ศูนย์ข่าวขอนแก่น -คนขอนแก่นรักในหลวง กว่า 500 คน ร่วมแสดงพลังปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จัดเดินรณรงค์ปกป้องสถาบันสูงสุดและยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงนายกรัฐมนตรี ผ่านพ่อเมืองขอนแก่น เรียกร้องรัฐบาลออกมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ หลังถูกกลุ่มเสื้อแดงและนักโทษชายทักษิณ เหิมจาบจ้วงประธานองคมนตรีอย่างต่อเนื่อง
วันนี้ (3 เม.ย.) กลุ่มประชาชนจากหลายสาขาอาชีพในจังหวัดขอนแก่น อาทิ แพทย์ นักธุรกิจ พ่อค้า ข้าราชการ และกลุ่มสมาพันธ์รัฐวิสาหกิจ หรือ ส.ร.ส.ขอนแก่น และสมาชิกชมรมเกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน จ.ขอนแก่น ราว 500-600 คน พร้อมใจกันจัดกิจกรรม เดินขบวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในนามคนขอนแก่นรักในหลวง รวมตัวกันบริเวณข้างศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขอนแก่น ถ.ศรีจันทร์ เพื่อร่วมกันจัดกิจกรรมเดินรณรงค์ เรียกร้องให้คนขอนแก่นและคนไทยทุกภาคส่วนออกมาร่วมแสดงจุดยืนร่วมปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
ภายในขบวนนำ ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ พระบมราชินีนาถ นำหน้าขบวน พร้อมด้วยขบวนถือป้ายผ้าขนาดใหญ่เขียนข้อความปลุกจิตสำนึกให้ชาวขอนแก่น ออกมาปกป้องสถาบันสูงสุดหลายข้อความ อาทิ “ชาวขอนแก่น เทิดทูนพ่อหลวง”, “ชาวขอนแก่นรักในหลวง”, “รักเทิดทูนพระมหากษัตริย์”, “พวกเรารักป๋าเปรมฯ” ฯลฯ
โดยขบวนเริ่มเคลื่อนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยจังหวัดขอนแก่น เมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.ผ่านถนนศรีจันทร์ แยกเข้าถนนกลางเมือง และมุ่งหน้าไปยังศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ซึ่งต้องผ่านย่านการค้าในเขตเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งระหว่างการเคลื่อนขบวน พิธีได้เปิดเพลงพ่อของแผ่นดิน และเพลงรูปที่มีอยู่ทุกบ้าน สลับกับการปราศรัยให้ชาวขอนแก่นนำภาพในหลวง ออกมาเดินรณรงค์ร่วมกัน
พร้อมกันนั้น กลุ่มคนรักขอนแก่น ได้เตรียมภาพพระบรมฉายาลักษณ์ขนาดเล็ก ให้ตัวแทนแจกจ่ายให้กับชาวขอนแก่นสองข้างทาง ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนสูงมาก สร้างความปลื้มปีติให้กับผู้ที่ได้รับภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ระหว่างทางมีประชาชนโบกไม้โบกมือทักทายผู้ร่วมบวนกันอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม เมื่อขบวนใกล้ถึงศาลากลางจังหวัดขอนแก่น บริเวณสวนรัชดานุสรณ์ มีกลุ่มคนเสื้อแดง ราว 50 คน โดยมี นายยงยุทธ คงปฏิมากร แกนนำกลุ่มสถาบันเสื้อแดงขอนแก่น นัดรวมตัวกันที่บริเวณสนามเด็กเล่นสวนรัชดานุสรณ์ ด้านหน้าศาลากลางจังหวัดซึ่งเป็นสถานที่ที่กลุ่มคนเสื้อแดงตั้งเวทีรวมพลคนเสื้อแดงขอนแก่นในช่วงเย็นวันนี้ เมื่อขบวนชาวขอนแก่นรักในหลวง เดินผ่านถนนด้านข้างใกล้กับกลุ่มเสื้อแดง ได้เปิดเพลงประจำเวทีคนเสื้อแดง พร้อมกับเต้นอย่างสนุกสนาน และได้ปราศรัยให้คนเสื้อแดงรอดูท่าทีกลุ่มที่เดินขบวน ว่าจะมายั่วยุคนเสื้อแดงหรือไม่
ด้าน พ.ต.อ.ฉลอง ภาคย์ภิญโญ รองผู้บังคับการจังหวัดขอนแก่น และ พ.ต.อ.สุจินต์ นิจพาณิชย์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มถึง 200 นาย พร้อมกับมาทำหน้าดูแลสถานการณ์ด้วยตนเอง โดยระบุว่า เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยของกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะไม่ต้องการให้มีเหตุการณ์ปะทะกัน
ทั้งนี้ ขบวนของชาวขอนแก่นรักในหลวง ได้เดินทางถึงศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เมื่อเวลา 10.30 น.รวมตัวกันบริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า หน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เพื่อเตรียมยื่นหนังสือเปิดผนึกให้ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เพื่อนำเสนอต่อ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้รัฐบาลปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งมี นายทรงพล จำปาพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นตัวแทนมารับหนังสือ
ก่อนที่จะมีการมอบหนังสือเปิดผนึก กลุ่มคนขอนแก่นรักในหลวง ได้ให้เยาวชนเป็นตัวแทนอ่านแถลงการณ์เพื่อปลุกจิตสำนึกประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าให้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงงานอย่างมิรู้เหน็ดเหนื่อยเพื่อพสกนิกรชาวไทย ปวงชนชาวไทยต้องแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อพระเจ้าแผ่นดิน และต่อต้านการกระทำที่จาบจ้วงสถาบันองคมนตรี อันเป็นการก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์
จากนั้นเมื่อเวลา 10.50 น.ตัวแทนชาวขอนแก่นได้ยื่นหนังสือเปิดผนึกให้นายทรงพล จำปาพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นถึง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีออกมาแสดงความกล้าหาญ ในการยุติการจาบจ้วงองคมนตรี อันเป็นการก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ ดังที่ปรากฏบนเวทีกลุ่มคนเสื้อแดงมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนการกล่าวผ่านวีดีโอลิงก์ของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ที่พูดยุยงให้คนไทยมีความเข้าใจผิดและทำลายความน่าเชื่อถือในสถาบันองคมนตรี
โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้กล่าวกับกลุ่มคนขอนแก่นรักในหลวง ว่า จะดำเนินการส่งหนังสือเปิดผนึกไปตามสายงานบังคับบัญชา ให้ถึงนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นกลุ่มคนขอนแก่นรักในหลวง ได้ร่วมกันร้องเพลงสดุดีมหาราชา สดุดีมหาราชินี และเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมตะโกนคำว่าไชโย และขอพระองค์ทรงพระเจริญ ดังกระหึ่มหน้าศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ก่อนแยกย้ายกันไปเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.