ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ตำรวจภูธรภาค 4 ตรวจสถานบันเทิงชื่อดังกลางเมืองขอนแก่น เข้ม หวั่นซ้ำร้อย ซานติก้าผับ ย้ำ 11 จังหวัดอีสานตอนบน หมั่นตรวจความพร้อม และมาตรการรักษาความปลอดภัยเต็มที่ ขณะที่การจราจรบนถนนมิตรภาพหนาแน่น หลังประชาชนท่องเที่ยวและฉลองเทศกาลปีใหม่ในภูมิลำเนาเสร็จสิ้น และทยอยเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
เมื่อคืนที่ผ่านมา (3 ม.ค.) พล.ต.ต.สุวีระ ทรงเมตตา รอง ผู้บัญาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุจิต นิจพาณิชย์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เข้าทำการตรวจสถานบันเทิงแรดผับ และ ยูบาร์ผับ สถานบันเทิงชื่อดัง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น และมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก
โดยในการตรวจสอบครั้งนี้ ได้เน้นการตรวจสอบสภาพความพร้อมของสถานบริการ ทั้งประตูหนีไฟ โครงสร้างพื้นฐาน ประตูเข้าและออก ป้ายเตือนต่างๆ อุปกรณ์ดับเพลิงและอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมหากเกิดสถานการณ์ขึ้นเช่นเดียวกันกับที่ ซานติก้าผับ ย่านเอกมัย จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า จากการตรวจสอบระบบและมาตรฐานของการให้บริการทั้งระบบ พบว่ามีมาตรฐานของการให้บริการและมาตรฐานในระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ โยเฉพาะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวของผู้ที่มาใช้บริการ หรือผู้ที่จะเข้ามาก่อกวน ได้ทั้งภายในและภายนอก ขณะที่ระบบรักษาความปลอดภัยและอุปกรณ์การช่วยชีวิต มีการติดตั้งไว้อย่างชัดเจนและง่ายต่อการนำมาใช้ นอกจากนี้ ประตูหนีไฟและทางเข้า-ออก มีการติดป้ายอย่างชัดเจน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะพบเห็นได้โดยง่าย
นอกจากนี้ ยังได้กำชับไปยัง 11 จังหวัดในพื้นที่สังกัดตำรวจภูธรภาค 4 ให้จัดส่งชุดสายตรวจทำการตรวจสอบอยู่เป็นประจำ เพราะนอกจากจะคุมเข้มในเรื่องของการควบคุมอายุผู้เข้ามาใช้บริการแล้วยังคงต้องมีการตรวจสอบในเรื่องของการรักษาชีวิตและทรัพย์สินให้กับผู้ที่มาใช้บริการด้วย
ด้านรายงานสภาพการจราจรล่าสุดบนถนนมิตรภาพ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จนกระทั่งช่วงสายของวันนี้ (4 ม.ค.) ยังคงเนืองแน่นไปด้วยรถทุกประเภทที่เดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล หลังประชาชนได้กลับภูมิลำเนา เพื่อร่วมฉลองเทศกาลปีใหม่กับครอบครัว ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดหนองคาย และต้องใช้เส้นทางถนนมิตรภาพเพื่อกลับกรุงเทพฯนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการปรับการตั้งจุดตรวจในฝั่งขาล่องมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานครเพิ่มขึ้น
พร้อมทั้งการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และความพร้อมของผู้ขับขี่อย่างจริงจัง พร้อมเปิดช่องทางจราจรฝั่งขาเข้า กทม.เป็น 3 ช่องทางเพื่อเร่งระบายรถพร้อมทั้งการแนะนำไปใช้เส้นทางลัดเพื่อตัดผ่านเข้า กทม.โดยมั่นใจว่า จะสามารถระบายรถได้หมดและให้ประชาชนสะดวกและสบายใจตลอดการเดินทาง
เมื่อคืนที่ผ่านมา (3 ม.ค.) พล.ต.ต.สุวีระ ทรงเมตตา รอง ผู้บัญาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุจิต นิจพาณิชย์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เข้าทำการตรวจสถานบันเทิงแรดผับ และ ยูบาร์ผับ สถานบันเทิงชื่อดัง ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น และมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการในแต่ละวันเป็นจำนวนมาก
โดยในการตรวจสอบครั้งนี้ ได้เน้นการตรวจสอบสภาพความพร้อมของสถานบริการ ทั้งประตูหนีไฟ โครงสร้างพื้นฐาน ประตูเข้าและออก ป้ายเตือนต่างๆ อุปกรณ์ดับเพลิงและอุปกรณ์ช่วยเหลือต่างๆ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมหากเกิดสถานการณ์ขึ้นเช่นเดียวกันกับที่ ซานติก้าผับ ย่านเอกมัย จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
รอง ผบช.ภ.4 กล่าวว่า จากการตรวจสอบระบบและมาตรฐานของการให้บริการทั้งระบบ พบว่ามีมาตรฐานของการให้บริการและมาตรฐานในระบบรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่ โยเฉพาะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดที่สามารถตรวจสอบความเคลื่อนไหวของผู้ที่มาใช้บริการ หรือผู้ที่จะเข้ามาก่อกวน ได้ทั้งภายในและภายนอก ขณะที่ระบบรักษาความปลอดภัยและอุปกรณ์การช่วยชีวิต มีการติดตั้งไว้อย่างชัดเจนและง่ายต่อการนำมาใช้ นอกจากนี้ ประตูหนีไฟและทางเข้า-ออก มีการติดป้ายอย่างชัดเจน ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะพบเห็นได้โดยง่าย
นอกจากนี้ ยังได้กำชับไปยัง 11 จังหวัดในพื้นที่สังกัดตำรวจภูธรภาค 4 ให้จัดส่งชุดสายตรวจทำการตรวจสอบอยู่เป็นประจำ เพราะนอกจากจะคุมเข้มในเรื่องของการควบคุมอายุผู้เข้ามาใช้บริการแล้วยังคงต้องมีการตรวจสอบในเรื่องของการรักษาชีวิตและทรัพย์สินให้กับผู้ที่มาใช้บริการด้วย
ด้านรายงานสภาพการจราจรล่าสุดบนถนนมิตรภาพ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จนกระทั่งช่วงสายของวันนี้ (4 ม.ค.) ยังคงเนืองแน่นไปด้วยรถทุกประเภทที่เดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพฯ และเขตปริมณฑล หลังประชาชนได้กลับภูมิลำเนา เพื่อร่วมฉลองเทศกาลปีใหม่กับครอบครัว ตลอดจนนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดหนองคาย และต้องใช้เส้นทางถนนมิตรภาพเพื่อกลับกรุงเทพฯนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการปรับการตั้งจุดตรวจในฝั่งขาล่องมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานครเพิ่มขึ้น
พร้อมทั้งการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์และความพร้อมของผู้ขับขี่อย่างจริงจัง พร้อมเปิดช่องทางจราจรฝั่งขาเข้า กทม.เป็น 3 ช่องทางเพื่อเร่งระบายรถพร้อมทั้งการแนะนำไปใช้เส้นทางลัดเพื่อตัดผ่านเข้า กทม.โดยมั่นใจว่า จะสามารถระบายรถได้หมดและให้ประชาชนสะดวกและสบายใจตลอดการเดินทาง