สระแก้ว - งานสงกรานต์แป้งฝุ่นไทย-กัมพูชาที่จังหวัดสระแก้วสุดคึกคัก ประชาชนสองประเทศแห่ร่วมงานกันอย่างสนุกสนาน
งานสงกรานต์แป้งฝุ่นไทย–กัมพูชา จัดขึ้นที่ลานวัดบ้านโคกสะแบง หมู่ 5 ตำบลท่าข้ามอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นับเป็นแห่งเดียวของประเทศไทยที่ร่วมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีวันสงกรานต์ขึ้นปีใหม่ แบบไทยในอดีต และถือเป็นวันครอบครัว ได้ร่วมพบเห็นหน้าพ่อแน่พี่น้องญาติผู้สูงอายุ ตลอดจนเพื่อนฝูงมิตรสหาย ทั้งราษฎร์คนไทยตามแนวชายแดน กับประชาชนชาวกัมพูชา ที่มีวัฒนธรรมสืบทอดประเพณีเดียวกันมาช้านาน
ดังนั้น วันสงกรานต์ของทุกปี ชาวกัมพูชาและคนไทยชายแดนจะถือเอาวันที่ 14 เม.ย.เป็นวันขึ้นปีใหม่และเป็นวันครอบครัว ตลอดจนร่วมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีเล่นสงกรานต์ที่มีแต่ช้านาน โดยการใช้แป้งฝุ่นอย่างเดียว เพื่อแลกเปลี่ยนอวยพรซึ่งกันและกัน โดยผลัดทาแป้งฝุ่นกันที่ใบหน้า เพื่อเป็นการสืบทอดรักษาไว้ซึ่งประเพณีอันดีงามไว้เพื่อลูกหลานสืบทอดต่อไป
การร่วมเล่นสงกรานต์แป้งฝุ่นไทย – กัมพูชา ที่ร่วมกันมากว่า 30 ปี ยังคงรักษาไว้ซึ่งประเพณีวัฒนธรรม ณ ลานวัดบ้านโคกสะแบงแห่งนี้ที่เดียวของประเทศไทย ที่ทางวัดจัดให้มีการเล่นสงกรานต์แป้งฝุ่นกันขึ้น วันที่ 16 เม.ย. ดังนั้นวันนี้ ถือเป็นวันส่งท้ายสงกรานต์แป้งฝุ่น ระหว่างคนไทยกับชาวกัมพูชา ที่แห่งเดินทางมากจากภายในประเทศกัมพูชา แห่เดินทางเข้ามาลานวัดบ้านโคกสะแบงอย่างเนื่องแน่นมากกว่าหมื่นคน ที่ทุกคนร่วมเล่นสงกรานต์ โดยใช้แป้งฝุ่นหอมแลกเปลี่ยนทาใบหน้า
จากนั้นก็พากันออกไปเต้นร่ำตามเสียงเพลงที่ชอบ กันอย่างสนุกสนาน โดยไม่มีเรื่องโกรธเคืองว่ากล่าวกันแต่อย่างใด โดยเฉพาะวันนี้ เป็นส่งท้ายสงกรานต์แป้งฝุ่น ที่ทุกคนจะต้องจดจำไว้เป็นที่ระลึก ว่า วันสงกรานต์แห่งปีนี้ ที่ 2 ฝ่ายได้มาร่วมเล่นสงกรานต์แป้งฝุ่นกันอย่างประทับใจไม่อาจลื่มเลื่อนต่อชีวิตของวันนี้ที่ร่วมกันสร้างวัดทำบุญกันอย่างพร้อมเพียง ทำให้ทางวัดบ้านโคกสะแบง รับรายได้บริจาคทั้งคนไทยและชาวกัมพูชา ขณะนี้ มียอดเงินอยู่ที่ 2 แสนกว่าบาท
งานสงกรานต์แป้งฝุ่นไทย–กัมพูชา จัดขึ้นที่ลานวัดบ้านโคกสะแบง หมู่ 5 ตำบลท่าข้ามอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว นับเป็นแห่งเดียวของประเทศไทยที่ร่วมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีวันสงกรานต์ขึ้นปีใหม่ แบบไทยในอดีต และถือเป็นวันครอบครัว ได้ร่วมพบเห็นหน้าพ่อแน่พี่น้องญาติผู้สูงอายุ ตลอดจนเพื่อนฝูงมิตรสหาย ทั้งราษฎร์คนไทยตามแนวชายแดน กับประชาชนชาวกัมพูชา ที่มีวัฒนธรรมสืบทอดประเพณีเดียวกันมาช้านาน
ดังนั้น วันสงกรานต์ของทุกปี ชาวกัมพูชาและคนไทยชายแดนจะถือเอาวันที่ 14 เม.ย.เป็นวันขึ้นปีใหม่และเป็นวันครอบครัว ตลอดจนร่วมสืบสานวัฒนธรรมประเพณีเล่นสงกรานต์ที่มีแต่ช้านาน โดยการใช้แป้งฝุ่นอย่างเดียว เพื่อแลกเปลี่ยนอวยพรซึ่งกันและกัน โดยผลัดทาแป้งฝุ่นกันที่ใบหน้า เพื่อเป็นการสืบทอดรักษาไว้ซึ่งประเพณีอันดีงามไว้เพื่อลูกหลานสืบทอดต่อไป
การร่วมเล่นสงกรานต์แป้งฝุ่นไทย – กัมพูชา ที่ร่วมกันมากว่า 30 ปี ยังคงรักษาไว้ซึ่งประเพณีวัฒนธรรม ณ ลานวัดบ้านโคกสะแบงแห่งนี้ที่เดียวของประเทศไทย ที่ทางวัดจัดให้มีการเล่นสงกรานต์แป้งฝุ่นกันขึ้น วันที่ 16 เม.ย. ดังนั้นวันนี้ ถือเป็นวันส่งท้ายสงกรานต์แป้งฝุ่น ระหว่างคนไทยกับชาวกัมพูชา ที่แห่งเดินทางมากจากภายในประเทศกัมพูชา แห่เดินทางเข้ามาลานวัดบ้านโคกสะแบงอย่างเนื่องแน่นมากกว่าหมื่นคน ที่ทุกคนร่วมเล่นสงกรานต์ โดยใช้แป้งฝุ่นหอมแลกเปลี่ยนทาใบหน้า
จากนั้นก็พากันออกไปเต้นร่ำตามเสียงเพลงที่ชอบ กันอย่างสนุกสนาน โดยไม่มีเรื่องโกรธเคืองว่ากล่าวกันแต่อย่างใด โดยเฉพาะวันนี้ เป็นส่งท้ายสงกรานต์แป้งฝุ่น ที่ทุกคนจะต้องจดจำไว้เป็นที่ระลึก ว่า วันสงกรานต์แห่งปีนี้ ที่ 2 ฝ่ายได้มาร่วมเล่นสงกรานต์แป้งฝุ่นกันอย่างประทับใจไม่อาจลื่มเลื่อนต่อชีวิตของวันนี้ที่ร่วมกันสร้างวัดทำบุญกันอย่างพร้อมเพียง ทำให้ทางวัดบ้านโคกสะแบง รับรายได้บริจาคทั้งคนไทยและชาวกัมพูชา ขณะนี้ มียอดเงินอยู่ที่ 2 แสนกว่าบาท