หนองคาย - หนุ่มชุมพรอ้างตัวเป็นนายแพทย์ทหารขอเข้าพักในโรงพยาบาลหนองคาย แต่การแต่งกายมีพิรุธติดเครื่องหมายชั้นยศพลเรือนแต่ติดดาวทหาร ทางโรงพยาบาลซักไซ้พบพิรุธจากนิตยสารซุบซิบดารา เลยหนีเข้าห้องน้ำใช้เข็มขัดรัดคอกับโถชักโครกในห้องน้ำหวังฆ่าตัวตาย ตรวจสอบพบเป็นผู้ป่วยทางจิต
เมื่อเวลา 03.30 น.วันนี้ (21 เม.ย.) พ.ต.ท.ปรีดา ดวงพุทธา พนักงานสอบสวน (สบ 3) ปฏิบัติหน้าที่สารวัตรเวร ได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลหนองคาย ว่ามีคนแอบอ้างเป็นแพทย์จากแพทยสภาขังตัวเองไว้ไนห้องน้ำของห้องพักแพทย์ ตึกพิเศษ 60 เตียง ชั้น 3 จึงได้รีบรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อเดินทางไปถึงห้องพักแพทย์ดังกล่าวพบว่าประตูห้องน้ำถูกล็อกจากด้านในจึงได้พังประตูเข้าไป ภายในห้องน้ำพบร่างของชายร่างท้วมผิวดำแต่งชุดข้าราชการสีกากี นอนที่พื้นห้องน้ำในลักษณะตะแคงข้างขวา มีสายเข็มขัดตราครุฑของข้าราชการรัดที่คอแบบหลวมๆ ที่ปลายอีกด้านหนึ่งผูกโยงเข้ากับคันโยกปล่อยน้ำของชักโครก ทราบชื่อคือนายอนุชิต ศรีพรหม อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 72 ม.6 ต.บางพร้าว อ.หลังสวน จ.ชุมพร ตรวจชีพจรยังคงเต้นเป็นปกติ เจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันแกะเข็มขัดออกจากลำคอแล้วช่วยกันปฐมพยาบาล แต่นายอนุชิตยังนอนหลับนิ่งทำทีไม่รู้สึกตัว
นางพรทิพย์ ทองสง่า พนักงานพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ปฏิบัติงานเวรตรวจการพยาบาล เปิดเผยว่าเมื่อเวลา 23.00 น. นายอนุชิตได้เดินทางมาขอติดต่อขอเข้าพักค้างคืนที่โรงพยาบาล พร้อมกับขอให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหนองคายจัดหาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กให้ใช้งาน โดยอ้างว่าเป็น ร้อยตรีนายแพทย์ธีรวัฒน์ ปิยพสุนทรา สังกัดแพทยสภา มาทำการประเมินการทำงานและสำรวจความพึงพอใจของประชาชนในการปฏิบัติงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข และตรวจสอบหอพักนักศึกษา
โดยมีการแต่งตัวเป็นชุดสีกากีแบบฟอร์มข้าราชการและสวมแจ็กเกตสีดำ ปักอักษรคำว่าแพทยสภาไว้ที่ด้านหลัง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จัดเตรียมห้องพักให้ ส่วนคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กที่ขอให้เกิดไม่ว่างมีคนใช้งานอยู่ จึงได้จัดคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะให้ใช้งาน
ก่อนที่จะส่งนายอนุชิตเข้าห้องพัก ตนได้สอบถามว่าวันนี้ได้เดินทางไปตรวจงานที่ไหนมาบ้าง นายอนุชิตตอบว่าไปตรวจโรงพยาบาลบึงกาฬ อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย แต่เมื่อตนได้ตรวจสอบไปที่โรงพยาบาลบึงกาฬกลับพบว่าไม่มีเจ้าหน้าที่จากแพทยสภาไปตรวจสอบจึงเกิดเอะใจขึ้นมาว่าจะเป็นพวก 18 มงกุฎมาหลอกลวง จึงได้ย้อนกลับไปหานายอนุชิต
เมื่อไปพบนายอนุชิตที่ห้องพักพบว่านายอนุชิตกำลังใช้คอมพิวเตอร์พิมพ์เอกสารโดยอ้างว่าพิมพ์รายงานที่ไปทำการสำรวจมาทั้งวัน โดยมีการจัดแบบฟอร์มการพิมพ์อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยเหมือนหนังสือของทางราชการ
ขณะนั้นนายอนุชิตได้ถอดเสื้อคลุมออก ตนสังเกตว่าชุดข้าราชการที่นายอนุชิตสวมใส่ไม่ถูกต้อง เครื่องประดับชั้นยศเป็นข้าราชการพลเรือนแต่กลับมีดาวทองติดทับ ตนได้พยายามพูดคุยสอบถามเพื่อหาข้อพิรุธ โดยถามว่าหากแพทยสภาจะเดินทางมาตรวจสอบก็ต้องมีหนังสือแจ้งถึงผู้บังคับบัญชาของตนให้ทราบ แต่ในครั้งนี้ทำไมไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ซึ่งนายอนุชิตมีสีหน้าไม่พอใจแล้วตอบว่าทางแพทยสภาได้ส่งแฟกซ์มาแล้ว ซึ่งการเดินทางมาครั้งนี้ตนมาพร้อมทีมงานมาด้วยกัน 6 คน แต่แยกย้ายไปที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดร้อยเอ็ด โดยตนมีหน้าที่รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดหนองคาย ตนจึงขอดูแบบประเมินแบบสอบถามที่จะมาทำการประเมิน นายอนุชิตได้หยิบแบบประเมินออกจากกระเป๋า
ระหว่างนั้นตนได้สังเกตเห็นนิตยสาร GOSSIP ซึ่งตนเชื่อว่าแพทย์คงไม่อ่านหนังสือบันเทิงซุบซิบดาราอย่างแน่นอน จึงได้ขอดูบัตรข้าราชการจากนายอนุชิต ก็ยิ่งทำให้มั่นใจว่านายอนุชิตต้องเป็นพวก 18 มงกุฎอย่างแน่นนอน เพราะชื่อผู้ออกบัตรให้เป็นชื่อนายแพทย์ปัญญา รักษาวงศ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร ซึ่งตามระเบียบแล้วผู้ออกบัตรประจำตัวข้าราชการจะต้องเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดของท้องที่นั้นๆ เท่านั้น และถ้าเป็นทหารจริงทำไมไม่ขึ้นกับกระทรวงกลาโหม แต่มาขึ้นกับกระทรวงสาธารณสุข
แต่นายอนุชิตยังคุยว่าถ้าไม่เชื่อก็ลองไปถามตำรวจดู เพราะเมื่อช่วงหัวคำที่ผ่านมาได้ไปตรวจหอพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัยขอนแก่น วิทยาเขตหนองคาย กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากนั้นตนได้ขอตัวออกมาจากห้องเพื่อโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ โดยระหว่างนั้นได้ให้เจ้าหน้าที่ รปภ.ของทางโรงพยาบาลมายืนเฝ้าที่หน้าห้อง ทันทีที่นายอนุชิตเห็นเจ้าหน้าที่ รปภ.มายืนเฝ้าที่หน้าห้อง นายอนุชิตก็รีบเข้าห้องน้ำและล็อคประตูไม่ยอมออกมานาน 3 ชั่วโมง ร้องเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับ
จึงได้ตัดสินใจพังประตูเข้าไป และพบว่านายอนุชิตใช้เข็มขัดผูกคอตายจึงได้ช่วยกันปฐมพยาบาลดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ปรีดา ดวงพุทธา พนักงานสอบสวน (สบ 3) ปฎิบัติหน้าที่สารวัตรเวร เปิดเผยว่าเมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา นายอนุชิตได้เข้าไปพบตนโดยแจ้งว่าตนคือนายแพทย์ธีรวัฒน์ ปิยพสุนทรา มาจากแพทยสภา โดยได้แต่งการในชุดข้าราชการสีกากีและแจ้งขอเจ้าหน้าที่ตำรวจให้พาไปตรวจสอบหอพักนักศึกษาของมหาวิทยาลัยขอนแก่นวิทยาเขตหนองคาย จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจให้อำนวยการสะดวก
แต่มาทราบภายหลังว่านายอนุชิตไม่ได้เป็นแพทย์จากแพทยสภาจริงดังที่กล่าวอ้าง และจากการตรวจสอบเอกสารของนายอนุชิตเบื้องต้นพบว่า นายอนุชิตเป็นผู้ป่วยของโรงพยาบาลสวนสราญรมย์ ซึ่งเป็นสถานรักษาพยาบาลผู้มีอาการป่วยทางจิต นอกจากนี้ยังพบบัตรประจำตัวของบัตรโรงเรียนวิภาวดีบริบาล ตำแหน่งพนักงานผู้ช่วยพยาบาล ที่มีรูปติดแต่ระบุชื่อว่านายอภิชัย ศรีพรหม จึงได้อายัดไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่านายอนุชิตคงจะมีอาการป่วยทางจิตและมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นแพทย์จึงได้ปลอมแปลงเอกสารและสวมรอยเป็นแพทย์ คาดว่าจะไปตระเวนหลอกคนในหลายพื้นที่โดยเฉพาะสถานที่ราชการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข
หากผู้ใดสงสัยว่าจะเคยถูกนายอนุชิตหลอกหรือถูกนายอนุชิตทำให้เสียทรัพย์ก็สามารถมาอายัดตัวได้ที่ สภ.เมืองหนองคาย