ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ – ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนบนเริ่มปฏิบัติภารกิจ มุ่งช่วยเหลือเกษตรกรช่วงฤดูแล้ง ควบคู่ป้องกันบรรเทาปัญหาหมอกควัน
นายสมชัย เรืองสุทธินฤภาพ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนบน เปิดเผย แผนปฏิบัติการฝนหลวงบริเวณภาคเหนือตอนบน ประจำปี 2552 ในช่วงระหว่าง ก.พ.-ก.ย.52 รวมระยะเวลา 242 วันว่า ภารกิจหลักจะมุ่งช่วยเหลือเกษตรกรในช่วงฤดูแล้ง แต่ขณะเดียวกันมีเป้าหมายในการเพิ่มความชุ่มชื้นพื้นที่ป่า และป้องกันบรรเทาปัญหาหมอกควันควบคู่กันไปด้วย
ทั้งนี้ ในส่วนของภัยแล้งในปีนี้นั้น เวลานี้ยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติและอยู่ระหว่างการสำรวจพื้นที่ ยกเว้นอำเภอไชยปราการ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยแล้ว
ส่วนพื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวังปัญหาขาดแคลนน้ำส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ตอนล่างของจังหวัดเชียงใหม่ เช่น อำเภอฮอด อำเภอจอมทอง พื้นที่อำเภอบ้านโอ่ง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และพื้นที่อำเภอเสริมงาม อำเภอสบปราบ อำเภอเถิน อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง ที่คาดว่าจะมีน้ำต่ำกว่าเกณฑ์ปกติส่งผลต่อการเพาะปลูก
สำหรับปัญหาหมอกควันนั้น ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนบน กล่าวว่า เริ่มมีการตรวจพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานแล้วที่จังหวัดลำปาง ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ สาเหตุน่าจะมาจากการทำเหมืองถ่านหินและเซรามิก ขณะที่ในพื้นที่อื่นๆ ของภาคเหนือยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือปีนี้มีสภาพอากาศหนาวเย็นต่อเนื่องยาวนาน ทำให้อากาศไม่เกิดการไหลเวียนและมีมลพิษสะสมเป็นชั้นในอากาศ โดยทางศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนบน จะได้มีการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ นายสมชัยกล่าวถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนว่า ทางศูนย์ปฎิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนบนรับผิดชอบเขื่อน 4 แห่ง ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนแม่งัด เขื่อนแม่กวง และเขื่อนกิ่วลม โดยแต่ละแห่งมีปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ปกติ ยกเว้นเขื่อนแม่กวง ที่ปริมาณน้ำต่ำกว่าเกณฑ์ ซึ่งทางสำนักงานชลประทานที่ 1 เชียงใหม่ ได้ประสานขอให้เร่งทำฝนเทียมเหนือเขื่อนเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำแล้ว