เชียงราย – ทหารไทย-มาเลย์ ร่วประชุม กรส.ที่เชียงราย ยัน การเมืองเปลี่ยนความสัมพันธ์ยังเหมือนเดิม ผบ.สส.มาเลเซีย ย้ำไม่ยอมรับคน 2 สัญชาติ แต่พร้อมเปิดโอกาสให้เลือกสัญชาติได้
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า วันนี้ (7 เม.ย.) คณะกรรมการระดับสูง (กรส.) กองบัญชาการทหารสูงสุด ได้จัดให้มีการประชุม กรส.ครั้งที่ 23 ระหว่างไทย-มาเลเซีย ขึ้น ณ โรงแรมเลอเมอริเดียนเชียงราย ซึ่งการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีๆ ละ 2 ครั้ง สลับกันเป็นเจ้าภาพ ครั้งนี้ฝ่ายไทยมี พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส.เป็นประธานร่วมฝ่ายไทย ส่วนประเทศมาเลเซียมี พล.อ.ตันศรี ดาโต๊ะ สรี ฮาจิ อับดุล อาซิสบิน ฮาจิ ไซนาล ผบ.สส.มาเลเซีย เป็นประธานร่วม รวมทั้งมีกรรมการเป็นนายทหารระดับสูงของทั้งสองประเทศเข้าร่วมครบครัน ซึ่งบรรยากาศเป็นด้วยความอบอุ่น
สำหรับเนื้อหาของการประชุมส่วนใหญ่เป็นการแลกเปลี่ยนแนวความคิด และรับทราบความก้าวหน้าของคณะทำงานฝ่ายต่างๆ ทั้งในระดับ กรส.และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (กชภ.) โดยเฉพาะเกี่ยวกับด้านยุทธการ การจัดการด้านชายแดน และภัยพิบัติ ที่ประชุมยังได้ให้ความเห็นชอบที่จะแลกเปลี่ยนข่าวสารกันอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในอันที่จะนำมาซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพตลอดพื้นที่ชายแดนร่วมกัน
หลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.อ.ทรงกิตติ และ ผบ.สส.ประเทศมาเลเซีย ได้ร่วมกันแถลงข่าว โดย พล.อ.กิตติ กล่าวว่า ไทยและมาเลเซียมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันรวมทั้งมีการจัดโครงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันทั้งระดับคณะกรรมการ และระดับคณะทำงานมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องชายแดนไทย-มาเลเซีย ทั้งนี้ทุกๆ 6 เดือนก็จะมีการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและเชื่อมความสัมพันธ์กันมาโดยตลอด
ด้าน พล.อ.ตันศรี กล่าวว่าถึงแม้ประเทศมาเลเซียจะมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นคนใหม่ แต่นโยบายและความสัมพันธ์ระหว่างไทยและมาเลเซียยังคงมีความมั่นคงเหมือนเดิมโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของประเทศมาเลเซียก็เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมาก่อน และเคยเดินทางมาประชุมระดับจีบีซีกับประเทศไทย ทำให้เป็นผู้ที่เข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศอย่างต่อเนื่อง
ด้านปัญหาบุคคล 2 สัญชาติที่เป็นปัญหาอยู่นั้น ทาง ผบ.สส.ประเทศมาเลเซีย กล่าวว่า แม้ในการประชุมครั้งนี้จะไม่มีการพูดคุยกันในประเด็นนี้แต่ทั้งไทยและมาเลเซียก็ไม่ได้ยอมรับบุคคลที่มี 2 สัญชาติแต่อย่างใด แต่ก็ได้เปิดทางออกให้กับบุคคลดังกล่าวได้เลือกเอาว่าจะใช้สัญชาติไทยเพียง 1 สัญชาติ ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่เข้าใจกันดีระหว่างทั้ง 2 ประเทศอยู่แล้ว
