“กุ๊ยขวัญชัย” ไร้สำนึก ล่า 2 หมื่นชื่อถอด 9 ป.ป.ช.-ลั่น 24 ก.พ.ร่วมป่วนหน้าทำเนียบฯ

อุดรธานี - “ขวัญชัย” ดีเจปากพล่อยไม่สำนึกคำตัดสิน ป.ป.ช.คดีปลุก นปก.อุดรไล่ฆ่าพันธมิตรฯ เป่าหูรักอุดรร่วมต้าน พร้อมล่า 20,000 ชื่อยื่นประธานวุฒิฯ ถอด 9 ป.ป.ช. ลั่น 24 ก.พ.เดินทางเข้ากรุงเทพฯ กดดัน พร้อมสมทบคนเสื้อแดงความจริงวันนี้ พิลึกเพิ่งไปก่อกวนพันธมิตรฯ จัดเวทีอยู่หยกๆ แต่กลับกล่าวหาพันธมิตรฯ ปิดกั้นเสรีภาพคนอุดรธานี แว้งกัด ส.ส.เพื่อไทย ไม่ได้เป็นที่พึ่งของชาวบ้าน ต้านพันธมิตรฯ แค่เอาหน้า

หลังจากที่นายขวัญชัย สาราคำ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อขวัญชัย ไพรพนา ดีเจถ่อย ประธานชมรมคนรักอุดร และอดีตข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ลงความเห็นมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรรา 157 ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีทำร้ายพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อ 24 ก.ค.2551 นั้น

ท่าทีของนายขวัญชัยกลับไม่สะทกสะท้านต่อการชี้มูลความผิดของ ป.ป.ช. ยังคงดันทุรังแสดงพฤติกรรมไม่เห็นด้วย และพยายามเคลื่อนไหวปลุกระดมมวลชนในกลุ่มของตนร่วมกันคัดค้าน โดยล่าสุดเมื่อเย็นวานนี้ (22 ก.พ.) ที่บริเวณสนามทุ่งศรีเมืองอุดรธานี นายขวัญชัย ประธานชมรมคนรักอุดรธานี พร้อมแกนนำคนเสื้อแดงจำนวนมากได้ตั้งเวทีปราศรัยเพื่อล่าชื่อยื่นถอดถอนคณะกรรมการ ป.ป.ช. และลงชื่อแจ้งความจำนงเดินทางเข้า กทม.เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดง ที่บริเวณหน้าสำนักงาน ป.ป.ช. และหน้าทำเนียบรัฐบาล เรียกร้องขอความยุติธรรมให้กับตนเองและ พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นอีกคนที่ถูก ป.ป.ช.ลงมติมีความผิดร้ายแรงในเหตุการณ์เดียวกัน นอกจากนี้กลุ่มนายขวัญชัยต้องการร่วมคัดค้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่พวกคนเสื้อแดงอ้างว่าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อย่างไม่ชอบธรรม

บรรยากาศบนเวทีได้กล่าวปราศรัยโจมตีคณะกรรมการ ป.ป.ช.เป็นระยะๆ โดยนายขวัญชัยได้อ่านแถลงการณ์ ฉบับที่ 2/2552 ความว่า การแทรกแซงการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจ ความจริงจะปรากฏออกมาในอุบัติการณ์ล้างบาง สลายขั้วอำนาจเก่ากำลังดำเนินการโยกย้ายนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่บังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในการดำเนินคดีกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ไปบุกยึดสนามบินสุพรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ที่สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศ

เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกระดับที่ดำเนินการสอบสวนถูกโยกย้ายอย่างฉับพลันไปถึง พล.ต.อ.จงรัก จุฑานนท์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะเป็นประธานกรรมการสืบสวนคดีดังกล่าวก็ได้ลาออกจากการเป็นประธานไปแล้ว รวมไปถึงคดีของกลุ่มพันธมิตรฯ อีก 60 กว่าคดี ได้เงียบไป ส่วนฝ่ายเสื้อแดงถูกสอบสวนรุดหน้าไปเร็วผิดสังเกต

ล่าสุด ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดนายสุพจน์ เลาวัณย์ศิริ อดีต ผวจ.อุดรธานี, พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี กับพวกฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุการณ์กลุ่มพันธมิตรฯ ถูกทำร้ายที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.51 ที่ผ่านมา เจอคดีผิดวินัยอย่างร้ายแรง

“ส่วนตัวผม ประธานชมรมคนรักอุดร และนายอุทัย แสนแก้ว เจอคดีส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดฟ้องดำเนินคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง และที่น่าประหลาดใจเหตุผลของ ป.ป.ช.ที่ระบุว่าข้าราชการที่ถูกชี้มูล ปล่อยให้กลุ่มประชาชนจำนวนมาก พร้อมอาวุธบุกเข้าไปชุมนุมที่ จ.อุดรธานี ของกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งภาพได้ปรากฏต่อประชาชนทั่วประเทศและทั่วโลกได้เห็นแล้วในวันนั้น” นายขวัญชัยกล่าวอ้าง

นายขวัญชัยกล่าวต่อว่า ชมรมคนรักอุดรจะรวบรวมรายชื่อให้ได้ 20,000 รายชื่อ เพื่อไปยื่นประธานวุฒิสภา ขอถอดถอนคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้ง 9 คน ไม่ยอมรับในการตัดสินครั้งนี้ โดยวันที่ 24 ก.พ.52 ที่จะถึง จะระดมคนลงไป กทม.เพื่อกดดันคณะกรรมการ ป.ป.ช.ที่สำนักงาน และเคลื่อนพลไปร่วมชุมนุมกับผู้ชมนุมในรายการความจริงวันนี้ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ที่รัฐบาลชุดนี้ได้อำนาจโดยมิชอบ

และขอเรียกร้องให้ปลดนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ และให้ดำเนินคดีทุกคดีกับกลุ่มพันธมิตรฯ อีกด้วย ไม่ใช้อำนาจเกื้อหนุนกลุ่มอันธพาลที่กำลังสร้างอำนาจบาตรใหญ่ มาสร้างความแตกแยกและความเสียหายให้บ้านเมือง

“24 ก.พ.นี้ เราจะเดินทางโดยรถทัวร์ 50 คัน ไปจอดที่หน้าสำนักงาน ป.ป.ช. จะไปถามว่านายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการในการสอบสวนคดีความที่หนองประจักษ์จะต้องตอบคำถามให้ได้ ว่า พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภาราดรศักดิ์ ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ติดภารกิจสำคัญ จึงมีหนังสื่อสั่งการให้ พ.ต.อ.ภัทราวุฒิ เอื้อมศสิธร, พ.ต.อ.ก่อเกียรติ วงษ์สุเมฆ, พ.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง ไปดูแลแทนที่หนองประจักษ์ แต่ทำไมบุคคลเหล่านี้ไม่โดนวินัยร้ายแรง ประธานคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องตอบให้ได้” นายขวัญชัยกล่าว

ยังมีหน้าด่าพันธมิตรฯ ปิดกั้นเสรีภาพชาวอุดรฯ

นายขวัญชัยกล่าวถึงการจัดเวทีคอนเสิร์ตการเมืองของพันธมิตรฯ ที่จังหวัดอุดรธานีเมื่อ 14 ก.พ.52 ที่ผ่านมาว่า กลุ่มพันธมิตรฯจัดเวทีปราศรัย ได้ประจักษ์แก่สายตาว่า รั้วของชาติ ได้สลัดเครื่องแบบอันทรงเกียรติ แฝงเร้นกายเข้าสู่ชุดดำทมิฬ โพกศีรษะด้วยคำว่ากู้ชาติ ออกมาเพ่นพ่าน สร้างความกดดันให้กับชาว จ.อุดรธานี ทั้งได้ปิดกั้นเส้นทางจราจรและปิดสวนสาธารณะหนองประจักษ์ ซึ่งเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวอุดรฯ ในการกำลังกาย กับปิดกั้นเสรีภาพ ส่งผลกระทบให้กับบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของบริเวณนั้นได้รับผลกระทบ ที่สำคัญกฏหมายบ้านเมืองไม่สามารถเอาผิดกับกลุ่มพันธมิตรฯ ได้ แสดงให้เห็นว่าเป็นกลุ่มคนมีอำนาจบารมียิ่งใหญ่

สำหรับการเมืองไทยยุคเผด็จการครองเมืองแบบนี้ ส.ส.ของเราถูกเขาลากจูงให้เสียเกียรติ เสียศักดิ์ศรี ซึ่ง ส.ส.เหล่านี้ไม่ได้เป็นที่พึ่งของประชาชนที่ทุกข์ร้อนต่อไป 14 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ผ่านมา มีนายวิเชียร ขาวขำ, กำนันทองดี มานิสาร, พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ และ นายอนันต์ ศรีพันธุ์ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย นำกลุ่มคนเสื้อแดงของเขาไปปิดล้อมสนามบินนานชาติ ที่ จ.อุดรธานี ปิดล้อมแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เพื่อสร้างสถานการณ์เอาหน้า และไปตั้งเวทีสนามทุ่งศรีเมือง กล่าวโจมตีคนเสื้อดงด้วยกันคือชมรมคนรักอุดร

นายขวัญชัย กล่าวต่อว่า วันนี้ (23 ก.พ.) เวลา 09.00 น.ตนจะเดินทางไปมอบตัวที่ศาลอาญาจังหวัดอุดรธานี กรณีที่นายเจริญ หมู่ขจรพันธ์ แกนนำพันธมิตรอุดรธานี ได้ฟ้องตนกับศาลอาญาจังหวัดอุดรธานี ในคดีที่คนเสื้อแดงไปปิดล้อมบ้านนายเจริญ เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2551 โดยนายเจริญได้เรียกค่าเสียหายไว้ประมาณ 2 ล้านกว่าบาท ในข้อบังคับข่มขู่ขืนใจ โดยตนได้เตรียมโฉนดหลักทรัพย์ไว้เพื่อประกันตัวแล้ว

ทั้งนี้ นายขวัญชัย ถือเป็นกลุ่มผู้สนับสนุนที่สำคัญอีกกลุ่มหนึ่งของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่หนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ ที่ผ่านมา นายขวัญชัยได้แสดงพฤติกรรมถ่อย ข่มขู่ คุกคามการจัดกิจกรรมของพันธมิตรฯใน จ.อุดรธานีมาตลอด ตั้งแต่ปี 2549 ที่มีการปิดล้อมห้องสัมมนาของพันธมิตรฯที่มหาวิทยาลัยราชภัฏจังหวัดอุดรธานี หลังจากนั้นก็มีการคุกคามนายเจริญ หมู่ขจรพันธุ์ แกนนำพันธมิตรฯ อุดรธานีอย่างต่อเนื่อง โดยเหตุการณ์ทื่ร้ายแรงที่สุดคือวันที่ 24 ก.ค.51 เมื่อนายขวัญชัย ได้ปลุกระดมให้คนรักอุดรประมาณ 1,000 คน เคลื่อนขบวนจากสวนสาธารณะทุ่งศรีเมืองไปรุมทำร้ายพันธมิตรฯ ที่กำลังตั้งเวทีปราศรัยที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ทำให้ฝ่ายพันธมิตรฯ ได้รับบาดเจ็บสาหัสหลายคน

ส่วนการจัดเวทีพันธมิตรฯ ที่อุดรธานี เมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา กลุ่มของนายขวัญชัย ได้พยายามขัดขวางทุกวิถีทาง ทั้งข่มขู่ ทั้งยื่นหนังสือถึงนายกฯ ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดให้สั่งการไม่ให้พันธมิตรฯ ไปจัดงานที่ จ.อุดรธานี และในระหว่างที่ผู้ว่าฯ อุดรธานีเรียกประชุมขอให้แต่ละฝ่ายไม่ใช้ความรุนแรง นายขวัญชัยก็อ้างว่าตนไม่สามารถที่จะควบคุมกลุ่มคนรักอุดรฯ ทั้งหมดได้ ทำให้ต้องมีการระดมกำลังตำรวจทหารเข้ามาดูแลความปลอดภัยให้กับพันธมิตรฯ ซึ่งเมื่อถึงวันงานก็มีความพยามก่อกวนจากคนเสื้อแดงตั้งแต่ที่สนามบินและจัดขบวนรถปราศรัยด่าทอพันธมิตรฯ รอบเมืองอุดรธานี รวมทั้งตั้งเวทีประชันที่ทุ่งศรีเมือง