xs
xsm
sm
md
lg

พล.ต.อ.ธานี ลุยพัทยาตรวจที่เกิดเหตุ “หางแดง” ล้มประชุมอาเซียน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา-พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจโรงแรมรอยัล คลิฟ พร้อมรับฟังสรุปผลการทำงาน ส่วน 3 ผู้ต้องหากลุ่มเสื้อแดงทุบรถนายกตำรวจ นำตัวฝากขังศาลพัทยา ซึ่งตำรวจคัดค้านการประกันตัว

วันนี้ (23 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา นำตัว 3 ผู้ต้องหา มี น.ส.จินดาภา ธนหัตถชัย อายุ 47 ปี นายวันเฉลิม กุนเสน และ นายสมญศฆ์ พรมภา อายุ 47 ปี ที่ถูกตำรวจออกหมายจับ 3 ข้อหา คือ 1.ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป 2.ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง โดยขัดขวางในการเดินทางกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และ 3.มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด ให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง

หลังจากก่อเหตุร่วมกันทุบรถ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขณะเดินทางกลับจากการประชุม ครม.สัญจรที่พัทยา เมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา นำส่งศาลจังหวัดพัทยาเพื่อทำการฝากขัง ในขณะที่ทนายความของคนทั้ง 3 กำลังยืนหลักทรัพย์ในการขอประกันตัวที่ศาลจังหวัดพัทยา ด้านศาลจังหวัดพัทยาอยู่ในระหว่างพิจารณาการให้ประกันตัว เบื้องต้นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้คัดค้านประกันตัว

พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.(ปป.2 ) พร้อมคณะได้เดินทางเข้าตรวจสอบห้องประชุมพีช โรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา ที่ได้รับความเสียหายจากการกลุ่มคนเสื้อแดงเดินทางมาขัดขวางการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนระหว่างวันที่ 10-12 เม.ย.2552 จนการประชุมต้องยกเลิก และทรัพย์สินทางห้องประชุมของโรงแรมได้รับความเสียหาย โดยมีนายยุทธนา เชิญโกรย ผู้จัดการฝ่ายบุคคลให้การตอนรับ และนำไปดูจุดเกิดเหตุ และส่วนของโรงแรมที่ได้รับความเสียหาย ต่อจากนั้น พล.ต.อ.ธานี ได้เดินทางเข้ารับฟังสรุปเกี่ยวกับผลการสืบสวนสอบสวนของรูปคดี ตลอดจนการรวบรวมหลักฐานออกหมายจับที่ห้อง ประชุมชั้นที่ 4 สภ.บางละมุง

จากนั้น พล.ต.อ.ธานี ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ได้เดินทางมาดูสำนวนการสืบสวนและสอบสวน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตำรวจภูธรภาค 2 เกี่ยวกับแกนนำหรือกลุ่มคนเสื้อแดงรวมทั้งผลคดีต่างๆ โดยเฉพาะคดีที่สำคัญที่เกิดขึ้นที่โรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา ส่วนสำนวนการสืบสวนสอบสวน คืบหน้าประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนการนำสำนวนการออกหมายจับนั้น ตำรวจต้องทำอย่างรัดกุมและเป็นผลต่อทุกฝ่าย

ส่วนปัญหาที่ล่าช้า เกิดจากการที่ตำรวจเรียกพยานมาสอบติดอยู่ที่ว่าต้องทำงาน บางคนต้องรอดูว่าทางตนสังกัดหรือบริษัทอนุญาตให้เดินทางมาให้ปากคำ ส่วนการจะออกหมายจับเพิ่มนั้นต้องรอดูหลัก ฐานว่าสามารถออกหมายจับไดหรือไม่

สำหรับหมายจับที่เหลือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ขอความร่วมมือไปทั่วประเทศโดยการส่งหมายจับไปให้ ส่วนการยืนประกันตัวนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูจากข้อหาว่าหนักเบา และจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างถูกต้อง



กำลังโหลดความคิดเห็น