กาฬสินธุ์ - สภาพอากาศที่หนาวอย่างต่อเนื่องประกอบกับความแห้งแล้งในปีนี้ ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังในเขื่อนลำปาว ไม่กล้าเสี่ยงขาดทุนเลี้ยงปลา ส่งผลให้ตามตลาดทั้งสี่มุมเมือง ปลานิล ปลาทับทิมขาดตลาดและมีราคาสูงขึ้นกว่าเท่าตัว
จากการติดตามสถานการณ์ภัยแล้งในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ขณะนี้มีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ เขื่อนลำปาวอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว ประกอบกับสภาพอากาศที่ยังมีความหนาวเย็นอีก ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรเริ่มได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะปลากระชังที่เกษตรกรไม่สามารถเพาะเลี้ยงได้ จนทำให้ปลาตามตลาดทั้งสี่มุมเมืองของเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ มีราคาแพงขึ้นถึงเท่าตัว
ซึ่งจากเดิมราคาที่กิโลกรัมละ 30-45 บาท แต่ปัจจุบันขายกันที่กิโลกรัมละ 70-75 บาทแล้ว โดยทางสมาพันธ์ผู้เลี้ยงปลากระชัง อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ ระบุสาเหตุมาจากผลกระทบของสภาพอากาศและในปีนี้การเลี้ยงปลากระชังคงต้องลดน้อยลง เพราะกลัวกับสภาพภัยแล้ง
นายสังเวียน ฤทธิ์มนตรี ประธานสมาพันธ์ผู้เลี้ยงปลากระชังเขื่อนลำปาว อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางสมาพันธ์ฯได้ร่วมกันหารือแล้วและจะต้องมีการลดปริมาณการเลี้ยงปลากระชังลง เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน อีกทั้งความแห้งแล้งที่ปีนี้มาเร็วและคาดว่าจะมีรุนแรงมาก ซึ่งการเลี้ยงปลาในกระชังอาจจะต้องย้ายเข้าไปบริเวณน้ำลึกของเขื่อนลำปาว
แต่ก็เป็นการเสี่ยงเพราะสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวสลับกับความหนาวเย็นในตอนกลางคืนจะทำให้ปลาปรับสภาพไม่ได้จนลอยตาย ซึ่งเกษตรกรบางรายไม่อยากขาดทุนถึงกับมีการหยุดเลี้ยงไว้ชั่วขณะ แต่เบื้องต้นทางสมาพันธ์ได้เก็บรวบรวมข้อมูลไว้ เพื่อเสนอขอความช่วยเหลือจากส่วนราชการต่อไป
“สถานการณ์ล่าสุดขณะนี้ พันธุ์ปลาที่ปล่อยลงกระชังตายเกลี้ยงหมดสูญเงินไปคนละหลายแสนบาทแล้ว นับว่าเป็นความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังมาก อย่างไรก็ตาม อยากให้ทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือบ้าง อาจจะไม่ต้องเป็นเงินชดเชยทั้งหมด แต่อาจเป็นการหาพันธุ์ปลามาชดเชย เพราะตอนนี้ยังไม่มีใครยื่นมือเข้ามาให้การช่วยเหลือหรือดูแลอะไรเลย” นายสังเวียน กล่าว
