้พบเห็นยิ่งนัก