พิจิตร – สุดทน นายก อบจ.พิจิตร โวยลั่นกรรมการจัดงานแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานวัดท่าหลวงทำทุนหายกำไรหด ส.จ.ตั้งกระทู้ถาม อบจ. อุดหนุน 3 ล้านบาท เงินไม่มีเหลือเข้าวัด ชาวบ้านคาใจ งบดุลจัดงาน รายรับ-รายจ่าย เสมอตัว แถมรายการสปอนเซอร์ รวมไปถึงเงินที่อุดหนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งรัฐ-เอกชนกลับล่องหน
นายวันชัย ด่านรุ่งโรจน์ สมาชิกสภาองค์การส่วนบริหารจังหวัดพิจิตร ได้ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวขอให้ตรวจสอบเงิน 3 ล้านบาท ที่สภา อบจ.พิจิตร อนุมัติเพื่อไปอุดหนุนงานแข่งขันเรือยาวประเพณีชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 5-7 กันยายน 2551 ณ บริเวณแม่น้ำน่านหน้าวัดท่าหลวงพระอารามหลวงที่ผ่านมา ว่าส่อแววมีการนำเงินไปใช้อย่างไม่โปร่งใสและมีเงื่อนงำ เข้าทำนองวัดครึ่งหนึ่งกรรมการครึ่งหนึ่ง และได้ตั้งกระทู้ถามนอกสภา กับนายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ นายก อบจ.พิจิตร ขอให้สืบค้นการใช้เงินดังกล่าวว่า อบจ.พิจิตร ส่งเงินไปสนับสนุนแล้วจังหวัดได้เอาไปทำอะไรบ้าง เพราะงานแข่งเรือได้จบมาข้ามปีแล้ว ก็ยังไม่มีการแถลงให้ชัดเจนว่ามีกำไร-ขาดทุน และเหลือเงินบริจาคเข้าวัดเท่าไหร่
ในส่วนของนายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ นายกอบจ.พิจิตร เปิดเผยว่า หลังจากที่สมาชิก อบจ.ถามมา ถึงเรื่องเงิน 3 ล้านบาท ที่ อบจ.พิจิตร อุดหนุนจังหวัด เพื่อไปจัดงานแข่งเรือ ก็ได้ขอคำตอบไปยัง ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ที่ดูแลเรื่องรับเงินอุดหนุนจากท้องถิ่น ก็ได้รับคำจากนายอภิชาต เทียวพานิช ปลัดจังหวัด ปฏิบัติราชการแทนผู้ว่าฯ พิจิตร ตามหนังสือลงเลขที่ พจ 0017/18221 ว่า มีรายรับจาก อบต.83 แห่ง เป็นเงิน 830,000 บาท เทศบาลตำบล 14 แห่ง เป็นเงิน 7000,000 บาท เทศบาลเมือง 3 แห่ง เป็นเงิน 600,000 บาท และ อบจ.พิจิตร เป็นเงิน 3 ล้านบาท รวมรายรับทั้งสิ้น 5,130,000 บาท และมีรายจ่าย 6 ฝ่าย 16 รายการ 5,130,000 บาท พอดีด้วยเช่นกันเรียกได้ว่ารายรับ-รายจ่าย เสมอตัวพอดิบพอดี
ดูตามบัญชีรายรับรายจ่ายถือว่าผิดปกติ เพราะการจัดงานแข่งขันเรือยาวทุกปีที่ผ่านมาจะมีกำไรเป็นล้านบาทขึ้นไป แล้วจะนำไปถวายวัดเพื่อนำเงินดังกล่าวไปพัฒนาวัดท่าหลวงและโรงเรียนหลวงพ่อเพชร แต่ปีนี้ทำกันอย่างไรจึงออกมาเสมอตัว นอกจากนี้ยังมีการตั้งข้อสังเกตว่าเงินที่ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ได้อุดหนุนผ่านทางการท่องเที่ยว ก็ไม่มีการลงในรายรับ อีกทั้งเงินที่ได้จากภาคพ่อค้า ประชาชน บริษัท ห้างร้านที่ได้บริจาคมาอีกเป็นจำนวนเงินมิใช่น้อย ก็ไม่ปรากฏหลักฐานให้ชัดแจ้งจึงอยากขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องตอบให้ชัดเจน เพราะขณะนี้มีบรรดา ส.จ.พิจิตร ไปบนบานศาลกล่าวขอให้หลวงพ่อเพชร พระศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดพิจิตร โปรดช่วยแสดงอิทธิฤทธิ์ ให้กรรมตามสนองผู้ที่เบียดบังเงินวัด เงินพระไป ขอให้มีอันเป็นไปด้วย
