ศูนย์ข่าวศรีราชา- ตำรวจภูธรภาค 2 ตั้งคณะทำงานหาข้อมูลหลักฐานจับกลุ่มเสื้อแดงพัทยาที่ทุบรถนายกรัฐมนตรีและแกนนำที่นำสมาชิกเสื้อแดงบุกเข้าโรงแรมจัดการประชุมอาเซียนซัมมิต เผยได้ข้อมูลเตรียมออกหมายจับ 2 ฐานความผิด ทำลายทรัพย์สินของทางราชการและทำร้ายร่างกาย ด้านหางแดงพัทยายังกร้าวต่อ เรียกรวมพลเตรียมลุยกรุงเทพฯฝ่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แฉแผนเตรียมตะเกียงน้ำมันติดมือไปด้วยถ้าเจอขัดขวางไม่ให้เข้าเมืองหลวงส่งสัญญาณเผาสถานที่สำคัญทันที
วันนี้ (12 เม.ย.52) พล.ต.ท.อัศวิน ณรงค์พันธุ์ ผบช.ภ.2 เผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้ไปเก็บลายนิ้วมือแฝงที่บริเวณกระจกด้านหน้าอาคารห้องประชุมโรงแรมรอยัลคลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา จ.ชลบุรี ที่ถูกกลุ่มเสื้อแดงทุบจนแตก เพื่อขัดขวางการประชุมอาเซียนซัมมิต โดยพบว่าบริเวณกระจกที่แตกเป็นกระจกแคมเปอร์รามิเนท ที่มีความหนา 12 มม. และความสูง 3.8 เมตร กว้าง 6 เมตรจำนวน 5 แผ่น ซึ่งเป็นกระจกชนิดพิเศษนิรภัยที่สั่งทำพิเศษ ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 15 วันกว่าจะแล้วเสร็จ ประเมินราคาเฉพาะกระจกอยู่ที่ 1 แสนบาท ส่วนความเสียหายของทรัพย์สินอื่นๆ ที่ถูกกลุ่มเสื้อแดงเข้าไปทำลายยังมีอีกหลายรายการ โดยเฉพาะความเสียหายของภูมิทัศน์รอบโรงแรมที่เสียหายอีกจำนวนมาก
และในวันนี้ตำรวจภูธรภาค 2 ได้มีการประชุมแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 3 ชุด โดยมีการรวบรวมหลักฐานในการออกหมายจับแกนนำกลุ่มเสื้อแดง และพรรคพวกที่บุกไปทุบรถนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้ได้รวบรวมหลักฐานไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายวิดีโอ ภาพนิ่ง และพยานบุคคล โดยผู้ต้องหา คือ นางจิดาภา ธนหัตถชัย อายุ 48 ปี หรือเจ้โอ่ง พร้อมพรรคพวกอีก 11 คน ในข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้รับความเสียหาย และทำร้ายร่างกาย
ส่วนกรณีที่แกนนำกลุ่มเสื้อแดง นำโดย นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นำกลุ่มเสื้อแดงบุกเข้าไปภายในอาคารประชุมอาเซียนซัมมิต ครั้งที่ 14 เมื่อวานนี้ (11 เม.ย.) ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งพยานแวดล้อม พยานบุคคลภายนอกและภายในโรงแรม เบื้องต้นได้ให้กองวิทยาการเข้าไปเก็บหลักฐานลายนิ้วมือของกลุ่มเสื้อแดงที่เข้าไปทุบกระจกหน้าอาคารประชุมและขัดขวางการประชุมแล้วด้วยเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่กลุ่มเสื้อแดงในเขตเมืองพัทยาได้ทราบข่าวว่ารัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินในเขตกรุงเทพมหานครฯและปริมณฑล จึงได้รวมตัวกันที่ถนนเพชรตระกูลประมาณ 200 คน พร้อมเสบียงอาหาร และมีการรับบริจาคเงินสำหรับเป็นค่ารถเดินทาง และมีการวางแผนให้สมาชิกเสื้อแดงเปลี่ยนเสื้อเป็นสีอื่นเพื่อป้องกันการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารในการเดินทางเข้าไปยังกรุงเทพฯ โดยมีการปลุกระดมให้นำตะเกียงน้ำมันก๊าดติดตัวไปเผื่อต้องใช้เป็นแสงสว่าง และถ้าโดนสกัดไม่ให้เข้าในตัวเมืองหลวงก็จะดำเนินการเผาสถานที่สำคัญให้วอดวาย
