ศรีสะเกษ – ชาวบ้านศรีสะเกษ ตำบลแนวชายแดนเชิงเขาพระวิหาร วอนขอหลุมหลบภัย ขณะที่ทหารไทย-กัมพูชา ยังตรึงกำลังเข้ม สถานการณ์โดยรวมอึมครึม เผยฝ่ายเขมรยิงปืนขึ้นฟ้ายั่วยุทหารไทยบ่อยครั้ง
วันนี้ (7 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ด้านทิศใต้บ้านโนนเจริญ ต.โดนอาว อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายวิศว ศะศิสมิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายวิชิต ไตรสรณกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.ป ศรีสะเกษ นายศรีวรรณ เกียรติสุรนนท์ ประธานหอการค้าศรีสะเกษและคณะ ได้เดินทางมาตรวจสอบบริเวณที่ลูกปืน ค.82 แบบเจาะเกราะ ที่ทหารกัมพูชายิงมาจากบริเวณเขาพระวิหารเข้ามาตกที่ไร่มันสำปะหลัง ของ นายปิยะวิทย์ บัวจันทร์ อายุ 26 ปี ชาวบ้านโนนเจริญ
โดยคณะของรองผู้ว่าฯศรีสะเกษ ได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและรับฟังการบรรยายสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จาก นายจรรยา สุคนคันธชาติ นายอำเภอกันทรลักษ์ ซึ่งได้รายงานสถานการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา และพื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างจากแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทางด้านภูมะเขือ ประมาณ 3 กิโลเมตร (กม.) และ อยู่ห่างจากเขาพระวิหาร ประมาณ 4 กม.
จากนั้นคณะของ รองผู้ว่าฯศรีสะเกษ ได้เดินทางไปยังศาลากลางหมู่บ้านภูมิซรอล อ.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหมู่บ้านอยู่ใกล้กับเขาพระวิหาร โดยได้นำเอาถุงยังชีพไปแจกจ่ายเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้านทุกคน ซึ่งนายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย ได้รายงานให้ทราบถึงการจัดวางกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้านทุกหมู่บ้านในเขต ต.เสาธงชัย จำนวน 13 หมู่บ้าน
นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนในเขต ต.เสาธงชัย ซึ่งอยู่ติดกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงมีขวัญกำลังใจที่ดี เนื่องจากมีประสบการณ์จากการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชามาแล้วหลายครั้ง หากมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพร้อมอพยพชาวบ้านออกไปอยู่ยังจุดที่ปลอดภัยทันที
อย่างไรก็ตาม ประชาชนต้องการให้มีการสร้างหลุมหลบภัยขนาดใหญ่ให้กับทุกหมู่บ้านในเขต ต.เสาธงชัย ด้วย เพื่อให้ชาวบ้านเกิดความอุ่นใจหากมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกันทาง อบต.เสาธงชัย ได้จัดเตรียมกระสอบทราย 5,000 ถุง ไว้สำหรับให้ชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้านทุกหมู่บ้านได้นำไปสร้างบังเกอร์แต่ละหมู่บ้านด้วย
นายวิศว ศะศิสมิต รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ กล่าวว่า มีความห่วงใยประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นอย่างมากจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ส่วนการจัดสร้างบังเกอร์หรือหลุมหลบภัยขนาดใหญ่ให้กับประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชานั้นได้เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติเงินงบประมาณก่อสร้างจากรัฐบาลตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อปะทะกันเมื่อ ต.ค.ปี 2551 ที่ผ่านมาแต่ยังไม่ได้รับอนุมัติ ซึ่งจะได้ติดตามการขออนุมัติเงินงบประมาณดังกล่าวจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันนี้ ที่บริเวณใต้หน้าผาเป้ยตาดีซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านโกมุย อ.จอมกระสานต์ จ.พระวิหาร ปรากฏว่า ได้มีกำลังทหารกัมพูชาจำนวนมากพร้อมด้วยอาวุธหนักได้มาเตรียมพร้อมรอการเสริมกำลังทหารตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทยอยู่ตลอดเวลา ส่วนฝ่ายทหารไทยได้ทำการสับเปลี่ยนกำลัง แต่ไม่ได้มีการเสริมกำลังทหารและอาวุธหนักแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายทหารกัมพูชาได้ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงขึ้นฟ้าเพื่อเป็นการยั่วยุทหารไทยบ่อยครั้ง แต่ทางฝ่ายทหารไทยไม่ได้มีการยิงตอบโต้แต่อย่างใด สถานการณ์โดยภาพรวมยังคงอยู่ในสภาวะปกติแต่ค่อนข้างอึมครึม และทหารทั้ง 2 ฝ่าย ต่างระมัดระวังตัวกันอย่างเต็มที่
วันนี้ (7 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ด้านทิศใต้บ้านโนนเจริญ ต.โดนอาว อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายวิศว ศะศิสมิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายวิชิต ไตรสรณกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.ป ศรีสะเกษ นายศรีวรรณ เกียรติสุรนนท์ ประธานหอการค้าศรีสะเกษและคณะ ได้เดินทางมาตรวจสอบบริเวณที่ลูกปืน ค.82 แบบเจาะเกราะ ที่ทหารกัมพูชายิงมาจากบริเวณเขาพระวิหารเข้ามาตกที่ไร่มันสำปะหลัง ของ นายปิยะวิทย์ บัวจันทร์ อายุ 26 ปี ชาวบ้านโนนเจริญ
โดยคณะของรองผู้ว่าฯศรีสะเกษ ได้ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและรับฟังการบรรยายสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จาก นายจรรยา สุคนคันธชาติ นายอำเภอกันทรลักษ์ ซึ่งได้รายงานสถานการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา และพื้นที่ดังกล่าวอยู่ห่างจากแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทางด้านภูมะเขือ ประมาณ 3 กิโลเมตร (กม.) และ อยู่ห่างจากเขาพระวิหาร ประมาณ 4 กม.
จากนั้นคณะของ รองผู้ว่าฯศรีสะเกษ ได้เดินทางไปยังศาลากลางหมู่บ้านภูมิซรอล อ.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นหมู่บ้านอยู่ใกล้กับเขาพระวิหาร โดยได้นำเอาถุงยังชีพไปแจกจ่ายเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้านทุกคน ซึ่งนายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย ได้รายงานให้ทราบถึงการจัดวางกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยภายในหมู่บ้านทุกหมู่บ้านในเขต ต.เสาธงชัย จำนวน 13 หมู่บ้าน
นายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนันตำบลเสาธงชัย กล่าวว่า ขณะนี้ประชาชนในเขต ต.เสาธงชัย ซึ่งอยู่ติดกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงมีขวัญกำลังใจที่ดี เนื่องจากมีประสบการณ์จากการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชามาแล้วหลายครั้ง หากมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพร้อมอพยพชาวบ้านออกไปอยู่ยังจุดที่ปลอดภัยทันที
อย่างไรก็ตาม ประชาชนต้องการให้มีการสร้างหลุมหลบภัยขนาดใหญ่ให้กับทุกหมู่บ้านในเขต ต.เสาธงชัย ด้วย เพื่อให้ชาวบ้านเกิดความอุ่นใจหากมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะเดียวกันทาง อบต.เสาธงชัย ได้จัดเตรียมกระสอบทราย 5,000 ถุง ไว้สำหรับให้ชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้านทุกหมู่บ้านได้นำไปสร้างบังเกอร์แต่ละหมู่บ้านด้วย
นายวิศว ศะศิสมิต รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ กล่าวว่า มีความห่วงใยประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นอย่างมากจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ส่วนการจัดสร้างบังเกอร์หรือหลุมหลบภัยขนาดใหญ่ให้กับประชาชนตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชานั้นได้เสนอโครงการเพื่อขออนุมัติเงินงบประมาณก่อสร้างจากรัฐบาลตั้งแต่เกิดเหตุเมื่อปะทะกันเมื่อ ต.ค.ปี 2551 ที่ผ่านมาแต่ยังไม่ได้รับอนุมัติ ซึ่งจะได้ติดตามการขออนุมัติเงินงบประมาณดังกล่าวจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วนต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า วันนี้ ที่บริเวณใต้หน้าผาเป้ยตาดีซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านโกมุย อ.จอมกระสานต์ จ.พระวิหาร ปรากฏว่า ได้มีกำลังทหารกัมพูชาจำนวนมากพร้อมด้วยอาวุธหนักได้มาเตรียมพร้อมรอการเสริมกำลังทหารตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทยอยู่ตลอดเวลา ส่วนฝ่ายทหารไทยได้ทำการสับเปลี่ยนกำลัง แต่ไม่ได้มีการเสริมกำลังทหารและอาวุธหนักแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน ทางฝ่ายทหารกัมพูชาได้ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงขึ้นฟ้าเพื่อเป็นการยั่วยุทหารไทยบ่อยครั้ง แต่ทางฝ่ายทหารไทยไม่ได้มีการยิงตอบโต้แต่อย่างใด สถานการณ์โดยภาพรวมยังคงอยู่ในสภาวะปกติแต่ค่อนข้างอึมครึม และทหารทั้ง 2 ฝ่าย ต่างระมัดระวังตัวกันอย่างเต็มที่