เชียงใหม่ - ย้อนบันทึกการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงภาคเหนือถึงวันนี้ถูกเจ้าทุกข์แจ้งความ 20 กว่าคดีแล้วทั้งฆ่า-รุมทำร้าย ปชช.จนเสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก แต่คดีไม่คืบ
การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อกอบกู้ “ระบอบทักษิณ” กลับคืนมาอีกครั้งในรูปแบบของการเกณฑ์มวลชนในพื้นที่ต่างๆ ในนามหลายกลุ่ม อาทิเช่น รักเชียงใหม่ 51 , ฮักลำปาง 51, 24 มิถุนาประชาธิไตย จ.เชียงราย หรือแม้กระทั่ง เครือข่ายเสื้อแดงอีสาน-ล้านนา จ.พะเยา ,กลุ่มรักประชาธิปไตยพิษณุโลก (รปส.) ฯลฯ นั้น
หลายครั้งมีเหตุรุนแรงบานปลายจนถึงขั้นทำร้ายประชาชนที่กลุ่มเสื้อแดงถือว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับตนเอง จนได้รับบาดเจ็บ – เสียชีวิต จนปรากฎเป็นข่าวครามให้เห็นอย่างต่อเนื่อง เช่น
วันที่ 11 กรกฎาคม 2551 เวลา 19.00 น. สถานีวิทยุวิหคเรดิโอ โดยสมาคมนักข่าวเชียงใหม่ สโมสรสื่อมวลชนภาคเหนือแห่งประเทศไทย ได้ตั้งจอถ่ายทอดสด ASTV บริเวณข่วงประตูท่าแพ แต่ถูกต่อต้านโดยนายพรหมศักดิ์ แสนโพธิ ประธานสมาพันธ์คนรากหญ้า ที่เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับชมรมคนรักทักษิณ จังหวัดเชียงใหม่และกลุ่มเชียงใหม่ 51 และนายอัครเดช สุขลักษณ์ แกนนำกลุ่มเครือข่ายเหล้าเสรีในพื้นที่จังหวัดเชียงราย อดีตอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในสมัยที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นรมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ รวมทั้งเคยเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการระดมม็อบทั่วภาคเหนือสนับสนุน อดีตนายกรัฐมนตรี นำม็อบป่วนเวทีเมืองไทยรายสัปดาห์ ณ สวนลุมพินี กรุงเทพฯ ได้นำมวลชนประมาณ 50 คนเข้ารื้อเวทีทำให้ต้องย้ายมาจัดงานบริเวณอนุสาวรีย์สามกษัตริย์
อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนดังกล่าวได้เดินทางติดตามมาพร้อมด้วยอาวุธ บุกทำลายเครื่องเสียง จานรับสัญญาณดาวเทียม และจอฉายภาพ ได้รับความเสียหาย และไม่สามารถดำเนินการถ่ายทอดสดต่อไปได้ โดยการปลุกระดมคนผ่านนายมหวรรณ กะวัง นักจัดรายการวิทยุของคลื่นวิทยุชุมชน 92.50 MHz (ในขณะนั้น) ตั้งอยู่ที่โรงแรมวโรรส แกรนด์พาเลส ที่มีนายเพชรวรรต วัฒนพงค์ศิริกุลเป็นผู้อำนวยการสถานีวิทยุชุมชน
13 กรกฎาคม 2551 กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ประมาณ 200 คน นำกำลังเข้าปิดล้อมโรงยิมเนเซียม สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อต่อต้านการจัดงานของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคเหนือ ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งครั้งนั้นมีประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากการทำร้ายของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หลายราย
นอกจากนี้ พระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ บริเวณหน้าโรงยิมฯ ถูกขว้างด้วยไข่ ไม้ และก้อนหิน ทำให้ได้รับความเสียหาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาควบคุมเหตุการณ์ 300 กว่านาย กลับเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บได้เข้าแจ้งความและมอบหลักฐานทั้งภาพถ่าย และภาพวิดีโอ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจับผู้ต้องหาได้แม้แต่รายเดียว
19 กรกฎาคม 2551 กลุ่มเสื้อแดง 24 มิถุนาฯเชียงราย นำกำลังปิดบุกบ้านพักของนางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีต ส.ว.เชียงราย และบ้านพักของนายผ้าง พลชัย แกนนำพันธมิตรฯเชียงราย ที่ใช้เป็นสถานที่ตั้งสถานีวิทยุชุมชนถ่ายทอดสัญญาณเสียง ASTV ด้วย บางคนได้ปาก้อนหิน ประทัดยักษ์ บางคนก็ยิงหนังสติ๊กเข้าไปในบ้าน ซึ่งนายผ้าง ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อ 29 กรกฎาคม 2551 พร้อมหลักฐานภาพนิ่ง-ภาพเคลื่อนไหว
วันเดียวกันกลุ่มเสื้อแดงเชียงราย ยังได้ยกกำลังไปปิดล้อมทางเข้าออกสนามบินเชียงราย เพื่อตรวจค้นรถยนต์ที่ออกจากสนามบินทุกคัน อ้างว่า ต้องการค้นหาตัวแกนนำพันธมิตรฯ ที่มีข่าวว่า เดินทางมาเชียงรายในวันดังกล่าว โดยไม่สนใจว่า เป็นการกระทำที่ถือว่า ละเมิดสิทธิบุคคลอื่นหรือไม่ จนมีผู้ได้รับความเสียหายแจ้งความไว้ที่ สภ.บ้านดู่ จ.เชียงราย ด้วย
28 กันยายน 2551 เวลาประมาณ 19.00 น.กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ประมาณ 100 คน ได้ยกพวกบุกทำลาย ข้างปา ทำร้าย กลุ่มผู้ชุมนุมที่ใช้ชื่อว่า “กลุ่มทหารเสือพระราชา” (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น “ทหารเสือเฝ้าแผ่นดิน” ที่หมู่บ้านระมิงค์นิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่ตั้งสถานีวิทยุวิหคเรดิโอ ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย - มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย
29 กันยายน 2551 เวลาประมาณ 17.30 น. กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ประมาณ 20 คน ยกพวกเข้าข่มขู่ ไล่ทำร้าย กลุ่มทหารเสือพระราชา ขณะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยไม่สนใจขื่อแปของบ้านเมือง
7 ตุลาคม 2551 สถานีวิทยุวิหคเรดิโอ ถูกคนร้ายลักลอบเข้าไปขโมยเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่น CD ฯลฯ ที่ส่วนหนึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการล้มสถาบันฯ
7 ตุลาคม 2551 เวลาประมาณ 13.00 น. กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงราย บุกเข้าปิดล้อมเชียงรายคอนโดเทล ที่เข้าใจว่า เป็นสถานีเครือข่ายวิหคเรดิโอ ที่ถ่ายทอดรายงานการเคลื่อนไหวการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่กรุงเทพฯ ผ่านคลื่นสัญญาณ ASTV
8 ตุลาคม 2551 เวลาประมาณ 11.00 น. มีกลุ่มคนบุกทำลายสถานีวิหคเรดิโอ 89 MHz ภายใน เชียงรายคอนโดเทล จ. เชียงราย จนได้รับความเสียหาย และเวลา 13.00 น.วันเดียวกัน กลุ่ม 24 มิถุนาฯเชียงราย บุกเข้าปิดล้อมเชียงรายคอนโดเทล ซ้ำอีกครั้ง ห้ามไม่ให้มีการออกอากาศ
9 ตุลาคม 2551 เวลาประมาณ 11.00 น.มีคนร้ายบุกเข้าทำลายสถานีวิทยุที่ถ่ายทอดสัญญาณ ASTV ที่เชียงรายคอนโดเทลจนได้รับความเสียหาย
10 ตุลาคม 2551 กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ยกพวกเข้าปิดล้อม – รุมทำร้ายกลุ่มทหารเสือฯ บน สภ.เมืองเชียงใหม่ เป็นครั้งที่ 2 เพราะเหตุที่กลุ่มทหารเสือฯ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับรักเชียงใหม่ 51 ในข้อหาปล้นทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว พรากผู้เยาว์ และซ่องโจร
29 ตุลาคม 2551 กลุ่ม 24 มิถุนาฯเชียงราย ได้ออกตระเวนค้นหาสถานีวิทยุวิหคเรดิโอเชียงราย ที่ถ่ายทอดสัญญาณ ASTV หลายจุด โดยเข้าใจว่าตั้งอยู่ภายในบริษัทนิ่มซี่เส็งลิสซิ่ง จำกัด สาขาเชียงราย
30 ตุลาคม 2551 เกิดเหตุคนร้ายปาวัตถุระเบิดไม่ทราบชนิด หน้าสถานีวิทยุวิหคเรดิโอ ภายในหมู่บ้านระมิงนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จนรถยนต์ได้รับความเสียหาย
26 พฤศจิกายน 2551 กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ประมาณ 200 คน เดินทางมาปิดล้อมสถานีวิทยุวิหคเรดิโอ ในหมู่บ้านระมิงค์นิเวศน์ ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และเกิดการปะทะกับกลุ่มทหารเสือฯ ที่รวมตัวกันอยู่ พร้อมใช้อาวุธหลายชนิดถล่มเข้าใส่สถานีวิทยุชุมชนวิหคเรดิโอ จนเหตุการณ์รุนแรงบานปลายจนเป็นเหตุให้นายเศรษฐา เจียมกิจวัฒนา เจ้าของสถานีวิทยุฯ เสียชีวิตคาที่
วันเดียวกัน กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่รวมตัวกันที่สนามบินเชียงใหม่ เพื่อรอต้อนรับและคุ้มกันนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี (ในขณะนั้น) ยังได้รุมทำร้ายนายวินัย ใจดี อายุ 50 ปี และนายสมพร ทองปานดี อายุ 49 ปี เจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญ ขณะมาขับรถตู้ติดป้ายศาลรัฐธรรมนูญเข้าไปในท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อรับผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผลให้ทั้งคู่ศรีษะแตกเลือดอาบ ส่วนรถตู้กระจกแตก ยางทั้ง 4 ล้อถูกเจาะ หลังจากทำแผลแล้วทั้ง คู่ได้เข้าแจ้งความ สภ.เมืองเชียงใหม่
7 ธ.ค.2551 มีกลุ่มบุคคลบุกเข้าไปที่สำนักปฏิบัติธรรม “ดอยรายปลายฟ้า” หมู่ 8 ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย ใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มเข้าไปภายใน กระสุนปืนถูกแทงก์น้ำและต้นไม้ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หลังจากเมื่อ 3 ธันวาคม 2551 สำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ก็ถูกมือมืดลอบวงเพลิงได้ จนอาคารได้รับความเสียหาย 2 หลัง โดยที่ไม่สามารถจับมือใครดมได้ใสแล้ว ซึ่งสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ มีเสาส่งสัญญาณวิทยุ ซึ่งเผยแพร่คลื่นวิหคเรดิโอ เอฟเอ็ม 89 เมกะเฮิร์ต ที่ถ่ายทอดเสียงกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วย
23 มกราคม 2552 กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 นำโดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ประธานที่ปรึกษากลุ่ม นำกำลังประมาณ 100 คนปิดล้อมที่สำนักปฏิบัติธรรมภูผาฟ้าน้ำ บ้านแม่เลา ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสำนักปฏิบัติธรรมในเครือข่ายสันติอโศก โดยบุกเข้าไปถึงบริเวณหน้าสำนักปฏิบัติธรรมและยิงหนังสติ๊กเข้าไปยังสำนัก ปฏิบัติธรรมดังกล่าว โดยอ้างว่า ไปขับไล่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่ได้ข่าวเดินทางมา โดยมีการทำลายทรัพย์สินหลายจุด เช่น การทำลายท่อส่งน้ำประปา การตัดสายไฟ รวมทั้งการจุดไฟเผาเพิงหญ้าคาริมแปลงนา เป็นต้น
28 กุมภาพันธ์ 2552 กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 พร้อมด้วยกลุ่มรักษ์ประชาธิปไตยพิษณุโลก (รปส.) ที่รวมตัวกันเคลื่อนไหวต่อต้านการัดเวทีคอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 3 ที่พิษณุโลกในวันดังกล่าว ได้ก่อเหตุรุมกระทืบนายอดิศร ธีรศานตินันท์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลที่ 46/1 ถ.สนามบิน ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก เพียงแค่ถูกนายอดิศร กดแตรรถยนต์เพื่อขอทางจากขบวนเสื้อแดง จนเป็นเหตุให้นายอดิศร ได้รับบาดเจ็บ และได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก
ซึ่งบันทึกเหตุการณ์เหล่านี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ที่ยังไม่รวมเหตุการณ์รวมพลของกลุ่มเสื้อแดงหลายกรณี ที่เป็นการเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนขัดต่อหลักการประชาธิปไตยอย่างเห็นได้ชัด เช่น การรวมพลต่อต้านการหาเสียงเลือกตั้งของนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามหลายท้องที่ ไม่ว่าจะเป็นที่ลำปาง – ลำพูน เป็นต้น
การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อกอบกู้ “ระบอบทักษิณ” กลับคืนมาอีกครั้งในรูปแบบของการเกณฑ์มวลชนในพื้นที่ต่างๆ ในนามหลายกลุ่ม อาทิเช่น รักเชียงใหม่ 51 , ฮักลำปาง 51, 24 มิถุนาประชาธิไตย จ.เชียงราย หรือแม้กระทั่ง เครือข่ายเสื้อแดงอีสาน-ล้านนา จ.พะเยา ,กลุ่มรักประชาธิปไตยพิษณุโลก (รปส.) ฯลฯ นั้น
หลายครั้งมีเหตุรุนแรงบานปลายจนถึงขั้นทำร้ายประชาชนที่กลุ่มเสื้อแดงถือว่าอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับตนเอง จนได้รับบาดเจ็บ – เสียชีวิต จนปรากฎเป็นข่าวครามให้เห็นอย่างต่อเนื่อง เช่น
วันที่ 11 กรกฎาคม 2551 เวลา 19.00 น. สถานีวิทยุวิหคเรดิโอ โดยสมาคมนักข่าวเชียงใหม่ สโมสรสื่อมวลชนภาคเหนือแห่งประเทศไทย ได้ตั้งจอถ่ายทอดสด ASTV บริเวณข่วงประตูท่าแพ แต่ถูกต่อต้านโดยนายพรหมศักดิ์ แสนโพธิ ประธานสมาพันธ์คนรากหญ้า ที่เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับชมรมคนรักทักษิณ จังหวัดเชียงใหม่และกลุ่มเชียงใหม่ 51 และนายอัครเดช สุขลักษณ์ แกนนำกลุ่มเครือข่ายเหล้าเสรีในพื้นที่จังหวัดเชียงราย อดีตอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในสมัยที่นายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นรมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ รวมทั้งเคยเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการระดมม็อบทั่วภาคเหนือสนับสนุน อดีตนายกรัฐมนตรี นำม็อบป่วนเวทีเมืองไทยรายสัปดาห์ ณ สวนลุมพินี กรุงเทพฯ ได้นำมวลชนประมาณ 50 คนเข้ารื้อเวทีทำให้ต้องย้ายมาจัดงานบริเวณอนุสาวรีย์สามกษัตริย์
อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนดังกล่าวได้เดินทางติดตามมาพร้อมด้วยอาวุธ บุกทำลายเครื่องเสียง จานรับสัญญาณดาวเทียม และจอฉายภาพ ได้รับความเสียหาย และไม่สามารถดำเนินการถ่ายทอดสดต่อไปได้ โดยการปลุกระดมคนผ่านนายมหวรรณ กะวัง นักจัดรายการวิทยุของคลื่นวิทยุชุมชน 92.50 MHz (ในขณะนั้น) ตั้งอยู่ที่โรงแรมวโรรส แกรนด์พาเลส ที่มีนายเพชรวรรต วัฒนพงค์ศิริกุลเป็นผู้อำนวยการสถานีวิทยุชุมชน
13 กรกฎาคม 2551 กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ประมาณ 200 คน นำกำลังเข้าปิดล้อมโรงยิมเนเซียม สนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อต่อต้านการจัดงานของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยภาคเหนือ ในบริเวณดังกล่าว ซึ่งครั้งนั้นมีประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากการทำร้ายของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หลายราย
นอกจากนี้ พระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ บริเวณหน้าโรงยิมฯ ถูกขว้างด้วยไข่ ไม้ และก้อนหิน ทำให้ได้รับความเสียหาย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้ามาควบคุมเหตุการณ์ 300 กว่านาย กลับเพิกเฉยต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บได้เข้าแจ้งความและมอบหลักฐานทั้งภาพถ่าย และภาพวิดีโอ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจับผู้ต้องหาได้แม้แต่รายเดียว
19 กรกฎาคม 2551 กลุ่มเสื้อแดง 24 มิถุนาฯเชียงราย นำกำลังปิดบุกบ้านพักของนางเตือนใจ ดีเทศน์ อดีต ส.ว.เชียงราย และบ้านพักของนายผ้าง พลชัย แกนนำพันธมิตรฯเชียงราย ที่ใช้เป็นสถานที่ตั้งสถานีวิทยุชุมชนถ่ายทอดสัญญาณเสียง ASTV ด้วย บางคนได้ปาก้อนหิน ประทัดยักษ์ บางคนก็ยิงหนังสติ๊กเข้าไปในบ้าน ซึ่งนายผ้าง ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.แม่สาย จ.เชียงราย เมื่อ 29 กรกฎาคม 2551 พร้อมหลักฐานภาพนิ่ง-ภาพเคลื่อนไหว
วันเดียวกันกลุ่มเสื้อแดงเชียงราย ยังได้ยกกำลังไปปิดล้อมทางเข้าออกสนามบินเชียงราย เพื่อตรวจค้นรถยนต์ที่ออกจากสนามบินทุกคัน อ้างว่า ต้องการค้นหาตัวแกนนำพันธมิตรฯ ที่มีข่าวว่า เดินทางมาเชียงรายในวันดังกล่าว โดยไม่สนใจว่า เป็นการกระทำที่ถือว่า ละเมิดสิทธิบุคคลอื่นหรือไม่ จนมีผู้ได้รับความเสียหายแจ้งความไว้ที่ สภ.บ้านดู่ จ.เชียงราย ด้วย
28 กันยายน 2551 เวลาประมาณ 19.00 น.กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ประมาณ 100 คน ได้ยกพวกบุกทำลาย ข้างปา ทำร้าย กลุ่มผู้ชุมนุมที่ใช้ชื่อว่า “กลุ่มทหารเสือพระราชา” (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น “ทหารเสือเฝ้าแผ่นดิน” ที่หมู่บ้านระมิงค์นิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ที่ตั้งสถานีวิทยุวิหคเรดิโอ ทำให้ทรัพย์สินเสียหาย - มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย
29 กันยายน 2551 เวลาประมาณ 17.30 น. กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ประมาณ 20 คน ยกพวกเข้าข่มขู่ ไล่ทำร้าย กลุ่มทหารเสือพระราชา ขณะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยไม่สนใจขื่อแปของบ้านเมือง
7 ตุลาคม 2551 สถานีวิทยุวิหคเรดิโอ ถูกคนร้ายลักลอบเข้าไปขโมยเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องเล่น CD ฯลฯ ที่ส่วนหนึ่งเป็นข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการล้มสถาบันฯ
7 ตุลาคม 2551 เวลาประมาณ 13.00 น. กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยเชียงราย บุกเข้าปิดล้อมเชียงรายคอนโดเทล ที่เข้าใจว่า เป็นสถานีเครือข่ายวิหคเรดิโอ ที่ถ่ายทอดรายงานการเคลื่อนไหวการชุมนุมของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่กรุงเทพฯ ผ่านคลื่นสัญญาณ ASTV
8 ตุลาคม 2551 เวลาประมาณ 11.00 น. มีกลุ่มคนบุกทำลายสถานีวิหคเรดิโอ 89 MHz ภายใน เชียงรายคอนโดเทล จ. เชียงราย จนได้รับความเสียหาย และเวลา 13.00 น.วันเดียวกัน กลุ่ม 24 มิถุนาฯเชียงราย บุกเข้าปิดล้อมเชียงรายคอนโดเทล ซ้ำอีกครั้ง ห้ามไม่ให้มีการออกอากาศ
9 ตุลาคม 2551 เวลาประมาณ 11.00 น.มีคนร้ายบุกเข้าทำลายสถานีวิทยุที่ถ่ายทอดสัญญาณ ASTV ที่เชียงรายคอนโดเทลจนได้รับความเสียหาย
10 ตุลาคม 2551 กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ยกพวกเข้าปิดล้อม – รุมทำร้ายกลุ่มทหารเสือฯ บน สภ.เมืองเชียงใหม่ เป็นครั้งที่ 2 เพราะเหตุที่กลุ่มทหารเสือฯ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับรักเชียงใหม่ 51 ในข้อหาปล้นทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว พรากผู้เยาว์ และซ่องโจร
29 ตุลาคม 2551 กลุ่ม 24 มิถุนาฯเชียงราย ได้ออกตระเวนค้นหาสถานีวิทยุวิหคเรดิโอเชียงราย ที่ถ่ายทอดสัญญาณ ASTV หลายจุด โดยเข้าใจว่าตั้งอยู่ภายในบริษัทนิ่มซี่เส็งลิสซิ่ง จำกัด สาขาเชียงราย
30 ตุลาคม 2551 เกิดเหตุคนร้ายปาวัตถุระเบิดไม่ทราบชนิด หน้าสถานีวิทยุวิหคเรดิโอ ภายในหมู่บ้านระมิงนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จนรถยนต์ได้รับความเสียหาย
26 พฤศจิกายน 2551 กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หรือกลุ่มคนเสื้อแดง ประมาณ 200 คน เดินทางมาปิดล้อมสถานีวิทยุวิหคเรดิโอ ในหมู่บ้านระมิงค์นิเวศน์ ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ และเกิดการปะทะกับกลุ่มทหารเสือฯ ที่รวมตัวกันอยู่ พร้อมใช้อาวุธหลายชนิดถล่มเข้าใส่สถานีวิทยุชุมชนวิหคเรดิโอ จนเหตุการณ์รุนแรงบานปลายจนเป็นเหตุให้นายเศรษฐา เจียมกิจวัฒนา เจ้าของสถานีวิทยุฯ เสียชีวิตคาที่
วันเดียวกัน กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ที่รวมตัวกันที่สนามบินเชียงใหม่ เพื่อรอต้อนรับและคุ้มกันนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี (ในขณะนั้น) ยังได้รุมทำร้ายนายวินัย ใจดี อายุ 50 ปี และนายสมพร ทองปานดี อายุ 49 ปี เจ้าหน้าที่ศาลรัฐธรรมนูญ ขณะมาขับรถตู้ติดป้ายศาลรัฐธรรมนูญเข้าไปในท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อรับผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผลให้ทั้งคู่ศรีษะแตกเลือดอาบ ส่วนรถตู้กระจกแตก ยางทั้ง 4 ล้อถูกเจาะ หลังจากทำแผลแล้วทั้ง คู่ได้เข้าแจ้งความ สภ.เมืองเชียงใหม่
7 ธ.ค.2551 มีกลุ่มบุคคลบุกเข้าไปที่สำนักปฏิบัติธรรม “ดอยรายปลายฟ้า” หมู่ 8 ต.สันทราย อ.เมือง จ.เชียงราย ใช้ปืนเอ็ม 16 ยิงถล่มเข้าไปภายใน กระสุนปืนถูกแทงก์น้ำและต้นไม้ แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หลังจากเมื่อ 3 ธันวาคม 2551 สำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ก็ถูกมือมืดลอบวงเพลิงได้ จนอาคารได้รับความเสียหาย 2 หลัง โดยที่ไม่สามารถจับมือใครดมได้ใสแล้ว ซึ่งสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ มีเสาส่งสัญญาณวิทยุ ซึ่งเผยแพร่คลื่นวิหคเรดิโอ เอฟเอ็ม 89 เมกะเฮิร์ต ที่ถ่ายทอดเสียงกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วย
23 มกราคม 2552 กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 นำโดยนายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ประธานที่ปรึกษากลุ่ม นำกำลังประมาณ 100 คนปิดล้อมที่สำนักปฏิบัติธรรมภูผาฟ้าน้ำ บ้านแม่เลา ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นสำนักปฏิบัติธรรมในเครือข่ายสันติอโศก โดยบุกเข้าไปถึงบริเวณหน้าสำนักปฏิบัติธรรมและยิงหนังสติ๊กเข้าไปยังสำนัก ปฏิบัติธรรมดังกล่าว โดยอ้างว่า ไปขับไล่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ที่ได้ข่าวเดินทางมา โดยมีการทำลายทรัพย์สินหลายจุด เช่น การทำลายท่อส่งน้ำประปา การตัดสายไฟ รวมทั้งการจุดไฟเผาเพิงหญ้าคาริมแปลงนา เป็นต้น
28 กุมภาพันธ์ 2552 กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 พร้อมด้วยกลุ่มรักษ์ประชาธิปไตยพิษณุโลก (รปส.) ที่รวมตัวกันเคลื่อนไหวต่อต้านการัดเวทีคอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 3 ที่พิษณุโลกในวันดังกล่าว ได้ก่อเหตุรุมกระทืบนายอดิศร ธีรศานตินันท์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลที่ 46/1 ถ.สนามบิน ต.ในเมือง อ.เมืองพิษณุโลก เพียงแค่ถูกนายอดิศร กดแตรรถยนต์เพื่อขอทางจากขบวนเสื้อแดง จนเป็นเหตุให้นายอดิศร ได้รับบาดเจ็บ และได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองพิษณุโลก
ซึ่งบันทึกเหตุการณ์เหล่านี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่ง ที่ยังไม่รวมเหตุการณ์รวมพลของกลุ่มเสื้อแดงหลายกรณี ที่เป็นการเคลื่อนไหวที่ดูเหมือนขัดต่อหลักการประชาธิปไตยอย่างเห็นได้ชัด เช่น การรวมพลต่อต้านการหาเสียงเลือกตั้งของนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามหลายท้องที่ ไม่ว่าจะเป็นที่ลำปาง – ลำพูน เป็นต้น
