พิษณุโลก – ท่องเที่ยวและกีฬาเมืองสองแควเตรียมพร้อมรับ “อาเซียนแฟมิลี่แรลลี่ 2009” จาก 5 ชาติ ที่จะมารวมตัวกันที่พิษณุโลกกลางเดือนนี้ วางเป้าหมายเชื่อมความสัมพันธ์ 5 ประเทศประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย พร้อมหาจุดบกพร่องบนเส้นทาง East West Corridor
นายมนู อนันตชัยศิริ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า การจัดงานเอเชี่ยนแฟมิลี่แรลลี่ 2009 เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ไทยเป็นประธานอาเซียน โดยที่กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาได้จัดงานแรลลี่ทางภาคใต้เมื่อต้นเดือนมีนาคม 52 ที่ผ่านมา และภาคเหนือจัดขึ้นที่จังหวัดพิษณุโลก ในวันที่ 8 มีนาคม 2552 จะมีบุคคลสำคัญในประเทศพม่าเข้าร่วมขบวนเอเชี่ยนแฟมิลี่ 10 คันหรือ 40 คนผ่านมายังสะพานมิตรภาพไทย-พม่า นอนพักที่จังหวัดสุโขทัย เที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์เมืองเก่า
วันรุ่งขึ้น (9 มี.ค.) ขบวนจึงเคลื่อนเข้าจังหวัดพิษณุโลกโดยแวะนมัสการพระพุทธชินราช ก่อนเข้าพักโรงแรม ขณะที่ขบวนแรลลี่จากประเทศเวียดนาม กัมพูชาและสปป.ลาวประเทศละ 10 คัน หรือ 40 คนได้ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาวเข้าแวะพักและค้างคืนที่จังหวัดขอนแก่น ก่อนมุ่งหน้าเข้าพิษณุโลก โดยผ่านมาทางถนนพิษณุโลก-หล่มสัก เข้าพักที่โรงแรมอมรินทร์ลากูล กลางคืนมีพิธีการต้อนรับคณะแรลลี่ รองปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาและผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกกล่าวรายงานและเลี้ยงต้อนรับที่บริเวณสนามกีฬากลางจังหวัดพิษณุโลก
ขบวนเอเชี่ยนแฟมิลี่แรลลี่ 2009 ประเทศเวียดนาม ลาว กัมพูชา พม่า จำนวน 40 คัน และไทยอีก 20 คันนี้ เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทยในอนาคต เพราะบุคคลที่เดินทางมานั้น เป็นบุคคลสำคัญที่สามารถประชาสัมพันธ์เรื่องสถานที่ท่องเที่ยวไทย ให้กับประเทศของตน หลังเดินทางกลับ
นอกจากนี้ กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาได้จัดทำแบบสอบถามแก่ผู้มาเยือน ในประเด็นต่างๆ เช่น สถานที่พักที่แวะผ่าน ห้องน้ำสะอาดหรือไม่ เส้นทางบอกทางเป็นสากลหรือไม่ ทั้งนี้ไทยต้องการให้กลุ่มประเทศอาเชียนไปบอกต่อกันถึงแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยสำคัญ เพราะทุกจุดที่แวะผ่าน จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดนั้นๆ
เขาบอกว่า ทั้ง 4 ประเทศในกลุ่มอาเซียที่รวมตัวและแวะพักในพิษณุโลก จะออกสตาร์ทขบวนแรลลี่อีกครั้งในวันที่ 10 มีนาคม โดยพม่าและกัมพูชา จะออกเดินทางไปสายพิษณุโลก-สุโขทัย ซึ่งคณะของพม่าจะแวะชมเขื่อนภูมิพล ส่วนคณะของกัมพูชาจะไม่ย้อนกลับเส้นทางเดิม แต่จะแวะไปยังสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ตามเส้นทางมุ่งหน้าลงใต้ ชมโบราณสถานที่จังหวัดอยุธยาก่อนวกกลับเข้าประเทศ
ส่วน สปป.ลาว และ เวียดนาม แม้จะยกขบวนแรลลี่กลับบนเส้นทางเดิม แต่ก็จะแยกไปทัวร์ท่องเที่ยยวตามสถานที่สำคัญของจังหวัดเลยเป็นต้น
นายมนู กล่าวว่า สิ่งที่ได้จากงาน “อาเซียนแฟมิลี่แรลลี่ 2009” ครั้งนี้ก็เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ในแต่ละประเทศ และบุคคลในอาเชียนเหล่านี้จะช่วยประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวต่างๆของประเทศไทย และคำตอบต่างที่ได้ตั้งคำถามจากคณะอาเซียนแฟมิลี่แรลลี่ 2009 ทั้ง 160 คน