ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - มทภ.2 ระบุ ยังไม่สามารถเปิดอุทยานฯ เขาพระวิหารรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ได้ เหตุยังไม่ปลอดภัยต้องเคลียร์กระสุนปืนเขมรตกฝั่งไทยที่ยังไม่ระเบิดและอาคารร้านค้าได้รับความเสียหาย ส่วนทหารเจ็บสาหัสยังไม่พ้นขีดอันตราย เผยมั่นใจไม่ปะทะอีก ส่วนงานสงกรานต์ 2 ชาติเชื่อมสัมพันธ์ไทย-เขมรที่ปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ยังจัดขึ้นเช่นทุกปีชาวไทย-กัมพูชาหลั่งไหลร่วมหลายหมื่นคน
วันนี้ (8 เม.ย.) พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ หนีพาล แม่ทัพภาคที่ 2 (มทภ.2) เปิดเผยถึง สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาล่าสุดขณะนี้ว่า ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อยหลังจากทุกฝ่ายได้พูดคุยเจรจากันไป และจบลงด้วยดี คิดว่าสถานการณ์การปะทะกันคงจะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะได้พูดคุยกันตั้งแต่ระดับผู้ปฏิบัติจนถึงระดับนโยบาย คิดว่าน่าจะจบแล้ว
สาเหตุสำคัญของการปะทะกันคือ ฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงในระดับผู้ปฏิบัติ ซึ่งขอยืนยันว่าทหารไทยมีระเบียบวินัย อยู่ในข้อปฏิบัติไม่ลงมือยิงก่อนแน่นอนซึ่งการที่ฝ่ายกัมพูชานำอาวุธมาเสริมตามแนวชายแดนอีกนั้น ขณะนี้ฝ่ายไทยพยายามติดตามข่าวอยู่อย่างต่อเนื่องเพื่อเฝ้าระวังสำหรับพลทหารที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการปะทะกันนั้น ล่าสุดจนยังไม่พ้นขีดอันตราย ยังคงอยู่ในความดูแลของแพทย์ อย่างใกล้ชิด ส่วนอีก 9 นายปลอดภัยดีแล้ว
ส่วนบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร นั้น ในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้คงเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวไม่ทัน เนื่องจากยังไม่มั่นใจในสถานการณ์และบางพื้นที่ยังไม่พร้อมให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชม เพราะบางจุดได้รับความเสียหายจากกระสุนปืนที่ฝ่ายกัมพูชายิงเข้ามาตกในฝั่งไทย ฉะนั้นจึงขอตรวจสอบลูกกระสุนที่อยู่ในฝั่งของเราก่อน ซึ่งบางส่วนยังไม่ระเบิด เจ้าหน้าที่จะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบอีกสักระยะ จนให้มีความมั่นใจก่อนว่าพื้นที่ดังกล่าวมีความปลอดภัยดีแล้ว จึงจะเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นชมผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ได้อีกครั้ง
พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย- กัมพูชา โดยเฉพาะที่อยู่แนวหน้าสุดนั้น เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายรวมถึงทหารได้ดูแลอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะการดูแลความปลอดภัย ทั้งเรื่องหลุมหลบภัย และการแจ้งเตือนข่าวสาร รวมถึงการสร้างขวัญกำลังใจ ซึ่งหากจำเป็นต้องอพยพก็แจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวทราบก่อนและเจ้าหน้าที่จะให้การดูแลประชาชนกลุ่มนี้ก่อน ที่สำคัญเจ้าหน้าที่ได้อยู่กับพี่น้องประชาชนมาตลอด ไม่มีเรื่องน่าวิตกกังวลอะไร และขณะนี้ประชาชนที่อพยพออกไปนอกพื้นที่ในช่วงที่มีการสู้รบกันนั้น ขณะนี้ได้กลับเข้าไปพักที่บ้านเรือนของตัวเองตามปกติแล้ว และในหมู่บ้านได้มีหลุมหลบภัยอยู่ทุกหมู่บ้าน นอกจากนี้ผู้นำชุมชน เช่น ผู้ใหญ่บ้าน ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ในการติดตามข่าวสารโดยมีวิทยุสื่อสารกันตลอดเวลา
พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในส่วนที่ปราสาทตาเมือน จ.สุรินทร์ ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงมีการจัดประเพณีสงกรานต์ประจำปี 2552 เชื่อมสัมพันธ์ 2 ชาติ ไทย-กัมพูชา เช่นเดิม ถึงแม้มีการปะทะกันเกิดขึ้นระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ที่ชายแดนด้านเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ แต่ขอยืนยันว่างานดังกล่าวในปีนี้ก็จัดขึ้นเหมือนเดิม ซึ่งทุกปีที่ผ่านมาได้มีพี่น้องประชาชนชาวไทยและกัมพูชาเดินทางมาร่วมงานหลายหมื่นคน
“ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งมีวันหยุดยาวต่อเนื่องหลายวัน ขอฝากไปยังประชาชนให้เชื่อฟังเจ้าหน้าที่ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ให้บริการประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ขอให้ความร่วมมือในทุกเรื่องที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ หรือในพื้นที่ต่างๆ ถ้าทุกคนช่วยกันแก้ไขปัญหา จะทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย โดยเฉพาะประชาชนในภาคอีสานให้จะกระทำการใดๆ ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย และที่สำคัญทุกคนต้องช่วยกันทำให้ประเทศชาติสงบสุขสืบไป” พล.ท.วิบูลย์ศักดิ์ กล่าว