ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ว่าฯ ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดสระแก้ว ร่วมประชุมทวิภาคี เพื่อสานสัมพันธ์ความเข้าใจด้านเศรษฐกิจ สังคม การกีฬาและท่องเที่ยว
นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และหัวหน้าส่วนราชการประธานหอการค้าจังหวัดสระแก้ว ร่วมให้การต้อนรับ นาย อุง เอือน ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย พร้อมรองผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจยและคณะ ในโอกาสเดินทางมาร่วมประชุมทวีภาคี เพื่อทบทวนบันทึกความเข้าใจระหว่างสองจังหวัด ซึ่งเคยร่วมประชุมกันเมื่อวันที่ 8 กรกฏาคม 2542
การประชุมที่ผ่านมาได้เน้นความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สังคม การกีฬา และท่องเที่ยว โดยเฉพาะกรณีความไม่สะดวกในการขนส่งสินค้าเกษตร เช่น ข้าวเปลือก มันสำปะหลัง และข้าวโพด ซึ่งทั้งสองฝ่ายต่างประสบปัญหาทางการตลาด ทำให้ผลผลิตตกค้างอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังเป็นการพบปะหารือและแสดงการคารวะกันในระดับทวิภาคีครั้งแรกของผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 2 จังหวัด ภายหลังจากขึ้นดำรงตำแหน่งใหม่ไม่นานนัก
นายศานิตย์ กล่าวต่อไปว่า การประชุมและร่วมกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดี มีความใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น อันจะนำไปสู่การประสานงานและความร่วมมือในการปฏิบัติงานต่อไปในอนาคต เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ ในฐานะที่จังหวัดสระแก้วมีพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดบันเตียเมียนเจย และจังหวัดพระตะบอง ตลอดแนวชายแดน ระยะทางประมาณ 165 กม. ซึ่งประชาชนทั้ง 2 ประเทศ มีความสัมพันธ์ทางสายโลหิตมาช้านาน มีการติดต่อสื่อสารทั้งทางด้านการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ สังคม ประเพณีและวัฒนธรรม ด้วยดีมาเป็นเวลานาน
ด้านนายอุง เอือน ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า ขระนี้รัฐบาลกำลังจะปรับปรุงเขตการปกครองทั่วประเทศ โดยจะแบ่งเขตการปกครอง เช่น จังหวัดบันเตียเมียนเจย เป็น 7 อำเภอ 2 กรุง 55 ตำบล 9 เขต 625 หมู่บ้าน และรอการอนุมัติอีก 27 หมู่บ้าน ส่วนอำเภอปอยเปตและศรีโสภณ จะถูกยกฐานะเป็นกรุง โดยกรุงปอยเปต มีประชากรกว่า 180,000 คน แบ่งเขตการปกครองเป็น 4 อำเภอ คือ อำเภอบันเตียชมาร์ ทะมอพวก สวาเจ มาลัย โอวจโร และกรุงศรีโสภณก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและประชาชนเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ การก่อสร้างเส้นทางการคมนาคม หมายเลข 5 และหมายเลข 6 ที่ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จ คือ จากวงเวียนปอยเปต ไปยังตัวเมืองศรีโสภณ ส่วนจากศรีโสภณไปเสียมเลียบ ก่อสร้างได้ร้อยละ 95 ซึ่งกำหนดแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายน 2552 นี้ โดยจากนี้ไปผู้ที่จะเดินทางไปเที่ยวนครวัด จะไม่ประสบปัญหาในการเดินทาง ซึ่งจะช่วงย่นระยะเวลาการเดินทางเกือบ 1 วัน เหลือเพียง 2 ชั่วโมง สร้างความสะดวกสบายในการคมนาคมท่องเที่ยวและการค้าการลงทุน