มหาสารคาม-โรงพยาบาลมหาสารคาม เร่งให้ความรู้ไข้หวัดเม็กซิโก ยันไม่ติดต่อจากการรับประทานเนื้อหมู ดึงประสบการณ์ไข้หวัดนก และโรคซาร์ส เป็นเกณฑ์เฝ้าระวัง กำชับแพทย์พยาบาลให้เฝ้าระวังผู้ป่วยในกลุ่มเสี่ยงคัดแยกเข้าห้องสังเกตอาการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อที่อาจจะเกิดขึ้นได้
น.ส.เสาวลักษณ์ นาคะพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาสารคาม กล่าวว่า เชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่หรือเชื้อไข้หวัดเม็กซิโกนี้มีการแพร่เชื้อที่อยู่ในเสมหะ น้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วย ไปยังผู้อื่นโดยการไอหรือจามรดกันในระยะใกล้ชิด หรือติดจากมือและสิ่งของที่มีเชื้อปนเปื้อนอยู่ และเชื้อจะเข้าสู่ร่างกายทางจมูกและตา แต่ไม่ติดต่อจากการรับประทานเนื้อหมู ซึ่งทำให้สุกด้วยน้ำต้มเดือด 100 องศาเซลเซียส 3-5 นาที
อย่างไรก็ตาม เพื่อความไม่ประมาทเนื่องจากการแพร่ติดต่อของโรคเป็นไปเช่นเดียวกับโรคไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก และโรคซาร์ส ในคนโดยทั่วไป จึงได้นำประสบการณ์การจากเฝ้าระวังไข้หวัดนกเป็นมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันโรคไข้หวัดเม็กซิโก ด้วยการเตรียมสำรองห้องคัดแยกและสังเกตอาการผู้ป่วยที่ต้องสงสัย ที่มีอุณหภูมิในร่างกายสูงกว่า 38 องศาเซลเซียส มีไข้สูง ไอ หอบ รวมถึงมีประวัติอยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศที่พบผู้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดเม็กซิโก ซึ่งแพทย์จะนำเข้าห้องคัดแยก เพื่อสังเกตอาการทันที
นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังได้เตรียมสำรองยาต้านไวรัสไว้อย่างเพียงพอ แต่เพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ป่วยด้วยโรคดังกล่าว ให้รับประทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผัก ผลไม้ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ งดสูบบุหรี่ งดดื่มเหล้า ล้างมือบ่อยๆ ทั้งนี้ ข้อมูลเบื้องต้นบ่งชี้ว่าไข้หวัดใหญ่ H1N1 เป็นการติดต่อจากคนสู่คนและทำให้มีผู้เสียชีวิต ไม่ได้ติดต่อจากหมูสู่คน