ตบเท้ารดน้ำสงกรานต์ “แม่ทัพภาค 2”-ย้ำจงรักภักดีให้ถูกทาง/ไม่ทำสถาบันเสื่อม

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ทหาร-ขรก.พ่อค้านักธุรกิจโคราชและกำลังพลภาคอีสาน ตบเท้าเข้ารดน้ำดำหัวขอพร “พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์” มทภ.2 เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ด้านแม่ทัพภาคที่ 2 ย้ำ กำลังพลช่วยสร้างความรักสามัคคีให้เกิดขึ้นในชาติ และปกป้องสถาบันกษัตริย์ พร้อมยกคำกล่าว “จอมพลสฤษดิ์” ขอให้ทุกฝ่ายได้ตระหนักจงรักภักดีให้ถูกทาง ไม่ทำให้สถาบันเสื่อม เลิกแสดงออกในพฤติกรรมที่ไม่เคารพยำเกรง และทำความเข้าใจให้ถูกต้องว่า “พระเจ้าอยู่หัว คือ เจ้าเหนือหัวที่มีแต่ให้แก่เราทุกคน ไม่เคยคิดร้ายต่อคนภายใต้พระบรมโพธิสมภารแม้แต่คนเดียว”

วันนี้ (10 เม.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่สโมสรร่วมเริงไชย ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา บรรดาข้าราชการ ทหาร พ่อค้า นักธุรกิจจ.นครราชสีมา และกำลังพลของกองทัพภาคที่ 2 ในพื้นที่ภาคอีสานเข้ารดน้ำดำหัว ขอพร พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ และวันขึ้นปีใหม่ไทย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น

ทั้งนี้ พล.ท.วิบูลศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 ได้กล่าวอวยพรปีใหม่แก่กำลังพลและผู้เข้ารดน้ำสงกรานต์ครั้งนี้ ว่า ในห้วงปีที่ผ่านมาประเทศชาติ สถาบัน ประชาชนคนไทยได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาทางการเมือง และปัญหาความแตกแยกของคนในชาติ ตามที่ได้รับทราบกัน และในห้วงปีใหม่ไทยนี้ ขอให้ทุกคนน้อมนำแนวพระราชดำริ ในเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และรู้รักษาสามัคคคี มาใช้ รวมถึงคำกล่าวของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เรื่อง “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” และ ทุกคนต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด

ในโอกาสนี้ขอหยิบยกคำกล่าวของ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ มากล่าวให้ทุกคนได้ฟังว่า “ในโอกาสปีใหม่นี้ ผมใคร่ขอร้องให้ทุกคนทบทวนตัวเอง เลือกจงรักภักดีให้ถูกทาง ไม่ร่วมแนวทางที่จะทำให้สถาบันเสื่อมเสียอีกต่อไป และทำความเข้าใจให้ถูกต้องว่า พระเจ้าอยู่หัว คือ เจ้าเหนือหัวที่มีแต่ให้แก่เราทุกคน ไม่เคยคิดร้ายต่อคนภายใต้พระบรมโพธิสมภารแม้แต่คนเดียว เมื่อเข้าใจเช่นนี้แล้ว ก็จะเลิกแสดงออกที่ไม่เคารพยำเกรง ซึ่งจะช่วยให้ความสามัคคีในชาติกับมาโดยเร็ว และประเทศไทยก็จะเป็นประเทศที่น่าอยู่อีกครั้งหนึ่ง”

นอกจากนี้ พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า กำลังพลของกองทัพภาคที่ 2 ทุกนายเปรียบเสมือนเป็นเพชรแท้ ที่ต้องทนแรงกดดันได้มากกว่าก้อนดินธรรมดา ถ้าเราเป็นเพชรน้ำหนึ่ง แม้จะแปดเปื้อนโคลนเลน ที่กระเด็นมากระทบก็ไม่อาจจะลบเลือนทำลายเนื้อแท้ของความเป็นเพชรไปได้ วันนี้มีน้ำสะอาดมาชะล้าง เพชรเม็ดนี้ก็ยังคงเปล่งรัศมีที่เรืองรองไม่ต่างไปจากเดิม โคลนเลนเหล่านั้นต่างหาก ที่จะต้องถูกกวาดล้างลงท่อปฏิกูลในฐานะที่เป็นสิ่งโสโครกของสังคม