ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ดีเจ อ้อม ขุนศึกเสื้อแดงข้างกาย เพชรวรรต แห่งกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ขึ้นเวทีปราศรัยแฉเสื้อแดงกลุ่ม เป๋ คลองเตย เหตุที่แตกคอกัน เพราะเรื่องเงินบริจาคเป็นหลัก ต่อจากนั้นได้ยกกำลังบุกเวทีของเป๋ จนมีคนเจ็บ ขณะ เพชรวรรต ด่าเสื้อแดงอีกฝ่ายหน้าตัวเมีย
นางกัญญาภัค มณีจักร หรือ ดีเจอ้อม ซึ่งเป็นแกนนำเสื้อแดงกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 และเป็นคนสนิทของ นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล ได้ขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หน้าโรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ เมื่อเวลาประมาณ 20.20 น.คืนวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา โจมตีกลุ่มเสื้อแดงที่นำโดย เป๋ คลองเตย หรือ นายณรงค์ศักดิ์ มณี ซึ่งกำลังเคลื่อนไหวประสานกับกลุ่มคนรักทักษิณอื่นๆ ในพื้นที่เชียงใหม่-ลำพูน เพื่อจัดเวทีความจริงวันนี้สัญจร ในวันที่ 21 ก.พ.นี้ซึ่งถือเป็นการช่วงชิงบทบาทการนำของกลุ่มเสื้อแดง 2 กลุ่มในพื้นที่เชียงใหม่ โดยต่อจากนั้นทางกลุ่มคนรักเชียงใหม่ 51 ได้ยกกำลังหลายสิบคนปะทะกับกลุ่มเป๋ คลองเตย ที่หน้าสถานีรถไฟเชียงใหม่ตอนกลางดึกของวันเดียวกัน
คำปราศรัยของ ดีเจอ้อม ครั้งนี้ เปิดเผยอย่างชัดเจนถึงการแตกแยกระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะก่อนหน้านี้ต่างร่วมงานกันมาก่อน ทั้ง เป๋ คลองเตย, นายพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง, ดีเจ ป.เป็ด ฯลฯ ซึ่งปรากฏว่า ดีเจอ้อม ได้ออกมาแฉการดำเนินการของคนที่แยกตัวไปว่าไม่โปร่งใสและมีการอมเงินบริจาค โดยได้กล่าวถึงพฤติกรรมของคนที่แยกตัวไปทั้ง เป๋ คลองเตย นายพิเชษฐ์ หรือแม้แต่ ดีเจ ป.เป็ด ที่เคยร่วมงานกัน
ทั้งนี้ กลุ่มของ เป๋ คลองเตย ได้แยกตัวไปตั้งสถานีวิทยุคลื่น 89.5 MHz และตั้งเวทีปราศรัยในส่วนของตนเองบริเวณหน้าสถานีรถไฟเชียงใหม่ ขณะที่กลุ่ม นายเพชรวรรต ตั้งเวทีที่หน้าโรงแรมวโรรสแกรนด์พาเลซ และใช้สถานีวิทยุคลื่น 92.5 MHz โดยต่างก็โจมตีการดำเนินงานของอีกฝ่ายหนึ่งว่าไม่บริสุทธิ์
นอกจากนั้น ดีเจอ้อม ยังประกาศแยกตัวจากการเคลื่อนไหวของกลุ่มความจริงวันนี้ ซึ่งมีความสนิทสนมกับกลุ่ม เป๋ คลองเตย โดยประกาศว่า หากมีเวทีความจริงวันนี้ ทางกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 จะไม่ไปกรุงเทพฯ
ต่อจากนั้น นายเพชรวรรต วัฒนพงศศิริกุล แกนนำกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ออกมากล่าวว่า เสื้อแดงอีกฝ่ายเป็นหน้าตัวเมีย มีคนบางคนหนีตายจากกรุงเทพฯมาเชียงใหม่ ต่อจากนี้อาจต้องหนีตายจากเชียงใหม่ไปกรุงเทพฯ อีกรอบ
มีรายงานแจ้งว่า ทางกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ได้ประกาศไม่ให้กลุ่มเป๋ คลองเตย เคลื่อนไหวในเชียงใหม่อีกต่อไป และหากจัดเวทีปราศรัยก็จะเคลื่อนกำลังออกไปดำเนินการเช่นเดียวกับที่ได้ปะทะกันเมื่อคืนวันที่ 12 ก.พ.จนมีผู้รับบาดเจ็บ 4 ราย
