xs
xsm
sm
md
lg

ชาวแปดริ้วตื่นต้นตะเคียนคู่ยักษ์ฝังจมอยู่ใต้ดินกว่า 100 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา - ชาวแปดริ้ว ตื่นเต้นกับต้นตะเคียนยักษ์ ผุดขึ้นริมบึงเทพพระยาเมืองแปดริ้ว หลังพบฝังจมคู่อยู่ใต้ดินมานานนับร้อยปี ก่อนถูกทำพิธีอัญเชิญขึ้นมา ทำผู้คนพากันแห่มารุมล้อมกราบไหว้ หวังขอเลขเด็ด เป็นความหวังที่พึ่งสุดท้ายทางใจของชาวบ้านในการฝ่าฟันวิกฤตเศรษฐกิจโลกของคนไทย ขณะแม้ค้า ดอกไม้ มาลัย คนเร่ขายลอตเตอรี่ตั้งป้อมยิ้มรับ

วันนี้ (24 ก.พ.) เวลา 15.00 น. ชาวบ้านแปดริ้วต่างพากันหลั่งไหล เข้ามารุมล้อม กราบไหว้ ปะแป้งลูบคำ ลำต้นตะเคียนทองยักษ์ ที่บริเวณริมบึงเทพพระยา พื้นที่ ม.17 ต.ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา หลังขุดพบจมลึกอยู่ใต้พื้นดินกว่า 4 เมตร ก่อนทำพิธีพราหมณ์อัญเชิญขึ้นมา เมื่อสองวันก่อน (22 ก.พ.) เชื่อถูกฝังจมอยู่ใต้พื้นดินริมฝั่งน้ำมานานนับร้อยๆ ปี

โดยต้นแรกมีขนาดใหญ่เท่า 3 คนโอบ ขนาดเส้นผ่าสูญกลางลำต้นประมาณ 1.5 เมตร ขนาดความสูงจากโคนจรดยอด 32.20 เมตร ต้นที่สองถูกฝังอยู่คู่กัน ขนาด 2 คนโอบ มีขนาดเส้นผ่าสูญกลางโคนต้นประมาณ 1.2 เมตร ความสูงจากโคนจรดยอด 21.30 เมตร

นายบุญลอย สถิตกุล อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.17 ต.ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า สาเหตุที่มีการค้นพบต้นตะเคียนคู่ ที่ถูกฝังดินจมอยู่ริมน้ำในบึงเทพพระยา ซึ่งเป็นบึงน้ำที่เชื่อมต่อระหว่าง คลองพระองค์ไชยานุชิต กับคลองขวางนั้น เมื่อวันอังคารที่ 17 ก.พ.52 ที่ผ่านมาได้มีชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงฝันเห็นต้นตะเคียนคู่ถูกฝังจมอยู่ในบริเวณดังกล่าว จึงได้ช่วยกันออกมาค้นหาโดยใช้เหล็กแหลมแทงลงไปยังใต้ดิน และพบว่ามีต้นตะเคียนอยู่ในบริเวณดังกล่าวนี้จริง

หลังจากนั้น ในวันอาทิตย์ที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา จึงได้นำพราหมณ์ จากวัดดังในกรุงเทพฯ มาเป็นเจ้าพิธีอัญเชิญขึ้นมาได้สำเร็จ โดยใช้รถแบ็คโฮซึ่งกำลังมาทำงานปรับปรุงสภาพพื้นที่ทำรีสอร์ท อยู่ในบริเวณเดียวกันขุดขึ้นมา จนมีชาวบ้านที่ทราบข่าว ต่างพากันเดินทางเข้ามากราบไว้ ปะพรมน้ำอบน้ำหอมกันเป็นจำนวนมาก บ้างก็นำหมากพลูมาเซ่นไหว้ บางรายก็นำพวงมาลัยมาสักการะ และยังมีผู้คนอีกไม่น้อย ได้นำแป้งเด็กมาทาถูลูบคำเพื่อหาเลขเด็ด จนผิวของเปลือกต้นตะเคียนขาวโพนไปทั่วทั้งต้น

ต้นตะเคียนทั้งคู่นี้ ยังถือว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์มาก เนื้อไม้และผิวเปลือกยังไม่ผุกร่อน หากยังยืนต้นอยู่ถือเป็นต้นไม่ใหญ่ที่สูงตระหง่านมากถึง 16 วาเศษ ตลอดสองวันที่ผ่านมามีผู้คนที่ทราบข่าว ต่างพากันเดินทางวนเวียนเข้ามากราบไหว้ สักการะ โรยแป้งลูบคำที่ลำต้นตะเคียนกันอย่างไม่ขาดสาย วันละไม่ต่ำกว่า 500 คน โดยเฉพาะในช่วงเย็นหลังเลิกงาน ก่อนใกล้พลบค่ำ ที่อากาศไม่ร้อน จะมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาอย่างมากมายเป็นพิเศษจนเต็มแน่นบริเวณพื้นที่

สำหรับพื้นที่บริเวณนี้ เป็นพื้นที่ทุ่งนาเก่าแก่ สลับกับบ้านเรือนพักอาศัยของชาวบ้าน อยู่กันห่างๆ ซึ่งขณะนี้ได้มีนายทุน ซึ่งเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ อยู่ในกรุงเทพฯ ได้เข้ามาซื้อเพื่อปรับปรุงเป็นรีสอร์ท จำนวน 150 ไร่ ก่อนที่จะมาขุดพบต้นตะเคียนคู่ดังกล่าว อยู่ริมคลองด้านหลังพื้นที่แปลงนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากกระแสความเชื่อศรัทธาในสิ่งลี้ลับ ที่เป็นความหวังที่พึ่งทางใจสุดท้ายของผู้คน ได้สร้างรายได้อย่างงดงามให้แก่คนในพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะร้านค้าตลอดเส้นทาง จากปากทางเข้าวัดสว่างอารมณ์ ไปจนถึง “บ้านสวนทวี พิกุล รีสอร์ท” เจ้าของพื้นที่ ที่ก่อนหน้าต่างซบเซาไปตามกันท่ามกลางกระแสวิกฤติเศรษฐกิจ

หลังนายจ้างต่างพากันเลิกจ้างปลดลดคนงาน หนุ่มสาวฉันทนาต่างถิ่นต้องหอบเสื่อหมอนเดินทางกลับคืนสู่ภูมิลำเนาไป จนส่งผลทำให้ผู้คน ร้านค้าเงียบเหงา ได้กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้อีกครั้ง โดยเฉพาะคนเร่ขายลอตเตอรี่ แม่ค้าขายดอกไม้ และมาลัย เซ่นไหว้ ที่มาตั้งป้อมเปิดแผง วางเรียงเป็นตับแถว แนวยาวเหยียดในช่วงเย็นก่อนพลบค่ำ


กำลังโหลดความคิดเห็น