กระบี่ -ศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลชายฝั่งอันดามัน เตรียมประกาศปิดอ่าวช่วงฤดูปลามีไข่-วางไข่ ต้นเดือนเมษายน นี้ พร้อมขยายระยะเวลาปิดอ่าวเพิ่มขึ้น จาก 2 เดือน เป็น 3 เดือน เพื่อป้องกันปลามีไข่ถูกจับก่อนได้วางไข่
นายแสน ศรีงาม หัวหน้าศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลฝั่งอันดามันจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ใช้มาตรการปิดอ่าวฝั่งอันดามันทุกปีในช่วงฤดูปลาวางไข่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน - 15 มิถุนายน 2551 รวมระยะเวลา 2 เดือน ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดกระบี่ และจังหวัดพังงาบางส่วน
ทั้งนี้ กำหนดแนวเขตห้ามจับสัตว์น้ำในพื้นที่ปิดอ่าว ตั้งแต่ปลายแหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ผ่านปลายแหลมเกาะยาวใหญ่ด้านทิศใต้ จังหวัดพังงา ผ่านเกาะบิด๊ะนอก ผ่านปลายแหลมเกาะลันตาใหญ่ ถึง อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ซึ่งครอบคลุมเนื้อที่ประมาณ 2,067 ตารางกิโลเมตร เพื่อให้สัตว์น้ำและทรัพยากรมีความอุดมสมบูรณ์ สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
หัวหน้าศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลฝั่งอันดามันจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า จากการประกาศใช้มาตรการปิดอ่าวในปีที่ผ่านมา พบว่าทรัพยากรสัตว์น้ำหลายชนิดที่กำลังมีไข่และเข้ามาวางไข่เลี้ยงลูกเพิ่มปริมาณขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะปลาทู ซึ่งเป็นทรัพยากรสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่สำคัญ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นชาวประมงจับสัตว์น้ำได้เป็นจำนวนมาก
ในปีนี้(52)การประกาศปิดอ่าว จะกำหนดขยายระยะเวลาให้เร็วขึ้นกว่าทุกปีและมีระยะเวลานานกว่าปีที่ผ่านมาด้วย โดยจะประกาศปิดอ่าวตั้งแต่ประมาณวันที่ 1 เมษายน จนถึง 30 มิถุนายน รวมระยะเวลา 3 เดือนเศษ จากเดิมแค่ 2 เดือนเศษ ทั้งนี้เพื่อป้องกันสัตว์น้ำที่กำลังมีไข่ ถูกจับก่อนที่จะได้วางไข่
สำหรับเครื่องมือทำการประมงต้องห้าม ในเขตประกาศปิดอ่าวตามประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ เครื่องมืออวนลากทุกประเภทใช้ประกอบเรือกล เครื่องมืออวนประเภทล้อมจับทุกชนิด เครื่องมืออวนติดตามที่มีช่องตาเล็กกว่า 4.7 เซนติเมตร หากมีชาวประมงรายใดฝ่าฝืนใช้เครื่องมือต้องห้าม ทำการประมงในพื้นที่ที่ได้ประกาศปิดอ่าวต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 5 พันบาท ถึง 1 หมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และทุกปีเมื่อมีการประกาศปิดอ่าว ชาวประมงจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จะไม่ใช้เครื่องมือทำประมงผิดกฎหมายเข้าไปจับสัตว์น้ำในเขตปิดอ่าว เพราะชาวประมงทราบดีว่าผลที่ได้จากการปิดอ่าวมีประโยชน์มหาศาลต่อสัตว์น้ำและชาวประมงเอง
นายแสน ศรีงาม หัวหน้าศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลฝั่งอันดามันจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า จากที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ใช้มาตรการปิดอ่าวฝั่งอันดามันทุกปีในช่วงฤดูปลาวางไข่ เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน - 15 มิถุนายน 2551 รวมระยะเวลา 2 เดือน ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดกระบี่ และจังหวัดพังงาบางส่วน
ทั้งนี้ กำหนดแนวเขตห้ามจับสัตว์น้ำในพื้นที่ปิดอ่าว ตั้งแต่ปลายแหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ผ่านปลายแหลมเกาะยาวใหญ่ด้านทิศใต้ จังหวัดพังงา ผ่านเกาะบิด๊ะนอก ผ่านปลายแหลมเกาะลันตาใหญ่ ถึง อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ซึ่งครอบคลุมเนื้อที่ประมาณ 2,067 ตารางกิโลเมตร เพื่อให้สัตว์น้ำและทรัพยากรมีความอุดมสมบูรณ์ สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว
หัวหน้าศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลฝั่งอันดามันจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า จากการประกาศใช้มาตรการปิดอ่าวในปีที่ผ่านมา พบว่าทรัพยากรสัตว์น้ำหลายชนิดที่กำลังมีไข่และเข้ามาวางไข่เลี้ยงลูกเพิ่มปริมาณขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะปลาทู ซึ่งเป็นทรัพยากรสัตว์น้ำเศรษฐกิจที่สำคัญ มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นชาวประมงจับสัตว์น้ำได้เป็นจำนวนมาก
ในปีนี้(52)การประกาศปิดอ่าว จะกำหนดขยายระยะเวลาให้เร็วขึ้นกว่าทุกปีและมีระยะเวลานานกว่าปีที่ผ่านมาด้วย โดยจะประกาศปิดอ่าวตั้งแต่ประมาณวันที่ 1 เมษายน จนถึง 30 มิถุนายน รวมระยะเวลา 3 เดือนเศษ จากเดิมแค่ 2 เดือนเศษ ทั้งนี้เพื่อป้องกันสัตว์น้ำที่กำลังมีไข่ ถูกจับก่อนที่จะได้วางไข่
สำหรับเครื่องมือทำการประมงต้องห้าม ในเขตประกาศปิดอ่าวตามประกาศของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แก่ เครื่องมืออวนลากทุกประเภทใช้ประกอบเรือกล เครื่องมืออวนประเภทล้อมจับทุกชนิด เครื่องมืออวนติดตามที่มีช่องตาเล็กกว่า 4.7 เซนติเมตร หากมีชาวประมงรายใดฝ่าฝืนใช้เครื่องมือต้องห้าม ทำการประมงในพื้นที่ที่ได้ประกาศปิดอ่าวต้องระวางโทษปรับตั้งแต่ 5 พันบาท ถึง 1 หมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ และทุกปีเมื่อมีการประกาศปิดอ่าว ชาวประมงจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี จะไม่ใช้เครื่องมือทำประมงผิดกฎหมายเข้าไปจับสัตว์น้ำในเขตปิดอ่าว เพราะชาวประมงทราบดีว่าผลที่ได้จากการปิดอ่าวมีประโยชน์มหาศาลต่อสัตว์น้ำและชาวประมงเอง
