กาฬสินธุ์ - เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์นำผู้ต้องขังหญิง อบรมธรรม “เรือนจำเรือนธรรมเสริมสร้างความพอเพียงด้วยธรรมะ” บำเพ็ญศีล ภาวนา พร้อมปฏิญาณตน เป็นคนดีของสังคม ไม่หวนกลับทำผิดอีก ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
วันนี้ (21 เม.ย.) ที่เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุภาพงษ์ อินทรวัชระ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ นำผู้ต้องขังหญิงภายในเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์จำนวน 200 คน เข้าอบรมธรรมะตามโครงการอบรมธรรมะปฏิบัติ “เรือนจำเรือนธรรมเสริมสร้างความพอเพียงด้วยธรรมะ” โดยมีพระวิทยากรจากศูนย์วัดใกล้บ้าน วัดประชานิยม อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เป็นวิทยากรการอบรม
ตามโครงการดังกล่าวจะนำผู้ต้องขังเข้าร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ทั้งการสวดมนต์ภาวนา การบำเพ็ญศีลในตอนเช้าและตอนเย็น การนั่งสมาธิ โดยผู้ต้องขังจะนุ่งขาวห่มขาว ตลอดระยะเวลา 4 วัน พร้อมกับการถวายสัตว์ปฏิญาณ กลับตัวกลับใจไม่หวนกลับไปทำผิดซ้ำอีก และตั้งมั่นเป็นพลเมืองดีในสังคม
ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อให้ผู้ต้องขังได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีต่อปวงชนชาวไทย และกรมราชทัณฑ์ นับเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังซึ่งเป็นผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ได้ทำกิจกรรมถวายเป็นพระราชกุศล แด่พ่อ, แม่ของแผ่นดิน เป็นการแสดงถึงความจงรักภักดีเช่นเดียวกันกับพสกนิกรทั่วประเทศที่อยู่ภายนอกเรือนจำด้วย
วันนี้ (21 เม.ย.) ที่เรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ นายสุภาพงษ์ อินทรวัชระ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ นำผู้ต้องขังหญิงภายในเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์จำนวน 200 คน เข้าอบรมธรรมะตามโครงการอบรมธรรมะปฏิบัติ “เรือนจำเรือนธรรมเสริมสร้างความพอเพียงด้วยธรรมะ” โดยมีพระวิทยากรจากศูนย์วัดใกล้บ้าน วัดประชานิยม อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เป็นวิทยากรการอบรม
ตามโครงการดังกล่าวจะนำผู้ต้องขังเข้าร่วมกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา ทั้งการสวดมนต์ภาวนา การบำเพ็ญศีลในตอนเช้าและตอนเย็น การนั่งสมาธิ โดยผู้ต้องขังจะนุ่งขาวห่มขาว ตลอดระยะเวลา 4 วัน พร้อมกับการถวายสัตว์ปฏิญาณ กลับตัวกลับใจไม่หวนกลับไปทำผิดซ้ำอีก และตั้งมั่นเป็นพลเมืองดีในสังคม
ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า กิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อให้ผู้ต้องขังได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มีต่อปวงชนชาวไทย และกรมราชทัณฑ์ นับเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังซึ่งเป็นผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ได้ทำกิจกรรมถวายเป็นพระราชกุศล แด่พ่อ, แม่ของแผ่นดิน เป็นการแสดงถึงความจงรักภักดีเช่นเดียวกันกับพสกนิกรทั่วประเทศที่อยู่ภายนอกเรือนจำด้วย