ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจภูธรภาค 2 ประชุมร่วมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาภาคเอกชน เรียกผู้บังคับการตำรวจภูธร 8 จังหวัดภาคตะวันออก เร่งปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเฉียบขาด
วันนี้ (16 ก.พ.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 พลตำรวจตรี โกศล พัวเวส รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วย นางมาลา ตั้งประเสริฐ รองประธานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา (ปลป.) ภาคเอกชน และ นายสุทธิศักดิ์ ประศาสน์ครุการ เลขาธิการ โดยมีผู้บังคับการตำรวจภูธรทั้ง 8 จังหวัดภาคตะวันออกเข้าประชุม เพื่อร่วมกันป้องกันและปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิด ในการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาใน 8 จังหวัดภาคตะวันออก ตามนโยบายของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ให้เป็นวาระแห่งชาติ
ทั้งนี้ คณะ ปลป.ประกอบไปด้วย 5 องค์กรหลัก คือ ค่ายอาร์เอสโปรโมชั่น, ค่ายจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, บริษัท โฟโนไรซ์ ค่ายเพลงสากล, ลิขสิทธิ์เพลง, ลิขสิทธิ์เซ็นเตอร์ ประชุมเพื่อเร่งรัดการปราบปรามให้ได้ประสิทธิ์ผล เนื่องจาก 8 จังหวัดภาคตะวันออก เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของประเทศ ซึ่งเกรงว่าจะเสียภาพพจน์ด้านการท่องเที่ยว
โดยเฉพาะเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เป็นพื้นที่สีแดง ซึ่งเป็นสถานที่ค้าหรือซุกซ่อนและแหล่งผลิต เกี่ยวกับการละเมิดทรัพย์ทางปัญญาแพร่ระบาดอย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นเทปผี วีดีเถื่อน เสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา และสินค้าแบรนด์เนมดัง จนปีที่ผ่านมาประเทศสหรัฐอเมริกาได้ตัดสิทธิ์ทางการค้าทำให้ประเทศไทยของเราสูญเสียเงินถึง 1.3 แสนล้านบาท
พล.ต.ต.โกศล พัวเวส รอง ผบช.ภ.2 กล่าวว่า หลังจากประชุมแล้ว ให้ผู้บังคับการทั้ง 8 ภาคตะวันออกไปดำเนินการกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิด โดยพยายามสาวให้ถึงตัวการใหญ่ที่เป็นต้นตอและตัวนายทุนตัวจริงดีกว่าการจับกุมผู้ค้ารายย่อยที่ทำเพื่อเลี้ยงปากท้องในยามที่เศรษฐกิจตกต่ำแบบนี้ไปวันๆ และจากกรณีที่มีผู้ที่กล่าวอ้างว่า มีตำรวจ 41 นายทั่วประเทศเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าเทปผีซีดีเถื่อนในภาค 2 หรือภาคตะวันออก พบว่า มีตำรวจ 1 นายของสถานีตำรวจภูธรแสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งขณะนี้มีการตั้งกรรมการเข้าไปสอบสวนและตรวจสอบทั้งทางลับและทางแจ้ง ซึ่งจะทราบภายใน 7 วัน และถ้าพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องเกี่ยวพันจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด และยิ่งเป็นข้าราชการตำรวจจะต้องโดน 2 เท่า