อุบลราชธานี - “อิสสระ สมชัย” รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กลับถ้ำตรวจดูการยื่นขึ้นทะเบียนรับเบี้ยยังชีพคนชรา พบไร้ปัญหา เพราะส่วนใหญ่จนจริงไร้ลูกหลานเหลียวแล พร้อมมอบเงินช่วยผู้ประสบวาตภัยรายละ 1,500 บาท
เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่สำนักงานเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี นายอิสสระ สมชัย รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มาดูความเรียบร้อยการยื่นลงทะเบียนผู้สูงอายุขอรับเงินเบี้ยยังชีพเดือนละ 500 บาท ปรากฏว่าตลอดทั้ง 2 วันที่ผ่านมา มีคนชราอายุเกินกว่า 60 ปี นำหลักฐานมายื่นขอรับเบี้ยยังชีพใน อ.พิบูลมังสาหารแล้วกว่า 4,500 คน จากจำนวนผู้สูงอายุตามทะเบียนบ้านที่มีอยู่กว่า 20,000 ราย และจากการตรวจสอบพบว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อย ลูกหลานไปขายแรงงานอยู่ต่างจังหวัด ไม่อยู่ในระบบได้รับเงินตอบแทนอื่นใดจากภาครัฐและเอกชน
จากการสอบถามผู้สูงอายุที่มียื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียนรับเบี้ยยังชีพกล่าวว่า โครงการจ่ายเงินช่วยเหลือคนชราให้มีเบี้ยยังชีพทุกเดือนครั้งนี้ ทำให้คนชราที่อาศัยอยู่ตามหมู่บ้านต่างๆได้รับเงินช่วยเหลืออย่างเสมอภาคกัน เพราะอดีตแต่ละหมู่บ้านสามารถขึ้นทะเบียนคนชรา เพื่อขอรับเบี้ยยังชีพจากรัฐบาลได้เพียงปีละ 1-3 คน และคนชราที่มีโอกาสได้ขึ้นทะเบียนรับเบี้ยยังชีพส่วนใหญ่ ก็เป็นบิดามารดาของหัวคะแนนนักการเมืองท้องถิ่น เมื่อรัฐบาลประกาศให้คนชราสามารถขึ้นทะเบียนได้ทุกคน ก็ช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งในชุมชน และทำให้คนชราที่ยากจนไม่มีลูกหลานคอยดูแลได้รับการช่วยเหลืออย่างแท้จริง
ขณะเดียวกันนายอิสสระ ยังมอบเงินช่วยเหลือซ่อมแซมที่พักอาศัยแก่ผู้ประสบวาตภัยพายุพัดบ้านพังเสียหายในเขตตำบลกุดชมพู อ.พิบูลมังสาหาร เมื่อสัปดาห์ก่อนจำนวน 32 หลังคาเรือนรายละ 1,500 บาทด้วย
เมื่อวันที่ 27 ก.พ. ที่สำนักงานเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี นายอิสสระ สมชัย รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มาดูความเรียบร้อยการยื่นลงทะเบียนผู้สูงอายุขอรับเงินเบี้ยยังชีพเดือนละ 500 บาท ปรากฏว่าตลอดทั้ง 2 วันที่ผ่านมา มีคนชราอายุเกินกว่า 60 ปี นำหลักฐานมายื่นขอรับเบี้ยยังชีพใน อ.พิบูลมังสาหารแล้วกว่า 4,500 คน จากจำนวนผู้สูงอายุตามทะเบียนบ้านที่มีอยู่กว่า 20,000 ราย และจากการตรวจสอบพบว่า ผู้สูงอายุส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อย ลูกหลานไปขายแรงงานอยู่ต่างจังหวัด ไม่อยู่ในระบบได้รับเงินตอบแทนอื่นใดจากภาครัฐและเอกชน
จากการสอบถามผู้สูงอายุที่มียื่นเอกสารขอขึ้นทะเบียนรับเบี้ยยังชีพกล่าวว่า โครงการจ่ายเงินช่วยเหลือคนชราให้มีเบี้ยยังชีพทุกเดือนครั้งนี้ ทำให้คนชราที่อาศัยอยู่ตามหมู่บ้านต่างๆได้รับเงินช่วยเหลืออย่างเสมอภาคกัน เพราะอดีตแต่ละหมู่บ้านสามารถขึ้นทะเบียนคนชรา เพื่อขอรับเบี้ยยังชีพจากรัฐบาลได้เพียงปีละ 1-3 คน และคนชราที่มีโอกาสได้ขึ้นทะเบียนรับเบี้ยยังชีพส่วนใหญ่ ก็เป็นบิดามารดาของหัวคะแนนนักการเมืองท้องถิ่น เมื่อรัฐบาลประกาศให้คนชราสามารถขึ้นทะเบียนได้ทุกคน ก็ช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งในชุมชน และทำให้คนชราที่ยากจนไม่มีลูกหลานคอยดูแลได้รับการช่วยเหลืออย่างแท้จริง
ขณะเดียวกันนายอิสสระ ยังมอบเงินช่วยเหลือซ่อมแซมที่พักอาศัยแก่ผู้ประสบวาตภัยพายุพัดบ้านพังเสียหายในเขตตำบลกุดชมพู อ.พิบูลมังสาหาร เมื่อสัปดาห์ก่อนจำนวน 32 หลังคาเรือนรายละ 1,500 บาทด้วย