น่าน-พระครูพิทักษ์นันทคุณ นักอนุรักษ์จังหวัดน่าน ให้แง่คิดไม่ต้องรอกฎหมายป่าชุมชน แต่ควรเพิ่มจิตสำนึกประชาชนหันมาดูแลป่าเพื่อชุมชน เพื่อประเทศนำสู่การแก้ปัญหาโลกร้อน ในขณะแกนนำป่าชุมชน 15 จังหวัดถกหาแนวร่วมฟื้นฟูป่าไม่รอกฎหมายอีกต่อไป ขยายสำนึกถึงปลายน้ำรวมคนต้นน้ำอนุรักษ์น่านเปิด 99 พื้นที่ ครอบคลุมทั้งจังหวัด นำร่องขยายป่าชุมชน
วันนี้ (29 ม.ค.) ประชาคมจังหวัดน่าน สำนักงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจังหวัดน่าน ทหารจากศูนย์สุริยพงค์ จังหวัดทหารบกจังหวัดน่าน องค์กรพัฒนาเอกชนและตัวแทนประชาชนฟื้นฟูป่าชุมชนใน 15 จังหวัดภาคเหนือ ร่วมทำพิธีเปิดกิจกรรมฟื้นฟูป่าจังหวัดน่านและภาคเหนือตอนบน โดยมีพระครูพิทักษ์ นันทคุณ พระนักอนุรักษ์ เจ้าอาวาสวัดอรัญญาวาส เป็นองค์ประธานเปิดงาน 1 ทศวรรษการขับเคลื่อนทรัพยากร จังหวัดน่าน และภาคเหนือ 15 จังหวัด ที่ลานวัดอรัญญาวาส ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน
การจัดงานในครั้งนี้เป็นการรวมตัวครั้งใหญ่ของประชาชนที่ออกมาขับเคลื่อนการอนุรักษ์ป่าและการฟื้นฟูป่าชุมชนในภาคเหนือ โดยมีการทบทวนการทำงานที่ผ่านมาในรอบ 10 ปี ของการต่อสู้เพื่อพิทักษ์ป่าและพื้นที่สีเขียวของภาคเหนือ มีการขับเคลื่อนกฎหมาย พ.ร.บ.ป่าชุมชน ถึงแม้กฎหมายจะออกมาแล้วแต่ถูกบิดเบือนจนไม่สามารถใช้กฎหมายดังกล่าวได้จริง และนำไปสู่การตีความระเมิดรัฐธรรมนูญอยู่ในขณะนี้
ในขณะที่ป่าซึ่งเป็นศูนย์รวมปัจจัย 4 ของชาวบ้าน แต่ไม่สามารถทำให้ป่ายังคงอยู่ได้ จนเกิดสภาวะวิกฤตในขณะนี้ และหลังจากทบทวนการทำงานที่ผ่านมาและหาทางเดินหน้าเพื่อพิทักษ์ทรัพยากรของชุมชนต่อไป ซึ่งแนวทางในจังหวัดน่านมีการนำรางวัลเกี่ยวกับป่าที่ชาวน่านได้รับ อาทิ รางวัลลูกโลกสีเขียว รางวัลสิปนนท์ เกตุทัต การดูแลรักษาป่าอย่างยั่งยืน ส่งมอบให้เป็นของประชาชนชาวน่านทั้งจังหวัดและร่วมการขยายวงอนุรักษ์ป่า ซึ่งเกิดแนวร่วมถึง 99 พื้นที่ร่วมกันจัดทำแผนฟื้นฟูป่าชุมชนต่อไป
ในขณะที่มีแนวทางจับมือเครือข่ายระดับจังหวัดในภาคเหนือ ให้มีการขยายวงออกไปอย่างทั่วถึง ภายใต้แนวคิดของประชาชนและภาครัฐเข้าไปหนุนช่วย
พระครูพิทักษ์นันทคุณ กล่าวปาฐกถาธรรมในที่ประชุม ชื่นชมเครือข่ายป่าชุมชนที่ร่วมกันทำงานมานานกว่า 20 ปี ซึ่งเห็นได้ชัดจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงวาดภาพเทือกเขาจังหวัดน่านที่เป็นภูเขาหัวโล้น ทำให้ประชาชนได้ตระหนักและร่วมกันเห็นความสำคัญร่วมกับสมาชิกเครือข่ายป่าชุมชน
การอนุรักษ์ป่าครั้งยิ่งใหญ่ของชาวภาคเหนือ คงไม่ต้องรอการออกกฎหมาย พ.ร.บ.ป่าชุมชน แต่ควรเพิ่มจิตสำนึกประชาชนให้เกิดการหวงแหนและร่วมกันฟื้นฟูป่า เมื่อฟื้นฟูได้ทำให้ลุ่มน้ำได้รับผลมีน้ำเพื่อการเกษตรอย่างทั่วถึง และคนปลายน้ำในภาคกลางต้องร่วมกันทำอย่างไรจะทำให้คนในภาคกลางออกมามีส่วนร่วมในการดูแลป่าชุมชนจะทำให้กระแสการฟื้นฟูเร็วขึ้น