ศูนย์ข่าวศรีราชา- ชาวสัตหีบ จ.ชลบุรี ร่วมขนทรายเข้าวัดชดใช้หนี้สงฆ์ สืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีก่อพระเจดีย์ทราย
วันนี้ (17 เม.ย.) หน่วยงานราชการ ภาครัฐ เอกชน ประชาชนชาวอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จำนวน 13 หน่วยงาน ได้ร่วมกันสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีตรุษไทยนี้ หรือวันปีใหม่ไทย สงกรานต์ ประจำปี 2552 ณ วัดสัตหีบ ซึ่งกิจกรรมการก่อพระเจดีย์ทราย คือ การขนทราย หาบทรายมากองสูง บรรจงสร้างเป็นรูปทรงเจดีย์ และเป็นรูปทรงต่างๆ ปักธงทิว ตกแต่งกันอย่างวิจิตรบรรจง
เมื่อก่อเสร็จพระเจดีย์ทรายแต่ละกองก็จะมีธงทิว พร้อมด้วยผ้าป่า ตลอดจนสมณบริขารถวายพระ พระสงค์ก็จะพิจารณาบังสุกุล ทำบุญเลี้ยงพระ เสร็จก็เลี้ยงคนที่ไปร่วมงาน ทางวัดก็ได้ทรายไว้ สำหรับสร้างเสนาสนะ ปูชนียสถานในวัด หรือถมบริเวณวัดต่อไป อีกนัยหนึ่งก็คือการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ชำระบาปใช้หนี้สงฆ์ เพราะเมื่อเดินเข้ามาในวัดอาจจะนำเม็ดทรายติดรองเท้าออกไปนอกวัด เชื่อว่าประเพณีก่อพระทราย ก็คือ การชำระบาปนำทรายเข้ามาชดใช้วัดอีกด้วย
นอกจากนี้ ซึ่งปกติหลังตรุษไทยไปเล็กน้อยเป็นปลายฤดูร้อนจะย่างเข้าฤดูฝน วัดใดที่อยู่ใกล้ห้วย หนอง คลอง บึง ญาติโยมอุบาสกอุบาสิกาของวัด ก็จะจัดประเพณีก่อพระทรายน้ำไหลขึ้น วิธีการคือ ขุดลอกทรายที่ฝนซัดไหลมาลงรวมให้แข็งอยู่ตามคลอง หนอง บึง เป็นการขนทรายเข้าวัด และเป็นการพัฒนาท้องถิ่นด้วย เมื่อถึงฤดูฝน น้ำฝนจะได้ไหลสะดวก คู คลอง หนอง บึง ไม่ตื้นเขิน หมู่บ้านสะอาด น้ำก็ไหลได้ตามปกติ งานก่อพระทรายน้ำไหล เพื่อก่อองค์เจดีย์พุทธบูชา เพื่อทำบุญเลี้ยงพระ เนื่องในเทศกาลตรุษไทย จะเห็นได้ว่ากิจกรรมนี้มีคุณประโยชน์หลายด้านทั้ง เพื่อความรื่นเริงบันเทิงของชาวบ้านด้วยการละเล่นพื้นเมือง เพื่อสามัคคีของคนในหมู่บ้าน
นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ นายอำเภอสัตหีบ กล่าวว่า ด้วยสภาพของบ้านเมืองซึ่งเปลี่ยนแปลงไปตาม ความเจริญทางวิทยาการสมัยใหม่ การขนทราย, โกยทราย, หาบทราย เข้าวัดคนละหาบสองหาบก็เปลี่ยนสภาพเป็น ซื้อทรายเป็นคันรถ งานก่อพระทรายน้ำไหลในเทศกาลตรุษไทย ก็เปลี่ยนสภาพไป วัดต่างๆ หลายวัดไม่มีเจดีย์เป็นพุทธบูชา คำว่าเจดีย์ทรายก็หมดความหมาย การก่อพระทรายน้ำไหลจึงเรียกสั้นๆ ลงเหลือเพียง “วันไหล” แต่เพื่อเป็นการอนุรักษ์ และส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีและการละเล่นพื้นบ้านอันดีงามของไทยไว้สืบไป
