ทีมพีอาร์ “เสี่ยแมว-วรวัจน์” เปิดหน้าขวางการเมืองใหม่ ย้ำขอ “แม้ว” คืนอย่างเดียว

แพร่ – ทีมประชาสัมพันธ์ “เสี่ยแมว- วรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล” เปิดหน้านำทีมเสื้อแดงประกาศต้านอมาตยาธิปไตย ค้าน รธน.50 ขวางการเมืองใหม่ ย้ำต้องการ “แม้ว” คืนอำนาจอย่างเดียว พร้อมเผยใบปลิวโจมตีสถาบันฯ เนื้อหารุนแรงที่โผล่ในท้องที่เมืองแพร่ช่วงก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน

รายงานข่าวจากจังหวัดแพร่แจ้งว่า กลุ่มเสื้อแดงในจังหวัดแพร่ที่ออกมารวมตัวกันที่ตลาดแพร่ปรีดาจำนวน 70 คน เมื่อวานที่ผ่านมา (10 ธ.ค.) นั้น เป็นการนำโดยดาบตำรวจประพันธ์ ปัญญาสิงห์ นักจัดรายการ วิทยุ อสมท จังหวัดแพร่ ทีมประชาสัมพันธ์ของนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.แพร่พรรคเพื่อไทย, นายสุรวุฒิ หอมขจร ประธานเครือข่ายวิทยุชุมชนจังหวัดแพร่, นายพงศ์สวัสดิ์ เหล่าอารยะ เจ้าของร้านแพร่รัตนชัย

กลุ่มเสื้อแดง หรือ นปช.จังหวัดแพร่ ที่รวมตัวกันออกมาเคลื่อนไหวถือป้ายสีแดง มีข้อความโจมตีอมาตยาธิปไตย ต่อต้านการเมืองใหม่ ต่อต้านรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 และมีข้อความโจมตีว่ากระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยว่าใช้ไม่ได้แล้วโดยมีการวาดภาพตราชั่งที่เอียงข้าง ออกเดินรณรงค์ไปด้วย และยกย่องรัฐธรรมนูญปี 2540 ในขณะเดียวกันก็ได้เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคืนสู่อำนาจ

โดยระบุว่าชาวแพร่ทนดูไม่ไหวแล้วกับการย่ำยีประชาธิปไตย มีคนกลุ่มเล็กๆ ไปทำลายประชาธิปไตยคือกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ไปยึดทำเนียบรัฐบาลและสนามบิน ไม่ยอมรับเสียงข้างมากให้บริหารประเทศ ซึ่งพรรคพลังประชาชนได้รับเลือกตั้งแต่คนเหล่านี้ไม่ยอม ทำให้การบริหารราชการในประเทศไทยกลับสู่ระบอบอมาตยาธิปไตย ทางออกที่ดีที่สุดต้องเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และระบอบทักษิณเท่านั้นจึงจะเป็นประชาธิปไตยอีกครั้ง

ดาบตำรวจประพันธ์ ปัญญาสิงห์ ทีมงานหาเสียงนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การออกมาชุมนุมของคนเสื้อแดงในครั้งนี้ เพราะทนไม่ได้ที่เห็นประชาธิปไตยถูกย่ำยี ไม่ยอมรับการเลือกตั้งที่ได้เสียงข้างมากและการชุมนุมครั้งนี้เกิดขึ้นแล้วในทุกจังหวัดของประเทศ เรียกร้องให้คืนการบริหารประเทศมาสู่พรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมากโดยด่วน ซึ่งชาวจังหวัดแพร่ทนไม่ไหวแล้วจึงได้ตั้งกลุ่มพระยาไชยบูรณ์ 51 ขึ้นมาเพื่อเคลื่อนไหวต่อต้านเผด็จการในครั้งนี้

นายประสาท ประเทศรัตน์ ปราชญ์ชาวบ้านของจังหวัดแพร่ กล่าวว่า เป็นความชอบธรรมที่ประชาชนจะออกมาชุมนุมแสดงความคิดเห็น แต่ต้องมีความเข้าใจว่าอะไรคือ เผด็จการ อะไรคือประชาธิปไตยให้ถ่องแท้เสียก่อน การที่ยกย่อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้เป็นฮีโร่ และบอกว่าทักษิณสู้ๆ ถามว่าเขาเหล่านั้นเข้าใจอย่างไรและต่อต้านสถาบันอื่นๆ ไปทั่วไม่ว่าจะเป็นศาล อมาตยาธิปไตย หรือข้อตกลงร่วมกันที่เรียกว่ากฎหมายรัฐธรรมนูญ ความจริงแล้วคนไทยพยายามอย่างยิ่งที่จะแก้ปัญหาโกงกินของนักการเมือง จึงมีมาตราเด็ดๆ ออกมาใช้บังคับ เป็นจังหวะของรัฐธรรมนูญที่เดินหน้ามาเป็นลำดับ ในการใช้บังคับและปราบปรามผู้กระทำผิดคอรัปชั่น ซึ่งกำลังเห็นผลอยู่ในขณะนี้

การออกมาประท้วงย่อมทำได้ แต่ควรมองว่าอะไรจะทำให้บ้านเมืองไปได้ สิ่งนั้นต่างหากที่ควรดำเนินการ ดังนั้นทุกคนในจังหวัดแพร่จึงน่าจะมองตัวเองว่า เป็นสังคม ไม่ใช่ส่วนหนึ่งแต่เป็นสังคม ไคร่ครวญด้วนตนเองถ้าส่งผลกระทบต่อผู้อื่นต่อส่วนรวมก็จะระงับไปเอง

“อะไรที่ทำให้เกิดความดีงามก็จะออกมาช่วยกันทำ ไม่ใช่ตกอยู่ในเงื้อมมือของนักการเมืองตลอดไป”

ทั้งนี้ ในท้องที่จังหวัดแพร่ระยะที่ผ่านมา ได้ปรากฏใบปลิวโจมตีสถาบันเบื้องสูงแพร่กระจายอย่างต่อเนื่อง โดยครั้งหนึ่งกลุ่มบุคคลที่อยู่เบื้องหลังดำเนินการถึงขั้นนำไปแจกที่ห้างฯบิ๊กซี กลางเมืองแพร่ ในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช ซึ่งเป็นใบปลิวที่มีข้อความเนื้อหาโจมตีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างรุงแรง โดยแอบอ้างว่าเป็นผู้ที่ถวายงานรับใช้ใกล้ชิดเบื้องสูง อ้างว่าขณะนี้เบื้องบนมีความคิดแตกแยกกัน รวมทั้งแย่งชิงกันเอง มีบางส่วนให้การสนับสนุนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทำให้องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทุกข์พระทัย นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาโจมตี พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อย่างรุนแรง

โดยใบปลิวดังกล่าว ได้มีการนำส่งต่อหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่แล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ยังคงปล่อยให้มีการนำเนื้อหาในใบปลิวไปขยายผลปากต่อปาก-มือต่อมือ แพร่กระจายไปยังประชาชนในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่การเคลื่อนไหวแจกใบปลิวบริเวณห้างบิ๊กซี. ที่มีกล้องวงจรปิดอยู่หลายจุดนั้น น่าจะสามารถตรวจสอบกลุ่มบุคคลที่นำใบปลิวมาแจกได้อย่างไม่ยากนักก็ตาม