เกษตรกรตากปิดถนนเชื่อมแม่สอดต่อ ทำธุรกิจพังยับ-น้ำมันขาดแคลน

ตาก - เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ปิดถนนเป็นวันที่ 2 ธุรกิจด้านอื่นๆเริ่มได้รับผลกระทบ เผยแม่สอด และพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า เริ่มขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิงแล้ว

วันนี้ (26 มี.ค.) เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในพื้นที่จังหวัดตาก ยังคงรวมตัวกันปิดถนนสายตาก-แม่สอด เป็นวันที่ 2 โดยยังไม่ยอมลดเงื่อนไขเดิมที่ต้องการให้นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ มาเจรจาและนำข้อเสนอเดิมไปแก้ไขปัญหาให้ โดยยืนยันจะปิดถนนต่อไป ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

แม้นายคมสัน เอกชัย ผวจ.ตาก, นายชิงชัย ก่อประภากิจ นายก อบจ.ตาก พร้อมเจ้าของไซโล ได้เดินทางไปเจรจากับเกษตรกร รับปากว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาเบื้องต้นโดยขอความร่วมมือให้เจ้าของไซโลรับจำนำข้าวโพดในส่วนที่ยังไม่ได้มีการจำนำหรือได้รับใบประทวน ซึ่งคงมีจำนวนปริมาณข้าวโพดของเกษตรกรค้างอยู่มากกว่า 150,000 ตัน จากเกษตรกรกว่า 1,000 รายๆละ 1.5 ตัน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้

เนื่องจากเจ้าของไซโลได้เสนอให้ราคา กก.ละ 7.60 บาท ภายใต้เงื่อนไขต้องวัดความชื้น แต่เกษตรกรไม่ต้องการให้วัดความชื้น แต่ในเรื่องราคาสามารถตกลงกันได้ที่ 7.60 บาท ต่อ กก. อันเป็นประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อเสนอก่อนหน้านี้ที่เกษตรกรได้เสนอต่อ รมช.พาณิชย์
รายงานข่าวแจ้งว่า การปิดถนนของกลุ่มเกษตรกรข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ได้เริ่มส่งผลกระทบกับการประกอบธุรกิจด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเกษตรด้านพืช ผักผลไม้ ดอกกุหลาบ ที่ไม่สามารถส่งออกไปต่างจังหวัดได้เพราะถนนถูกปิด ทำให้มีสินค้าบางอย่างเสียหาย

นอกจาก นี้สินค้าส่งออกชายแดนก็ติดค้างนำส่งออกไปยังประเทศพม่าไม่ได้ และผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทางทั้งรถตู้-รถทัวร์และรถอื่นๆ ต้องใช้เส้นทางอ้อมไปทาง อ.แม่ระมาด บ้านตาก และเขต อ.เมืองตาก ระยะทางกว่า 140-150 กม. ไกลกว่าเส้นทางสายที่ใช้อยู่ประจำประมาณ 60 กม. ทำให้ต้องเพิ่มอัตราค่าโดยสาร

นอกจากนี้ เส้นทางอ้อมนั้นรถบรรทุกขนาดใหญ่ทั้งรถสินค้า-รถทัวร์และรถบรรทุกน้ำมันไม่สามารถใช้ได้เพราะเส้นทางมีสภาพแคบ วิ่งบนภูเขาสูงชัน วิ่งได้เฉพาะรถเล็กเท่านั้น และประเด็นสำคัญในขณะนี้คือรถบรรทุกน้ำมันที่ไม่สามารถวิ่งมาส่งน้ำมันเชื้อเพลิงได้ ทำให้น้ำมันทั้งเบนซิลและดีเซลเริ่มขาดตลาด ซึ่งในพื้นที่ อ.แม่สอด และอำเภอใก้ลเคียงนั้น ต้องใช้น้ำมันวันละนับล้านลิตร รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิงที่ส่งออกไปพม่าด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า หากสถานการณ์เป็นเช่นนี้จะส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างมหาศาลทั้งการส่งออกสินค้าชายแดนไทย-พม่า ธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจการค้าพืชผักผลไม้ พืชไร่ ที่มีการส่งออกจาก อ.พบพระ ผ่าน อ.แม่สอด เป็นจำนวนวันละหลายสิบล้านบาท เพราะพืชผักผลไม้ อ.พบพระ นับว่าเป็นครัวของประเทศไทยที่ส่งออกไปจำหน่ายทั่วประเทศ แต่ไม่สามารถนำออกได้