สกลนคร - ตำรวจสกลนครรวบผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่อีสานเหนือพร้อมของกลางยาบ้า 950 เม็ดรถกระบะ 1 คัน เตรียมขยายผลจับเครือข่าย
เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้(4 เม.ย.) ที่กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร พล.ต.ต.อุดม จาปาจันทร์ ผบก.ภ.จว.สกลนคร พ.ต.อ. วันชัย สุริยะศรี รอง ผบก.ภ.จว.สกลนคร พ.ต.ท.พยุงศักดิ์ นามวรรณ หน.ชปส.ภ.จว.สกลนคร พ.ต.ท.ณัฐพล เติมแก้ว สว.สภ.คำบ่อ ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่อีสาน ภายหลังการเฝ้าติดตามพฤติกรรมมานานนับเดือน
จนสามารถจับกุมได้เป็นผลสำเร็จ และเตรียมขยายผลการจับกลุ่มสมุนร่วมขบวนการอีก ทราบชื่อ นายปรีชา หรือชา วิสามารถ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 117 ม.13 ตำบลวาริชภูมิ อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร พร้อมของกลางยาบ้าชนิดสีส้ม WY บรรจุในถุงพลาสติกสีฟ้า จำนวน 5 ถุง จำนวน 950 เม็ด รถกระบะยี่ห้อโตโยต้า ไทเกอร์สีบร์อนทอง หมายเลขทะเบียน บต 2496 หนองคาย 1 คันโทรศัพท์ยีห้อ แอลจี 1 เครื่อง พฤติการณ์ในการจับกุม สืบเนื่องจากนายปรีชา วิสามารถ ผู้ต้องหารายนี้ถือว่าเป็นเอเย่นค้ายาบ้ารายใหญ่ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ซึ่งมีหมายจับคดีค้ายาบ้าในหลายพื้นที่ทั้ง สกลนคร กาฬสินธุ์ อุดรธานี นครพนม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปราบปรามยาเสพติด.ภ.จว.สกลนคร ได้เฝ้าติดตามผู้ต้องหารายนี้นานนับเดือนจนสามารถรวบตัวได้สำเร็จ
จากการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางแผนให้สายลับทำการล่อซื้อยาบ้าจำนาวน 950 เม็ดจากผู้ต้องหา เป็นเงินมูลค่า 125,000 บาท โดยนัดรับส่งของกันที่ บ้านเลขที่ 117 ม.13 ตำบลวาริชภูมิ อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร ซึ่งอยู่ในบ้านพักผู้ต้องหาเอง เมื่อถึงเวลานัดหมายสายลับพร้อมเงินล่อซื้อแสดงตัวล่อซื้อยาบ้า เมื่อผู้ต้องหาส่งยาบ้าให้สายลับทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดสกลนครที่ซ่อนตัวในพื้นที่ใกล้เคียงได้แสดงตัวเข้าจับกุมทันที
จึงทำการตรวจยึดได้ทั้งเงินล่อซื้อ และของกลางยาบ้าจำนวน 950 เม็ด ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้จำหน่ายยาบ้าในพื้นที่ภาคอีสานตอนบนจริงซึ่งทำมาหลายปี และหลุดลอดการจับกุมได้ทุกครั้ง จนมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า มีหรือจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) นำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีและขยายผลจับเพื่อนร่วมขบวนการต่อไป
พล.ต.ต.อุดม จาปาจันทร์ กล่าวว่า จากการวางแผนติดตามผู้ต้องหารายนี้ พบว่ามีหมายจับในคดีค้ายาบ้าในหลายท้องที่ ซึ่งถือว่าเป็นผู้ค้ารายใหญ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวางแผนร่วมกันในการจับกุมล่อซื้อยาบ้าดังกล่าวในครั้งนี้ได้สำเร็จ จากการเฝ้าระวังปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ที่มีการลักลอบเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่จะนำเข้ามาในปริมาณไม่มาก ทำให้ยากต่อการจับกุมผู้ค้าทั้งรายย่อย และรายใหญ่
อย่างไรก็ตามได้มอบนโยบายแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกพื้นที่ให้เข้มงวดในการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในถนนสานหลักและสายรอง การหาข่าวที่ชัดเจนจากพื้นที่เสี่ยง เพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้ ประกอบกับใกล้ถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเชื่อว่าขบวนการค้ายาเสพติดจะวางแผนลำเลียงยาบ้าหรือยาเสพติดอื่นเข้ามาในทุกพื้นที่อย่างแน่นนอนจึงมีกำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายร่วมกันติดตามกลุ่มหรือเครือข่ายดังกล่าวแล้ว