พัทยาเข้มเหตุเพลิงไหม้ย่านธุรกิจสานนโยบาย มท.

ศูนย์ข่าวศรีราชา - พัทยาถกหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่วางแนวทางป้องกันเหตุเพลิงไหม้ในเขตชุมชนและย่านธุรกิจสำคัญสานนโยบายมหาดไทยของจังหวัดชลบุรี

วันนี้ (20 ก.พ.) นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เผยว่า ได้เป็นประธานประชุมคณะกรรมการป้องกันเหตุอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นกับย่านธุรกิจสำคัญ โดยมีนายชณัชพงษ์ จวบมี รองปลัดเมืองพัทยา, นายสุนทร กังศิริกุล ประธานชุมชนวอล์กกิ้งสตรีท พัทยา และตัวแทนจากหน่ายงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมหารือ

ทั้งนี้ กรณีตัวอย่างเกิดเหตุเพลิงไหม้ซานติก้าผับ กทม.ทำให้เกิดความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก เมืองพัทยาได้เล็งเห็นถึงความสำคัญถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับแหล่งชุมชุนย่านธุรกิจที่สำคัญ เพราะปัจจุบันเมืองพัทยามีความเติบโต ทั้งทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนโครงสร้างทางการท่องเที่ยว โดยเฉพาะมีอาคารสูงเกิดขึ้นอย่างมากมาย

และหากเกิดเพลิงไหม้ในอาคารสูงเกิดจะส่งผลต่อความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน โดยชุมชนวอล์คกิ้งสตรีท ย่านพัทยาใต้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเมืองพัทยาที่มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเที่ยวปีละหลายล้านคน ซึ่งปัจจุบันมี บาร์ ผับ อะโกโก้ และร้านอาหารตามตรอกซอกซอยเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดการแข่งขันในด้านบริการ ป้ายโฆษณาชวนเชื่อ (บิลบอร์ด) เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาใช้บริการค่อนข้างสูง ทำให้การจัดระเบียบเป็นไปอย่างลำบาก ด้วยเหตุนี้เมืองพัทยาจึงได้นำ พ.ร.บ.เมืองพัทยากำหนดให้ป้ายโฆษณามีความสูงจากฟุตปาธได้ไม่เกิน 5.50 เมตร ยื่นออกมาจากถนนได้ไม่เกิน 2 เมตร รวมถึงให้มีการติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิง, สปริงเกอร์ดับเพลิง, ทางหนีไฟ และสัญญาณเตือน

อีกทั้งจะนำเจ้าหน้าที่ออกสุ่มตรวจตรวจสถานบันเทิงที่ไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงมหาดไทยมาลงโทษอีกด้วย เพื่อให้ผู้ประกอบการบันเทิงย่านวอล์คกิ้งสตรีทดำเนินแนวทางปฏิบัติร่วมกันเมืองพัทยาอย่างเคร่งครัด จึงได้นำ พ.ร.บ.ออกมาบังคับใช้เพื่อป้องกันเหตุอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้น พร้อมทั้งจัดระเบียบการจราจรตามตรอกซอกซอยต่างๆ ในการอำนวยความสะดวกแก่รถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยช่วยเหลือกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินเช่นกัน