ศูนย์ข่าวภาคเหนือ – หลายหน่วยประเมินกำลัง “เสื้อแดง” สายเหนืออ่อนแรง อาจมีเพียงแกนนำเข้าร่วมชุมนุม เฉพาะสายล้านนาตะวันออก คาด มีเรือนสิบต่อจังหวัด ขณะที่เชียงใหม่ประกาศระดมทุนผ่านวิทยุชุมชนต่อเนื่อง อ้างใช้เป็นค่าเดินทางร่วมชุมนุม 3 เกลอ ประกาศเสื้อแดง ชม.มีแค่ “รักเชียงใหม่ 51”
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งถึงความเคลื่อนไหวการระดมคนเข้าร่วมชุมนุมกับแก๊ง 3 เกลอหัวขวด ของกลุ่มเสื้อแดง ว่า บรรดาดีเจ คลื่นวิทยุชุมชน 92.5 MHz ของ “รักเชียงใหม่ 51” ที่ขณะนี้บางส่วนต้องใช้การ์ดเข้ามาทำหน้าที่ ดีเจ หลังจากกลุ่มดีเจหลักๆ ที่เคยทำงานมาก่อนทยอยลาออกอย่างต่อเนื่อง ยังคงประกาศระดมทุนทั้งเงิน-อาหาร ผ่านคลื่นของตนเองอย่างต่อเนื่อง อ้างว่า เพื่อใช้เป็นปัจจัยในการเดินทางเข้าร่วมชุมนุมใหญ่กับ 3 เกลอ “วีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ”
พร้อมกับให้ผู้ที่ต้องการเดินทาง ไปลงชื่อที่โรงแรมแกรนด์วโรรส พาเลซ ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ของ นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่ม โดยล่าสุดช่วง 2 วันที่ผ่านมามีผู้มาลงชื่อแล้วประมาณ 30 คน
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ครั้งนี้ อาจจะไม่คึกคักมากนัก แม้ว่า ดีเจ อ้อม-น.ส.กัญญาภัค มณีจักร จะประกาศรวมพลคนเสื้อแดงตั้งแต่เช้าวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) เพื่อทำกิจกรรมต่อต้าน นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่จะเดินทางมาเป็นประธานเปิดงานรณรงค์ “90 วัน รวมพลังหยุดเผา บรรเทาโลกร้อน” ก่อนที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯต่อไปก็ตาม
ส่วนหนึ่งมาจากความขัดแย้งในกลุ่มเสื้อแดงเอง ที่แยกออกเป็นหลายส่วน นอกจากนี้ ดีเจ อ้อม เองก็ประกาศผ่านคลื่นวิทยุชุมชน 92.5 MHz ด้วยว่า เสื้อแดงเชียงใหม่ ของแท้ต้องเป็น “รักเชียงใหม่ 51” เท่านั้น ทำให้กลุ่มอื่นๆ เกิดความไม่พอใจขึ้น
ขณะที่จังหวัดลำปาง ที่ล่าสุดกลุ่มเสื้อแดงแตกออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มฮักลำปาง 51 ที่ใช้คลื่นวิทยุชุมชน 92.25 Mhz มี นายณัฐชัย อินทราย เป็นแกนนำนั้น ยังคงประกาศผ่านคลื่นวิทยุของตนเองให้คนลำปางมาลงชื่อร่วมเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยให้นำสำเนาบัตรประชาชนมาด้วยอย่างต่อเนื่อง และมีแผนที่จะจัดเวทีปราศรัยบริเวณหน้าตลาดต้นยาง ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง ในเย็นวันนี้ (28 ม.ค.) ปลุกกระแสหาคนร่วมเดินทางในวันรุ่งขึ้น
ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งที่แยกตัวออกมาตั้งชื่อใหม่ ว่า “เสื้อแดง Five One ลำปาง 51” มี “จ่าน้อย” เป็นแกนนำ ไม่มีแผนที่จะเดินทางไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯในครั้งนี้ แต่จะจัดรายการปลุกกระแสผ่านคลื่นวิทยุ 103.75 MHz ในช่วง 5-6 โมงเย็น พร้อมกับเตรียมตั้งจอโปรเจกเตอร์บริเวณร้านอาการบ้านซอย อ.เมือง ในวันที่ 31 ม.ค.2552 ที่มีการชุมนุมใหญ่ของ นปช.ที่กรุงเทพฯ
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานด้านการข่าวหลายหน่วยระบุตรงกัน ว่า ความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงในจังหวัดต่างๆ สายล้านนาตะวันออก ทั้งเชียงราย พะเยา ลำปาง แพร่ น่าน ครั้งนี้ไม่น่าจะมีคนเข้าร่วมมากนัก โดยอาจจะมีเฉพาะกลุ่มแกนนำหลักๆ เดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ จังหวัดละไม่กี่สิบคนเท่านั้น
เช่น เชียงราย ที่แม้ว่าจะมีเสื้อแดงหลายกลุ่ม แต่จนถึงวันนี้ก็มีเพียงกลุ่ม 24 มิถุนาฯเท่านั้น ที่ออกมากล่าวอ้างว่า จะส่งคนเข้าร่วมการชุมนุมอย่างเป็นทางการ แต่กำลังหลักอย่าง น.ส.จีรนันท์ จันทวงศ์ แกนนำ กลับระบุว่า จะอยู่ในพื้นที่เพื่อทำกิจกรรมเผยแพร่คลื่นวิทยุชุมชนคนรากหญ้า 104 MHz ที่จะเปิดตัวในวันที่ 14 ก.พ.2552 นี้ โดยจะส่งคนในเครือข่ายใหม่ๆ เข้าร่วมการชุมนุม ขณะที่หัวคะแนนนักการเมือง ก็กำลังพยายามติดต่อประสานงานเครือข่ายทุกอำเภอเพื่อระดมคนอยู่
ส่วนพะเยา แม้ว่าจะมีการระดม อสม.ใส่เสื้อแดงจัดประชุม แล้วให้ ส.ส.เพื่อไทย ทั้ง 3 คนขึ้นกล่าวปราศรัยมาแล้วถึง 2 ครั้ง ในช่วงวันที่ 9 และ 17 ม.ค.2552 ที่ผ่านมาก็ตาม แต่ในการชุมนุมใหญ่ของ นปช.คราวนี้ ยังไม่ปรากฏความเคลื่อนไหวระดมคนจากเครือข่ายในพะเยา โดยอ้างว่า ชาวบ้านกำลังเก็บเกี่ยวผลผลิต เป็นต้น แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่า คำกล่าวอ้างที่ว่า เกิดขึ้นหลังจากมีกระแสข่าวว่า มีใบบอกให้ ส.ส.ออกค่าใช้จ่ายก่อน
ขณะที่ พิษณุโลก แม้ว่า นายภาณุกฤษณ์ พัชรอารี (พิษณุ อ้นอารี) แกนนำกลุ่มรักษ์ประชาธิปไตยสองแคว (รปส.) จะยืนยันว่า มีกำหนดเดินทางไปร่วมเวทีเสื้อแดงที่อยุธยา ในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) ส่วนพลพรรคเสื้อแดงพิษณุโลกทั้งหมดจะเดินทางไปสนามหลวงในวันที่ 31 ม.ค.ทั้งทางรถไฟฟรี-รถบัส ร่วมกับเสื้อแดงเชียงใหม่-ลำปาง ก็ตาม แต่เป็นที่แน่นอนแล้วเช่นกันว่า เสื้อแดงพิษณุโลก ก็แตกออกเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรกอยู่ในกลุ่มของ นายภาณุกฤษณ์ เองที่ถือเป็นคนใกล้ชิดกับนักการเมืองพรรคไทยรักไทย-พปช.-พท.ขณะที่อีกกลุ่มนำโดย นางชุติมา ประทานชัย (เจ๊ดอกไม้) และ นายพงศ์พัฒน์ พงศ์สุขธน เจ้าของร้านหงส์ทองเทลคอม ที่จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับกลุ่มเสื้อแดง-ขวัญชัย ไพรพนา ทำให้กำลังคนถูกแยกออกตามไปด้วย เช่น การเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯพิษณุโลก เมื่อ 27 ม.ค.2552 ที่ผ่านมาของกลุ่ม นายภาณุกฤษณ์ ก็มีคนเข้าร่วมเพียง 20 คนเท่านั้น
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งถึงความเคลื่อนไหวการระดมคนเข้าร่วมชุมนุมกับแก๊ง 3 เกลอหัวขวด ของกลุ่มเสื้อแดง ว่า บรรดาดีเจ คลื่นวิทยุชุมชน 92.5 MHz ของ “รักเชียงใหม่ 51” ที่ขณะนี้บางส่วนต้องใช้การ์ดเข้ามาทำหน้าที่ ดีเจ หลังจากกลุ่มดีเจหลักๆ ที่เคยทำงานมาก่อนทยอยลาออกอย่างต่อเนื่อง ยังคงประกาศระดมทุนทั้งเงิน-อาหาร ผ่านคลื่นของตนเองอย่างต่อเนื่อง อ้างว่า เพื่อใช้เป็นปัจจัยในการเดินทางเข้าร่วมชุมนุมใหญ่กับ 3 เกลอ “วีระ-จตุพร-ณัฐวุฒิ”
พร้อมกับให้ผู้ที่ต้องการเดินทาง ไปลงชื่อที่โรงแรมแกรนด์วโรรส พาเลซ ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ของ นายเพชรวรรต วัฒนพงศ์ศิริกุล แกนนำกลุ่ม โดยล่าสุดช่วง 2 วันที่ผ่านมามีผู้มาลงชื่อแล้วประมาณ 30 คน
อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ครั้งนี้ อาจจะไม่คึกคักมากนัก แม้ว่า ดีเจ อ้อม-น.ส.กัญญาภัค มณีจักร จะประกาศรวมพลคนเสื้อแดงตั้งแต่เช้าวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) เพื่อทำกิจกรรมต่อต้าน นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่จะเดินทางมาเป็นประธานเปิดงานรณรงค์ “90 วัน รวมพลังหยุดเผา บรรเทาโลกร้อน” ก่อนที่จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯต่อไปก็ตาม
ส่วนหนึ่งมาจากความขัดแย้งในกลุ่มเสื้อแดงเอง ที่แยกออกเป็นหลายส่วน นอกจากนี้ ดีเจ อ้อม เองก็ประกาศผ่านคลื่นวิทยุชุมชน 92.5 MHz ด้วยว่า เสื้อแดงเชียงใหม่ ของแท้ต้องเป็น “รักเชียงใหม่ 51” เท่านั้น ทำให้กลุ่มอื่นๆ เกิดความไม่พอใจขึ้น
ขณะที่จังหวัดลำปาง ที่ล่าสุดกลุ่มเสื้อแดงแตกออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มฮักลำปาง 51 ที่ใช้คลื่นวิทยุชุมชน 92.25 Mhz มี นายณัฐชัย อินทราย เป็นแกนนำนั้น ยังคงประกาศผ่านคลื่นวิทยุของตนเองให้คนลำปางมาลงชื่อร่วมเดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยให้นำสำเนาบัตรประชาชนมาด้วยอย่างต่อเนื่อง และมีแผนที่จะจัดเวทีปราศรัยบริเวณหน้าตลาดต้นยาง ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง ในเย็นวันนี้ (28 ม.ค.) ปลุกกระแสหาคนร่วมเดินทางในวันรุ่งขึ้น
ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งที่แยกตัวออกมาตั้งชื่อใหม่ ว่า “เสื้อแดง Five One ลำปาง 51” มี “จ่าน้อย” เป็นแกนนำ ไม่มีแผนที่จะเดินทางไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯในครั้งนี้ แต่จะจัดรายการปลุกกระแสผ่านคลื่นวิทยุ 103.75 MHz ในช่วง 5-6 โมงเย็น พร้อมกับเตรียมตั้งจอโปรเจกเตอร์บริเวณร้านอาการบ้านซอย อ.เมือง ในวันที่ 31 ม.ค.2552 ที่มีการชุมนุมใหญ่ของ นปช.ที่กรุงเทพฯ
อย่างไรก็ตาม หน่วยงานด้านการข่าวหลายหน่วยระบุตรงกัน ว่า ความเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดงในจังหวัดต่างๆ สายล้านนาตะวันออก ทั้งเชียงราย พะเยา ลำปาง แพร่ น่าน ครั้งนี้ไม่น่าจะมีคนเข้าร่วมมากนัก โดยอาจจะมีเฉพาะกลุ่มแกนนำหลักๆ เดินทางเข้าไปร่วมชุมนุมที่กรุงเทพฯ จังหวัดละไม่กี่สิบคนเท่านั้น
เช่น เชียงราย ที่แม้ว่าจะมีเสื้อแดงหลายกลุ่ม แต่จนถึงวันนี้ก็มีเพียงกลุ่ม 24 มิถุนาฯเท่านั้น ที่ออกมากล่าวอ้างว่า จะส่งคนเข้าร่วมการชุมนุมอย่างเป็นทางการ แต่กำลังหลักอย่าง น.ส.จีรนันท์ จันทวงศ์ แกนนำ กลับระบุว่า จะอยู่ในพื้นที่เพื่อทำกิจกรรมเผยแพร่คลื่นวิทยุชุมชนคนรากหญ้า 104 MHz ที่จะเปิดตัวในวันที่ 14 ก.พ.2552 นี้ โดยจะส่งคนในเครือข่ายใหม่ๆ เข้าร่วมการชุมนุม ขณะที่หัวคะแนนนักการเมือง ก็กำลังพยายามติดต่อประสานงานเครือข่ายทุกอำเภอเพื่อระดมคนอยู่
ส่วนพะเยา แม้ว่าจะมีการระดม อสม.ใส่เสื้อแดงจัดประชุม แล้วให้ ส.ส.เพื่อไทย ทั้ง 3 คนขึ้นกล่าวปราศรัยมาแล้วถึง 2 ครั้ง ในช่วงวันที่ 9 และ 17 ม.ค.2552 ที่ผ่านมาก็ตาม แต่ในการชุมนุมใหญ่ของ นปช.คราวนี้ ยังไม่ปรากฏความเคลื่อนไหวระดมคนจากเครือข่ายในพะเยา โดยอ้างว่า ชาวบ้านกำลังเก็บเกี่ยวผลผลิต เป็นต้น แต่ก็เป็นที่น่าสังเกตว่า คำกล่าวอ้างที่ว่า เกิดขึ้นหลังจากมีกระแสข่าวว่า มีใบบอกให้ ส.ส.ออกค่าใช้จ่ายก่อน
ขณะที่ พิษณุโลก แม้ว่า นายภาณุกฤษณ์ พัชรอารี (พิษณุ อ้นอารี) แกนนำกลุ่มรักษ์ประชาธิปไตยสองแคว (รปส.) จะยืนยันว่า มีกำหนดเดินทางไปร่วมเวทีเสื้อแดงที่อยุธยา ในวันพรุ่งนี้ (30 ม.ค.) ส่วนพลพรรคเสื้อแดงพิษณุโลกทั้งหมดจะเดินทางไปสนามหลวงในวันที่ 31 ม.ค.ทั้งทางรถไฟฟรี-รถบัส ร่วมกับเสื้อแดงเชียงใหม่-ลำปาง ก็ตาม แต่เป็นที่แน่นอนแล้วเช่นกันว่า เสื้อแดงพิษณุโลก ก็แตกออกเป็น 2 ส่วน
ส่วนแรกอยู่ในกลุ่มของ นายภาณุกฤษณ์ เองที่ถือเป็นคนใกล้ชิดกับนักการเมืองพรรคไทยรักไทย-พปช.-พท.ขณะที่อีกกลุ่มนำโดย นางชุติมา ประทานชัย (เจ๊ดอกไม้) และ นายพงศ์พัฒน์ พงศ์สุขธน เจ้าของร้านหงส์ทองเทลคอม ที่จะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับกลุ่มเสื้อแดง-ขวัญชัย ไพรพนา ทำให้กำลังคนถูกแยกออกตามไปด้วย เช่น การเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯพิษณุโลก เมื่อ 27 ม.ค.2552 ที่ผ่านมาของกลุ่ม นายภาณุกฤษณ์ ก็มีคนเข้าร่วมเพียง 20 คนเท่านั้น
