อุดรธานี - นายแพทย์สาธารณสุขอุดรธานี เผย สถานการณ์โรคเอดส์ พบผู้ป่วยเอดส์สะสมจากปี 2530 ถึงต้นปี 52 มากเป็นอันดับ 10 ของประเทศกว่า 6,204 ราย เสียชีวิตแล้ว 1,118 ราย เผย ปัจจัยติดเชื่อเอดส์จากการมีเพศสัมพันธ์มากที่สุดถึงร้อยละ 93.09 ระบุ จุดที่น่าห่วง เยาวชนขาดทักษะป้องกันตัวเอง ใช้ถุงยางอนามัยต่ำ
นายแพทย์ สัญชัย ปิยะพงษ์กุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า สถานการณ์เอดส์จังหวัดอุดรธานี นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2530 ถึง 20 มกราคม 2552 พบผู้ป่วยเอดส์ จำนวน 6,204 ราย เสียชีวิต 1,118 ราย ผู้ป่วยรายใหม่ตลอดปี 2551 จำนวน 261 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 25-34 ปี ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการติดเชื้อมากที่สุด คือ การมีเพศสัมพันธ์ ร้อยละ 93.09 รองลงมา คือ จากแม่สู่ลูกร้อยละ 4.85
จังหวัดอุดรธานี มีผู้ป่วยเอดส์สะสมเป็นอันดับ 10 ของประเทศไทย ปัจจุบันค่านิยมทางเพศในกลุ่มเยาวชน และวัยรุ่นในสังคมไทยได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเทศกาลสำคัญต่างๆ ที่มักให้ความสำคัญอย่างผิดๆ แล้วตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์กับแฟน เพื่อน หรือคนรู้จัก
ที่น่าเป็นห่วง คือ เยาวชนเหล่านี้ ยังขาดทักษะในการป้องกันตนเอง และมีการใช้ถุงยางอนามัยในการป้องกันตนเองน้อยมาก ทำให้เกิดปัญหาตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ รวมทั้งติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และโรคเอดส์ และผลกระทบอื่นที่ตามมา ซึ่งองค์การอนามัยโลกและโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ ได้ให้ความสำคัญ และกำหนดให้รณรงค์ ควบคุมป้องกันโรคเอดส์มาอย่างต่อเนื่อง
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อมาแสดงตัวขอรับการสนับสนุนยาต้าน เอช ไอ วี ตามโครงการนภา (โครงการการปรับปรุงการเข้าถึงระบบบริการการดูแลรักษา ผู้ติดเชื้อ เอชไอวี ระดับชาติ) เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากทุกคนตระหนักในการป้องกันตนเองจากโรคเอดส์ และป้องกันตนเองเบื้องต้นโดยใช้ถุงยางอนามัย จะช่วยให้ปัญหาเอดส์ลดความรุนแรงลงได้ในระดับหนึ่ง
นายแพทย์ สัญชัย ปิยะพงษ์กุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า สถานการณ์เอดส์จังหวัดอุดรธานี นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2530 ถึง 20 มกราคม 2552 พบผู้ป่วยเอดส์ จำนวน 6,204 ราย เสียชีวิต 1,118 ราย ผู้ป่วยรายใหม่ตลอดปี 2551 จำนวน 261 ราย ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มอายุ 25-34 ปี ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการติดเชื้อมากที่สุด คือ การมีเพศสัมพันธ์ ร้อยละ 93.09 รองลงมา คือ จากแม่สู่ลูกร้อยละ 4.85
จังหวัดอุดรธานี มีผู้ป่วยเอดส์สะสมเป็นอันดับ 10 ของประเทศไทย ปัจจุบันค่านิยมทางเพศในกลุ่มเยาวชน และวัยรุ่นในสังคมไทยได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเทศกาลสำคัญต่างๆ ที่มักให้ความสำคัญอย่างผิดๆ แล้วตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์กับแฟน เพื่อน หรือคนรู้จัก
ที่น่าเป็นห่วง คือ เยาวชนเหล่านี้ ยังขาดทักษะในการป้องกันตนเอง และมีการใช้ถุงยางอนามัยในการป้องกันตนเองน้อยมาก ทำให้เกิดปัญหาตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ รวมทั้งติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และโรคเอดส์ และผลกระทบอื่นที่ตามมา ซึ่งองค์การอนามัยโลกและโครงการโรคเอดส์แห่งสหประชาชาติ ได้ให้ความสำคัญ และกำหนดให้รณรงค์ ควบคุมป้องกันโรคเอดส์มาอย่างต่อเนื่อง
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อมาแสดงตัวขอรับการสนับสนุนยาต้าน เอช ไอ วี ตามโครงการนภา (โครงการการปรับปรุงการเข้าถึงระบบบริการการดูแลรักษา ผู้ติดเชื้อ เอชไอวี ระดับชาติ) เพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม หากทุกคนตระหนักในการป้องกันตนเองจากโรคเอดส์ และป้องกันตนเองเบื้องต้นโดยใช้ถุงยางอนามัย จะช่วยให้ปัญหาเอดส์ลดความรุนแรงลงได้ในระดับหนึ่ง