มหาสารคาม -ชาวบ้าน อ.เชียงยืน ไม่ต้องเคลื่อนย้ายแรงงานช่วงหน้าแล้ง เผย รวมกลุ่มปลูกแคนตาลูป และลูกสก๊อต ในลักษณะคอนแทรกฟาร์มมิง นำเมล็ดส่งขายให้ชาวต่างชาติ ระบุ ราคาจำหน่ายสูงถึงกิโลกรัมละ 1,400 บาท
หลังพ้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวข้าวเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เริ่มที่จะเข้าสู่หน้าแล้ง เกษตรกรส่วนใหญ่ต่างทยอยเดินทางไปทำงานยังต่างจังหวัด ขายแรงงานหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว แต่มีเกษตรกรกลุ่มหนึ่งในพื้นที่อำเภอเชียงยืนรวมกลุ่มกันทั้งตำบลปลูกพืชล้มลุก คือ แคนตาลูป และลูกสก๊อต เพื่อนำเมล็ดส่งขายให้กับนายทุนชาวต่างชาติสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก
นายหนูนา สิมะลี ชาวบ้านแบก ตำบลนาทอง อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นเกษตรกรผู้ปลูกพืชดังกล่าว กล่าวว่า ตนและชาวบ้านในตำบลนาทอง ปลูกพืชประเภทล้มลุก คือ แคนตาลูป บนพื้นที่ 3 ไร่ และอีก 1 ไร่ ปลูกลูกสก๊อต เป้าหมายหลักเพื่อนำเมล็ดส่งจำหน่ายให้กับนายทุนชาวต่างชาติ โดยปลูกมาได้กว่า 10 ปีแล้ว
รูปแบบการปลูกพืชทั้งสองชนิด จะมีนายทุนจ่ายค่าเช่าที่ ค่าเมล็ดพันธุ์ และค่าแรงให้กับตนซึ่งเป็นเจ้าของที่ จากนั้นตนจะจ้างเพื่อนบ้านมาทำการปลูก และดูแลสวน จนกระทั่งเก็บเกี่ยวผลผลิต โดยเมล็ดแคนตาลูปขาย สามารถจำหนายได้ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 1,400 บาท ส่วนเมล็ดลูกสก๊อตขายได้กิโลกรัมละ 600 บาท
พืชชนิดนี้สามารถปลูกได้ในภาคอีสาน เฉพาะในช่วงหน้าแล้งเท่านั้น หากปลูกหน้าฝนจะทำให้ใบเน่า และลำต้นเน่า ซึ่งตนปลูกมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ประมาณ 4 เดือนก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ทำให้ตน และเพื่อนบ้านมีรายในช่วงหน้าแล้ง ช่วยจุนเจือครอบได้อีกทางหนึ่งด้วย