xs
xsm
sm
md
lg

กองปราบลงพื้นที่แปดริ้วลุยสางคดีฆ่าสองหนุ่มเจ้าชู้ไก่แจ้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - ตำรวจกองปราบปรามขนกำลังผนึกตำรวจท้องที่ท่าตะเกียบ ถือหมายศาลบุกค้นบ้านผู้ใหญ่บ้านคนดังผู้กว้างขวางในพื้นที่ไกลปืนเที่ยงแห่งเมืองแปดริ้ว ได้ของกลางอื้อเป็นอาวุธปืนกว่า 10 กระบอก พร้อมกระสุนปืนนานาชนิดอีกนับพันนัด หลังต้องสงสัยเป็นคนลงมือฆ่าสองหนุ่มจอมเจ้าชู้ที่แอบตีท้ายครัวบ้านเล็ก

วันนี้ (22 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.อัครเดช พิมลศรี ผู้กำกับการ 2 บก.ป. และ พ.ต.ท.ประกิต มงคลฉันท์ รอง ผกก.สภ.ท่าตะเกียบ พร้อมกำลังจำนวน 24 นาย ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 471 ม.15 ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นบ้านของนายปรีชา นัทธี อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 15 และเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดฉะเชิงเทราเลขที่ 267/2552 ลงวันที่ 21 เม.ย.52 ในคดีฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา 2 ศพ

เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 เม.ย.52 เวลา 00.30 น. โดยมีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย คือ นายสุพล แฝงชัย อายุ 25 ปี และนายอนุชา ศรีวลัย อายุ 19 ปี ชาวบ้านหมู่บ้านเดียวกันกับผู้ต้องหา หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนจนทราบว่านายอนุชาได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวติดพันกับภรรยาน้อยของผู้ใหญ่บ้าน จึงทำให้ผู้ต้องหาโกรธแค้นจนเป็นเหตุให้นำไปสู่การวางแผนลอบสังหารผู้ตายจนเสียชีวิต

ซึ่งในวันเกิดเหตุ เวลา 20.00 น. ทั้งสองคนได้นั่งดื่มสุราร่วมกันที่บ้านเพื่อนในหมู่บ้าน (บ้านหนองใหญ่) หลังจากนั้นนายอนุชาได้ขอตัวกลับบ้านก่อน ซึ่งอยู่ห่างกันเพียง 300 เมตร ระหว่างทางได้ถูกคนร้ายซุ่มยิงจนเสียชีวิต ขณะเดียวกันนายสุพล พร้อมด้วยนายภิรมย์ ศรีวิลัย อายุ 24 ปี ที่นั่งดื่มสุราด้วยได้ยินเสียงปืนจึงได้ขับรถยนต์กระบะออกมาดู และพบว่านายอนุชาถูกยิงนอนเสียชีวิตอยู่ข้างทาง จากนั้นนายสุพลจึงถูกคนร้ายยิงตายตามไปอีกหนึ่งคน ก่อนที่นายภิรมย์จะรีบขับรถกระบะหนีเอาตัวรอดไปได้

หลังการเข้าตรวจค้นภายในบ้าน และรถยนต์ของผู้ต้องหาพบอาวุธปืนนานาชนิดรวม 13 กระบอก โดยมีอาวุธปืนยาวไรเฟิ่ล ปืนลูกซองยาว ปืนลูกกด รวม 8 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น ขนาด 11 มม., 9 มม., และ ขนาด .38 รวม 5 กระบอก พร้อมกระสุนปืนชนิดต่างๆ ทั้งหมดรวมกว่า 1,000 นัด จึงได้ทำการควบคุมตัวมาส่งมอบให้แก่ ร.ต.ท.ชาคินัย เมรสนัด พนักงานสอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ ทำการสอบสวนดำเนินคดีต่อไป


โดย พ.ต.ท.ประกิต กล่าวว่า หลังการตรวจค้นได้ยึดอาวุธปืนของกลางทั้งหมด เพื่อนำส่งไปทำการตรวจสอบหาหลักฐานในการดำเนินคดี ซึ่งอาวุธปืนส่วนใหญ่พบว่าเป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียน จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุสมควร

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ โดยยอมรับสารภาพเพียงข้อหาเดียว คือ ข้อหาพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่มีเหตุสมควร ซึ่งจะได้สอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น